เลือกตั้งและการเมือง
ออร์แกนิกม็อบ 18 ต.ค.63 กลุ่มราษฎรยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง และย้ำทุกคนคือแกนนำ!
โดย
18 ต.ค. 2563
2K views
วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม การชุมนุมของกลุ่มราษฎร ในพื้นที่กรุงเทพที่ยังมีการประกาศ พรก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง ยังมีการนัดชุมนุมจุดหลักที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและจุดย่อยที่แยกอโศก ซึ่งยุติการชุมนุมไปแล้ว ก่อนจะมีการนัดหมายกันใหม่ แม้ไม่มีแกนนำหลัก แต่ยังสามารถจัดการชุมนุมได้ เพราะเป็นการชุมนุมแบบออกแกนิคม็อบ ที่ทุกคนคือแกนนำ
โดยการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการนัดหมายพบกันตั้งแต่ 15.00 น. ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อมาชุมนุมเรียกร้องด้วยอุดมการเดียวกัน และเนื่องจากไม่มีแกนนำหลักแล้ว จุงมีการประกาศว่าทุกคนคือแกนนำ สามารถขึ้นเวทีปราศรัยได้ ซึ่งมีมวลชนเดินทางเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก จนต้องปิดเส้นทางการจราจรในถนทุกเส้น ก่อนที่จะประกาศยุติตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 20.20 น. และให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนเส้นทางการจราจรก็เปิดได้ตามปกติแล้ว เช่นเดียวกับการชุมนุมที่บริเวณแยกอโศก
การนับชุมนุมแบบออร์แกนิกม็อบนี้ ไม่มีเวทีและรถปราศรัย จึงเน้นใช้โทรโข่งในการแจ้งประชาสัมพันธ์หรือแจ้งกิจกรรมต่างๆในการชุมนุม โดยเฉพาะช่วงเวลาเตรียมการหากมีการสลายการชุมนุม มีอาสาสมัครการ์ดซึ่งคอยทำหน้าที่แจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบด้วย ใช้วิธีในการบอกต่อกันเมื่อต้องการอุปกรณ์สลายการชุมนุม เช่น ร่ม, หมวก, แว่นตา รวมทั้งการสื่อสารผ่านทางสัญลักษณ์มือต่างๆ
ทั้งนี้ นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตซ์ ประเทศไทย ได้ร่วมสังเกตการที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเห็นว่าการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.นั้น ทำให้ทั่วโลก และองค์กรระหว่างประเทศ เรียกร้องมายังรัฐบาลไทย ให้เคารพกติการะหว่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าการสลายชุมนุมไม่เป็นไปตามกติการะหว่างประเทศ จึงเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน และเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ เพื่อไม่ให้มีการสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
นอกจากที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังมีการชุมนุมที่บริเวณแยกอโศก-มนตรี , บางนา และปทุมธานี สำหรับการชุมนุมที่บริเวณตรงข้ามศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต กลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้มากันตามนัดหมายตั้งแต่ช่วงก่อนเวลา 16.00 น. ผ่านการนัดหมายและส่งต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งก็ได้มีการเพิ่มช่องทางใหม่ในการแจ้งข่าวสารแผ่นแอพพลิเคชั่นเทเลแกรม ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นจุดชุมนุมย่อยรอบเขตกรุงเทพมหานครอีกแห่ง ที่เป็นที่รวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเยาวชน และประชาชนทั่วไปได้เข้าร่วมแสดงจุดยืนทางการเมือง
ขณะเดียวกันก็ได้ตั้งจุดปราศัย กระจายตามมุมต่างๆ บนพื้นที่บริเวณนี้ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมทุกเพศทุกวัย ผลัดกันขึ้นปราศัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และได้ย้ำให้กลุ่มผู้ชุมนุมชุมนุมกันอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ปทุมธานี ซึ่งไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
โดยช่วง 18.30 น.จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนออกเดินไปตามถนนพหลโยธิน แต่ก็มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มเข้าขอความร่วมมือไม่ให้มีการปิดถนนเกิดขึ้น เพื่อกีดขวางการจราจร ก่อนที่การชุมนุมในบริเวณนี้จะยุติลงในช่วง 19.30 น. และมีการขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัวในทันทีเพื่อป้องกันการเข้าควบคุมจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งบรรยากาศตลอดการปราศัยครั้งนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยยึดหลักการที่ว่า ทุกคนคือแกนนำ ก่อนที่จะมีการนัดหมายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ นอกจากที่บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานีแล้ว ยังมีการชุมนุมอีกหลายจุดทั้งในเขาปริมณฑล และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งบริเวณหน้าห้างเซนทรัลเวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี เป็นอีกหนึ่งจุด ที่มีการนัดชุมนุมของกลุ่มราษฎร ซึ่งเป็นพื้นที่นอกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง การชุมนุมบริเวณนี้ไม่มีแกนนำหลัก มวลชนได้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศรัย พร้อมตะโกนปล่อยเพื่อนเรา โดยมีตำรวจจาก สภ.บางใหญ่ และ สภ.ใกล้เคียง มาดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร
ส่วนที่แยกพุทธมณฑลสาย 4 พื้นที่ ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ในระหว่างชุมนุม มีปัญหาอยู่บ้าง เพราะไฟถนน ดับเฉพาะในจุดที่มีการชุมนุมเท่านั้น แต่สุดท้าย การชุมนุมก็จบลงในเวลา 20 นาฬิกา โดยไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ
ขณะที่จังหวัดสระบุรี กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชน รวมตัวกันที่สวนสาธารณะ จุดพักรถบายพาส ถนนพหลโยธิน กม.ที่111 ตำบลดาวเรือง อ.เมือง ใช้โทรโข่ง สลับสับเปลี่ยนกันปราศรัย
ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มผู้ชุมนุม ได้รวมตัวกันที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ผู้ปราศรัย ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนนักศึกษา
ที่จังหวัดขอนแก่น กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา ได้แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ขอนแก่นพอกันที" และ "ภาคีนักเรียนKKC" โดยนัดรวมพลกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ปักหลักชุมนุมและขึ้นปราศรัย แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำทั้งหมด และประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมที่ลิดรอนสิทธิเสรีของประชาชนภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มประชาคมมอชอ พร้อมทั้งนิสิตนักศึกษา และชาวเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้รวมตัวกันที่บริเวณลานสิงห์ หน้าคณะรัฐศาสตร์ จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังอาคารยุทธศาสตร์ เพื่อเปลี่ยนสถานที่ ก่อนที่จะเดินขบวนอีกครั้งไปยังศาลาอ่างแก้ว เนื่องจากจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เป็นไปอย่างสงบ และสันติ นอกจากนี้ ยังมีแฟลชม็อบเกินขึ้นอีกหลายจังหวัด
ทั้งนี้ นอกจากความเคลื่อนไหวเรื่องการชุมนุมแล้ว วันนี้ นายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้ามอบตัวฐานฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ขณะปฏิบัติหน้าที่แพทย์อาสา ปฐมพยาบาลให้กลุ่มผู้ชุมนุมก่อนหน้านี้ ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัว จึงถูกนำตัวไปควบคุมที่ กองบังคับการตำรวจตระเวณชานแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี เพื่อรอส่งฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้
แท็กที่เกี่ยวข้อง
