TPN แถลงปมสัญญา 'ฟ้าใส ปวีณสุดา' พร้อมยกมงกุฎ MUT2019 ให้ หากคิดว่าเหมาะสม

บันเทิง

TPN แถลงปมสัญญา 'ฟ้าใส ปวีณสุดา' พร้อมยกมงกุฎ MUT2019 ให้ หากคิดว่าเหมาะสม

19 พ.ย. 2563

865 views

ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ ผู้บริหาร บริษัท TPN 2018 จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand แถลงข่าวชี้แจงปมดราม่า กรณี ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ทุกประเด็น ต่อหน้าพระแก้วมรกต พร้อมยกมงกุฎให้หากคิดว่าเหมาะสม
มากันที่เรื่องราวดราม่าในวงการนางงาม สำหรับเวทีกระประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หลังจากที่มีประเด็นว่า 'ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น' มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ไม่เซ็นสัญญากับกองประกวดทำให้ไม่ได้รับรางวัล และ มงกุฎ
ซึ่งก่อนหน้านี้ 'ฟ้าใส' ได้แถลงข่าวว่า TPN เป็นผู้ขอเปลี่ยนสัญญาในฉบับที่ 2 ที่แอตแลนต้า และฉบับที่ 3 ที่ฟ้าใสได้รับที่เมืองไทย หลังจากประกวดมิสยูนิเวิร์สเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่ได้ บ่ายเบี่ยงที่จะไม่เซ็นสัญญา เพราะได้เซ้นต์ฉบับที่ 1 แล้วตั้งแต่ตอนเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ซึ่งในสัญญาได้บอกถึงเงินรางวัล ระยะเวลาสัญญา และบทบาทหน้าที่ของผู้รับตำแหน่งไว้อย่างครบถ้วนแล้ว แต่เมื่อทาง TPN ส่งสัญญาฉบับที่ 2และ3 เนื้อหาไม่ตรงตามสัญญาที่ 1 ฟ้าใสจึงทักท้วงกลับไปยัง TPN มาโดยตลอด มีการเพิ่มจำนวนปีสัญญา และ เปอร์เซ็นที่หักเป็น 50/50
และที่ทาง TPN แจ้งว่าในวันที่นัดเซ็นสัญญา รองทั้ง4 คนได้เข้ามาเซ็นทุกคน ขาดแค่ 'ฟ้าใส' เจ้าตัวก็บอกว่า ในวันนั้นทาง TPN ไม่เคยแจ้งและไม่เคยเรียกหนูเข้าไปเซ็นสัญญาเลย พร้อมกับบอกว่าทาง TPN ได้ส่งสัญญามาให้ 'ฟ้าใส' ตอนเที่ยงคืน ก่อนที่จะเดินทางไปแอตแลนต้า เพื่อเข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2019 จึงทำให้ไม่สามารถเปิดดูสัญญาได้
ซึ่งเมื่อวานนี้ 'ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก' และ 'ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ' ผู้บริหาร บริษัท TPN 2018 จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องทังหมด โดยได้อัญเชิญพระแก้วมรกตที่นับถือมามาตั้ง เพื่อยืนยันว่าเรื่องที่พูดเป็นความจริงทั้งหมด
ในเรื่องของสัญญาที่ 'ฟ้าใส' บอกว่าเซ็นไว้ตั้งแต่เข้าประกวดกับเพื่อนๆ ทั้ง 60 คน ทาง TPN และ ทนายความก็ยืนยันว่าเป็นเพียงบันทึกข้อตกลงในการประกวด ซึ่งในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้บอกไว้ว่าหลังจากได้รับตำแหน่ง ทั้ง 5 คน ต้องเข้ามาเซ็นสัญญาภายใน 30 วัน  เพื่อนๆ รองทั้ง 4 คนได้มาเซ็นสัญญา และไม่มีประโยชน์ที่ทางกองจะปกปิดไม่ให้เซ็นสัญญา ส่วนประเด็นเรื่องการแก้ไขเนื้อหาในสัญญา สองผู้บริหารก็บอกว่ามีการคุยกัน 3 คนในห้องประชุม ว่าฟ้าใสเป็นนางงามที่มีศักยภาพ หากจบประกวดแล้ว (จะได้มง MU หรือเปล่าก็ไม่รู้) กลับมาแล้วอยากทำอะไร ฟ้าใสตอบว่าอยากทำ Academy สอนนางงาม ซึ่งทาง TPN เห็นด้วย จึงจะตั้ง Academy ขึ้นมาให้ แล้วให้ฟ้าใสเป็น MD บริหาร Academy จึงเป็นที่มาของการคิดเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสัญญาเป็นจ้างงานกันระยะยาว “ตลอดชีวิต” โดยจะต่อทุกๆ 3 ปี จากเดิมที่ระบุว่าผู้ชนะ MUT จะต้องเซ็นสัญญากับ TPN เป็นระยะเวลา 2 ปี (ผู้ชนะ 1 ปี + ศิลปิน 1 ปี)
ขณะที่เรื่องแบ่งส่วนแบ่ง 50:50 กองคิดว่าหากมีงานที่ต่างประเทศ จะขอแบ่ง 50% โดยจะช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งการเดินทาง การติดต่อ Agency แต่ทางแม่ของฟ้าใส ไม่โอเค ก็ได้แก้สัญญาเป็น 70:30 และมีพยานยืนยันว่า 'ฟ้าใส' ได้อ่านสัญญาแล้วหลายครั้ง
ส่วนที่ 'ฟ้าใส' บอกว่ากองส่งสัญญาตอนเที่ยงคืนก่อนวันไปแอตแลนต้า ซึ่งทาง 'ปุ้ย' ก็ยืนยันว่าฟิตติ้งชุดเสร็จ 4 ทุ่ม ตนไปส่งฟ้าใส พร้อมมอบซองสัญญาให้อีกครั้ง แต่ 'ฟ้าใส' บอกว่าค่อยอ่านและเซ็นที่นั่นก็ได้ แต่พอไปถึงแอตแลนตา ก็บอกว่าลืมเอามา เลยได้ให้ทีมที่ตามไปทำสัญญาไปให้อีก แต่แม่ก็ขอแก้หลายข้อ ทางกองก็โอเค เพื่อจะส่งกองประกวดใหญ่ สุดท้ายน้องก็ไม่ได้เซ็น บอกว่าจะมาเซ็นที่ไทย พอหลังกลับจากประกวดมิสยูนิเวิร์ส ก็มีการนัดเซ็นสัญญาอีกครั้ง โดยได้ ไล่ไทม์ไลน์ และ โชว์เอกสารแชทนัดหมาย รวมถึงภาพวันที่ได้เข้ามาเซ็นสัญญา โดย 'ฟ้าใส' ได้ขอเอาสัญญาไปอ่านก่อน 3 วัน แต่ก็ไม่ได้ส่งคืน จนทางกองต้องยื่นโนติสท์ไป ทวงถามในวันที่ 27 มกราคม ซึ่งก่อนวันที่ 'ฟ้าใส' ได้โชว์แชทไลน์ทวงถามกองเรื่องการเข้ามาเซ็นสัญญา ในวันที่ 2 ก.พ.
และได้นัดกันวันที่ 21 ก.พ. ทั้งกองและ 'ฟ้าใส' ได้เจอกัน โดย 'ฟ้าใส 'ได้นำสัญญาฉบับที่ทำมาเอง โดยมีสาระสำคัญที่ทาง TPN รู้สึกไม่โอเคหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น
1. เงินรางวัล 1,500,000 บาท จ่าย 2 งวด งวดที่ 1 คือจ่ายในวันที่ลงนามในสัญญา (21 ก.พ.) และงวดที่ 2 ภายใน 14 วัน
2. ในกรณีที่ผู้ให้สัญญาปฏิบัติงานสาธารณะกุศลไม่เกิน 12 ครั้ง หากครบ 12 ครั้งแล้ว
3. ผู้ให้สัญญาสามารถปฏิเสธหรือเรียกรับเงินค่าตอบแทนในกทม. ครั้งละ 15,000 บาท ต่างจังหวัด 30,000 บาท โดยครั้งละไม่เกิน 3 ชั่วโมง
4. ผู้ให้สัญญาสามารถรับงานอื่นๆ นอกเหนือจากงานบันเทิงได้เอง
5. การเข้าร่วม Workshop ต่างๆ ในฐานะศิลปิน อยู่ที่ความสมัครใจของผู้ให้สัญญา
6. ต้องไม่ดูหมิ่น หรือทำให้ผู้ให้สัญญาเสื่อมเสียชื่อเสียง จนมีผลกระทบต่ออาชีพของผู้ให้สัญญา
7. หากเก็บเงินลูกค้าได้ช้า TPN ต้องจ่ายให้ฟ้าใสก่อน แต่หากได้เร็วต้องจ่ายให้เลย
8. หากมีการยกเลิกสัญญาก่อน ทางกองต้องให้รางวัลที่เคยตกลงไว้ และจ่ายเงินทั้งหมดที่เป็นงานในอนาคตให้ผู้ให้สัญญาด้วย
ซึ่งทาง TPN ก็ไม่ยอมเซ็นสัญญาตามที่ 'ฟ้าใส' ทำมาเอง เพราะมองว่าเจตนาของ 'ฟ้าใส' ตอนนี้คือไม่มีความสุขในการร่วมงานกับกองประกวดแล้ว จึงได้คุยเรื่องบันทึกข้อตกลงสุดท้ายระหว่างกัน ว่า 'ฟ้าใส' ไม่ประสงค์จะขอลงนามสัญญากับ TPN อีกต่อไป แต่ 'ฟ้าใส'ขอทำหน้าที่อำลาตำแหน่ง บริษัทและผู้ให้สัญญาตกลงว่าจะให้รางวัล 500,000 บาท และสายสะพาย แต่ไม่ได้รับรางวัลอื่นๆ เพราะต้องมีสัญญา ซึ่งกองได้ทำไว้กับสปอนเซอร์ เลยยกเลิกรางวัลที่ได้ตกลงไว้ทั้งหมด ทั้งนี้ อนุญาตให้ 'ฟ้าใส' ไปทำมงกุฎใหม่ได้ และ ได้นัดหมายลงนามข้อตกลงดังกล่าวในวันที่ 4 มี.ค. 63 โดยในข้อตกลงก็ระบุว่า ไม่ประสงค์เซ็นสัญญาดำรงตำแหน่งด้วย แต่ทางกองเห็นว่าเป็นสิ่งที่น้องต้องได้รับ สำหรับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เพราะผ่านการประกวดมา
และเมื่อวานนี้ทางกอง ก็ได้นำมงกุฎมาด้วย บอกว่าไม่ได้ไปทำอะไร ตอนแรกตั้งใจจะจัดประมูลเพื่อนำเงินไปทำการกุศล แต่ก็อยากจะมอบมงกุฎนี้ยกให้ 'ฟ้าใส' หาก 'ฟ้าใส' คิดว่ามีความชอบธรรมที่จะเป็นเจ้าของ ขอให้ติดต่อกองมา และมารับมอบด้วยตัวเอง ก็จะมอบให้ทันที ยืนยัน ไม่ได้ให้มงตามกระแสกดดัน และขอใช้คำว่า "ให้" ไม่ใช่ "คืนมง" เพราะน้องไม่ได้อยู่แล้ว
หลังจากที่ทาง TPN แถลงข่าวเสร็จ 'เอส อนุสิทธิ์' ผู้จัดการส่วนตัวของ 'ฟ้าใส' ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บอกว่า "วันนี้ฟังแถลงข่าวจบแล้ว อย่าพึ่งสรุปอะไรนะครับ ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงจากพี่เอส และ น้องก่อน"
ก่อนที่ผู้จัดการ จะโพสต์อีกบอกว่า "ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจพี่เอสและน้องมาโดยตลอด #ขอบคุณที่เชื่อในตัวฟ้าใส   #หนทางจะพิสูจน์ม้ากาลเวลาจะพิสูจน์คน   พี่เอสอยากจะบอกกับฟ้าใสว่า ขอบคุณฟ้าใสที่ตั้งมั่นอยู่ในความดีและความถูกต้อง และทำหน้าที่ Miss Universe Thailand 2019 ได้อย่างดีที่สุด และวันนี้ #ความชอบธรรม คือมงกุฎในชีวิตของคุณ ปวีณสุดา ดรูอิ้น"
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QDl3SO9sRco

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ