เร่งล่าไอ้หื่นล่อลวง ด.ญ.ไปข่มขืน ย่ำยีจนบาดเจ็บ จิตใจบอบช้ำมาก

สังคม

เร่งล่าไอ้หื่นล่อลวง ด.ญ.ไปข่มขืน ย่ำยีจนบาดเจ็บ จิตใจบอบช้ำมาก

โดย

20 ม.ค. 2564

702 views

 ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวไอ้หื่นล่อลวง เด็กหญิงชั้น ป.5 ไปข่มขืน โดยออกอุบายอ้างผู้ใหญ่บ้านให้มารับไปพบ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ไปด้วย กับถูกพาไปย่ำยีจนบาดเจ็บ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
เหตุการณ์สุดสลดนี้ เกิดขึ้นเมื่อวาน เวลา 5 โมงเย็น พันตำรวจเอก นิวัฒน์ การสิทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจาก นางน้อย อายุ 70 ปี เป็นป้า ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอยุธยา ว่า หลานสาวถูกคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี ล่อลวงไปข่มขืน ขณะนี้น้องเอ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจรักษาเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ และสภาพจิตใจบอบช้ำมาก
ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนเปลี่ยวทางเข้าหมู่บ้านหลังโรงเรียน หมู่ 2 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง เป็นลานจอดรถรกร้างห่างชุมชน จุดที่คนร้ายก่อเหตุเป็นพงหญ้ารกมีร่องรอยคนร้ายกระทำอนาจารเด็กหญิงหญ้าเป็นแปลง มีเลือดหยดติดใบหญ้ากระจายทั่วบริเวณ ตำรวจได้เข้าเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม ป้าของน้องเอ ให้การว่า คนร้ายอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่บ้าน และขี่รถมอเตอร์ไซด์ มาดูลาดเลาที่บ้านของน้องเอ พอสบโอกาสจังหวะที่น้องเอ กำลังเดินมาตกปลาในทุ่งนาหลังโรงแรมแถวนั้น จึงขี่รถมาพูดคุยอ้างว่า ผู้ใหญ่บ้านให้มารับตัวไปพบ เมื่อน้องเอหลงเชื่อนั่งซ้อนท้ายรถไปด้วย กระทั่งถูกพามาใช้กำลังบังคับข่มขืนในจุดเกิดเหตุ หลังคนร้ายเผลอน้องเอ จึงรีบวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือ ขณะที่คนร้ายรีบขี่รถหลบหนีไป
จากนั้น ป้าของน้องเอ ได้ไปต่อว่าผู้ใหญ่บ้านที่บ้านพัก กระทั่งทราบความจริงว่า คนร้ายเอาชื่อผู้ใหญ่บ้านมาแอบอ้าง โดย นายวานิช ดิษฐลักษณ์ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง หรือ ผู้ใหญ่หนึ่ง เปิดเผยว่า คนร้ายได้แอบอ้างชื่อตนเองว่าให้มารับ น้องเอ ซึ่งรู้จักกับคนร้าย จึงหลงเชื่อ และขึ้นรถซ้อนท้ายมาด้วยกัน ตนพอจะรู้ตัวคนร้ายแล้ว ขี่รถมอเตอร์ไซด์ สีฟ้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รูปร่างตัวเล็ก ผอม สูง ผิวดำแดง อายุประมาณ 30 ปี คาดมีการวางแผนมาอย่างดี
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวนรู้ตัวคนร้ายแล้ว โดยตอนนี้ได้แบ่งการทำงานออกติดตามคนร้ายเป็น 2 ชุด ชุดแรกเป็นชุดเทคโนโลยีให้แกะรอยกลอ้งวงปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อนจะก่อเหตุล่วงหน้า 2 วัน และเส้นทางวันก่อเหตุอย่างละเอียด / อีกชุดลงพื้นที่หาข่าวกับกลุ่มชาวบ้านในรัศมีรอบจุดเกิดเหตุ เนื่องจากทางการสืบสวนทราบว่าคนร้าย มีการวงแผนสอบถามพฤติกรรมคนในบ้านอย่างละเอียด และเข้ามาแฝงตัวทำทีเข้างออกบ้านน้องเอก่อนก่อเหตุด้วย แต่ด้วยที่ทุกคนไม่เอะใจจะเป็นคนร้าย ซึ่งข้อมูลชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่า เคยเห็นหน้าคนร้าย เบื้องต้นให้ชุดสืบสวนนำภาพรถ จยย.ของคนร้ายไปขยายเก็บความละเอียดด้วยเทคนิคเพื่อติดตามแกะรอยจากเลขทะเบียน
ด้าน นางไข่เพชร พรหมวงส์ อายุ 40 ปี พยานสำคัญที่เห็นน้องเอเดินทางออกไปตกปลาด้วยกันกลางทุ่งนาหลังโรงแรม ทีจำหน้าคนร้ายได้และพูดคุยกับคนร้ายบอกว่าคิดว่าคนร้ายกับเด็กรู้จักกันในครั้งแรก คนร้ายรูปร่างผมวัยรุ่นอายุุุยังไม่มากเท่าไร ขี่รถมอเตอร์ไซด์มาหาอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ ให้มารับเอาขนมไปให้แม่ ตอนนั้นตนรู้สึกเอะใจแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร น้องเอจะไปเพราะกลัวจะถูกแม่ตี
ขณะที่ น้องชายของน้องเอ วอนขอให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายได้เร็วๆ สงสารพี่สาวถุููกกระทำเช่นนี้ น้องชายยืนยันคนร้ายเคยมาหาแม่ที่บ้านก่อนจะลงมือก่อเหตุด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ