แฟนหนุ่มสารภาพ ฆ่าแฟนสาวหมกรถ สยอง! ขับรถพาศพไปทิ้งนาน 6 ชม.

สังคม

แฟนหนุ่มสารภาพ ฆ่าแฟนสาวหมกรถ สยอง! ขับรถพาศพไปทิ้งนาน 6 ชม.

โดย

23 ธ.ค. 2563

5K views

กรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช อายุ 35 ปี ชาวจ.ชัยภูมิ ทำงานเป็นข้าราชการ ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน กลุ่มงานประเมินผล ส่วนบรรจุและแต่งตั้ง สำนักงานการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าท้องขวา เสียชีวิตภายในรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพมหานคร บนถนนสายเซ้าท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา และจากการสืบสวนคาดว่า แฟนหนุ่มผู้ตาย เป็นผู้ต้องสงสัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 22 ธันวาคม ที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุราฏร์ธานี พ.ต.ท.ธนัญชัย นวลนิรันดร์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.8 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ควบคุมตัวนายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยโดยไม่ได้รับอนุญาติ
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับประสานจากทางญาตินายโอชา ผู้ต้องหาติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อำเภอหัวไทร โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางไปรับตัวเพื่อนำกลับมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโอชา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง และเพิ่งคบหากับฝ่ายหญิงมาได้ระยะหนึ่ง โดยตนเองได้โกหกผู้ตายว่า เป็นคนมีฐานะ และมีสวนอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาตนเองและผู้ตาย ได้ไปหาพ่อแม่ฝ่ายหญิงที่จังหวัดชัยภูมิ และมีแพลนที่จะแต่งงานกัน หลังจากนั้นได้พาได้ผู้ตายไปบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อฝ่ายหญิงทราบว่าไม่ได้เป็นเหมือนที่พูดเลยรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก และได้โทรกลับไปบอกที่บ้านว่าเหมือนโดนหลอก ถ้าตนเองโทรไปไม่ต้องรับสาย
“ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจาก กทม. เพื่อที่จะมุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างทางในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครได้เกิดมีปากเสียงกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองไปหลอกฝ่ายหญิงว่าเป็นคนรวย จึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ยิงใส่ผู้ตายหลายนัดจนเสียชีวิต  และได้นำเสื้อแจ๊กเก็ตมาคลุมตัวไว้ และใส่แมสก์ที่จมูก ทำเหมือนคนนอนหลับ”
หลังจากก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปทิ้งในพื้นที่แยกวังมะนาว จากนั้นได้ขับรถพาศพนั่งมาในรถนานกว่า 6 ชั่วโมง จนมาถึงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้โทรไปบอกกับน้องชาย ว่า "ได้ทำปืนลั่นใส่แฟนจนตาย" และได้นำรถมาจอดที่จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะให้น้องชายขับรถมารับเพื่อหลบหนีไปอำเภอหัวไทร จนทางญาติพี่น้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประสานเข้ามอบตัว เนื่องจากทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมนำตัวผู้ต้องหาไปหาอาวุธปืนของกลางในจุดที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างต่อไป
ขณะที่ที่บ้านของผู้ตายในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเพชร อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช อายุ 35 ปี หญิงสาวข้าราชการหน้าตาดีของสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร พบกับ มารดาของ น.ส.ฐิติรัตน์ ซึ่งขณะกำลังวุ่นๆอยู่กับการเตรียมงานศพ กล่าวว่า ตนทราบข่าวแล้วว่าเจ้าหน้าที่ได้ติดตาม และกดดันคนร้ายจนในที่สุดยอมที่จะเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี รู้สึกสบายใจและเสียใจควบคู่กัน ที่ดีใจก็คือสามารถจับคนร้ายได้และตนยังยืนยันคำเดิมว่าเป็นฝีมือว่าที่ลูกเขยอย่างแน่นอน เพราะลูกสาวตนไม่เคยคบหาใครหลังจากเลิกกับแฟนเก่า ส่วนที่เสียใจคือตนต้องสูญเสียลูกสาวที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันหวลกลับ ตนจะไม่อโหสิกรรมให้อย่างเด็ดขาด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายให้ถึงที่สุด
น้องเอ้ เป็นหญิงสาวที่ตนรักมาก ก่อนหน้านั้นเคยมีแฟนมาก่อนแล้ว แต่ได้เลิกรากันไปนานแล้ว จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่แจ้งเข้ามาว่า มีคนพบศพน้องเอ้อยู่ภายในรถเก๋งของน้องเอ้ คันที่ใช้อยู่เป็นประจำ ที่จังหวัดสุราษฏ์ธานี ทางครอบครัวจึงเดินทางไปดูศพ ตนไม่อยากคิดว่าเป็นศพของน้องเอ้ ตนภาวนาขอไม่ให้เป็นเช่นนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยัน ส่วนตัวยังมั่นใจว่าเหตุครั้งนี้ น้องเอ้ ถูกแฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมาราว 2-3 เดือนเป็นผู้ลงมือ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WiBiqgwKGVQ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ