เกมอาจพลิก ขั้นความนิยมตก!? หลังชาวอเมริกันไม่เชื่อมั่น 'ทรัมป์' เรื่องรับมือโควิด-19 ชี้ตั้งใจปิดข้อมูล

ต่างประเทศ

เกมอาจพลิก ขั้นความนิยมตก!? หลังชาวอเมริกันไม่เชื่อมั่น 'ทรัมป์' เรื่องรับมือโควิด-19 ชี้ตั้งใจปิดข้อมูล

โดย

29 ต.ค. 2563

820 views

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ชาวอเมริกันต้องเสียชีวิตจากโควิด-19 ไปกว่า 2 แสน 3 หมื่นคน ติดเชื้อสะสมทะลุ 9 ล้านคนไปแล้ว ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนี้กระทบต่อคะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมีแนวโน้มสูงที่จะทำให้ทรัมป์ไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สองก็เป็นได้
จากคำพูดของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มักบอกชาวอเมริกันว่า โควิด-19 เป็นเพียงแค่ไข้หวัดธรรมดา ทำให้มาตรการในการรับมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ ไม่ได้เข้มงวดอย่างที่ควรจะเป็น โดยให้เหตุผลว่า การปิดประเทศจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปไม่ได้
แต่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทันทีที่บ็อบ วู้ดเวิร์ด (Bob Woodward) นักข่าวสืบสวนสอบสวนชื่อดังจาก วอชิงตัน โพสต์ เผยคลิปเสียงสัมภาษณ์ทรัมป์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในหนังสือของเขาที่มีชื่อว่า Rage ที่จงใจไม่ยอมบอกประชาชนถึงความร้ายแรงของโควิด โดยอ้างว่า ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น 
Rage เป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการสัมภาษณ์ทรัมป์ของ Woodward ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ Woodward ทั้งหมด 18 ครั้ง ระหว่างเดือนธันวาคมถึงกรกฎาคม ซึ่งการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่เกี่ยวกับโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส ทรัมป์ได้ยอมรับกับเขาว่า ไวรัสตัวนี้เป็นเชื้อที่มีความร้ายแรง แพร่กระจายได้ง่ายทางอากาศ ซึ่งมันรุนแรงกว่าทางสัมผัส แต่ในช่วงเวลานั้นทรัมป์กลับบอกสาธารณชนว่า เชื้อโควิด-19 ไม่ได้น่ากลัวและร้ายแรงน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่ ที่สำคัญสามารถควบคุมได้
Woodward ได้นำเสียงสัมภาษณ์ดังกล่าวของทรัมป์ มาเผยแพร่ก่อนที่จะตีพิมพ์ Rageไม่ถึง 1 สัปดาห์ ทันทีที่มีการเปิดเผยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายออกมาโจมตีทรัมป์ ที่ตั้งใจปกปิดข้อมูล ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อประชาชน แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นการโกหก และทำให้ต้องสูญเสียชีวิตชาวอเมริกัน
ขณะที่ทรัมป์ก็ยังคงบอกเสมอว่า โควิด-19 เป็นความผิดของจีน
ส่วนโจ ไบเดน ก็หยิบยกเรื่องนี้มาโจมตีทรัมป์ ที่ปกปิดความจริงและว่า หากทรัมป์รีบออกมาตรการเพื่อป้องกันเร็วกว่านั้น 1 สัปดาห์ ชาวอเมริกันประมาณ 3 หมื่น 6 พันคนจะรอดชีวิต และหากรีบดำเนินการเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ในเดือนมีนาคม ก็จะช่วยชีวิตชาวอเมริกันได้ถึง 4 หมื่น 5 พันคน ความผิดพลาดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ต้องสูญเสียชีวิตประชาชน แต่ยังทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ กระทบต่อชาวอเมริกันหลายล้านคน
นอกจากไม่มีมาตรการควบคุมที่ดีพอแล้ว การใช้ชีวิตในแต่ละวันของทรัมป์ ยังไม่มีความระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม และมักจะล้อเลียนการสวมใส่หน้ากากของไบ เดน อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลที่ผิดๆเกี่ยวกับโควิด จนเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ ต้องตามลบและซ่อนโพสต์ของทรัมป์ ที่ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
แต่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักที่สุดเมื่อช่วงสองเดือนที่ผ่านมาคือ ทำเนียบขาวได้กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายโควิด จนนิตยสาร ไทม์นำไปขึ้นหน้าปกว่า ทำเนียบขาวคือแหล่ง Super spreader บุคคลใกล้ชิดและคนที่เกี่ยวข้องในทำเนียบขาวต่างติดเชื้อมากกว่า 30 คน และหนึ่งในนั้นก็คือ ตัวประธานาธิบดีทรัมป์ และเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลข 1 
สถานการณ์โควิด นายน์ทีนในสหรัฐฯไม่ได้ดีขึ้น ยิ่งเข้าสู่ฤดูหนาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในรัฐที่ทรัมป์คว้าชัยชนะเมื่อ 4 ปีก่อนไม่ว่าจะเป็นวิสคอนซิ่น โอโอโอ้และนอร์ท แคโรไลน่า หรือ 2 รัฐอย่างฟลอริด้า และแอริโซน่า ที่ตอนนี้กลายเป็นรัฐสมรภูมิ หรือ Swing state ล้วนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นจำนวนมาก ก็ไม่เป็นผลดีต่อทรัมป์เท่าใดนัก 
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในเรื่องนี้ของ Pew Research Center ที่สำรวจตั้งแต่วันที่ 6-12 ปี 2020 พบว่า ผู้สนับสนุนทรัมป์ร้อยละ 24 ไม่ได้วิตกกังวลเรื่องนี้ ขณะที่ผู้สนับสนุนไบเดน ร้อยละ 82 กังวลเรื่องนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ