จากกรณี ครูจุ๋ม ครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ล่าสุด มีการเปิดเผยว่า โรงเรียนในเครือสารสาสน์ 45 แห่ง มีถึง 34 แห่ง ที่ สช. ได้รับเรื่องร้องเรียน ว่ามีปัญหาบูลลี่ การทำร้ายร่างกาย การจัดการเรียนการสอน และการเก็บค่าเล่าเรียน 

ขณะที่ วันที่ 28 ก.ย. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มีคำสั่งไล่ออกครู 4 คน ประกอบด้วย ครูจุ๋ม, ครูประจำชั้น, ครูชาวฟิลิปปินส์ และครูศิลปะ ตามที่ปรากฏในวงจรปิดว่ามีพฤติกรรมทำร้ายเด็ก รวมไปถึงนิ่งเฉยไม่ห้ามปราม ช่วยเหลือ  

ด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยความคืบหน้าคดี น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม ว่าเบื้องต้นเข้าข่ายกระทำผิด และถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และผิด พ.ร.บ.ครู โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครูจุ๋ม มาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ทางกระทรวงได้ประสานขอกล้องวงจรปิดของโรงเรียนทั้งหมด มาตรวจสอบร่วมกับตำรวจ และหากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีทุกเรื่อง ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกายเด็กในรูปแบบไหน หรือมีครูคนไหนทำก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด

ส่วนผู้บริหารโรงเรียนก็ได้ขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจและผู้ปกครอง ซึ่งการกระทำของครู ผู้บริหารโรงเรียนต้องร่วมรับผิดชอบด้วย โดยมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับโทษถึงขั้นปิดโรงเรียน  

นอกจากนี้ มีกลุ่มผู้ปกครองกว่า 200 คน ได้เดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง หลังทวงถามหลายครั้งแต่ถูกทางโรงเรียนปฏิเสธ ซึ่งสุดท้ายโรงเรียนทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมมอบไฟล์ภาพวงจรปิด วันที่ 22 ก.ย. ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองหลายคนบอกว่าตอนนี้หมดความเชื่อใจที่มีให้โรงเรียนแล้ว 

ด้าน ผู้บริหารกองอำนวยการส่วนกลาง เเละครูของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว และได้อ่านแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"ขอแสดงความเสียใจ เเละสะเทือนใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ในเครือของโรงเรียนมีนโยบายที่ชัดเจน ใช้ระบบการอภิบาลดูแลนักเรียน ไม่ใช้ความรุนแรงหรือการทำโทษ แต่เมื่อมีความผิดพลาด ก็ต้องเป็นความผิดพลาดของฝ่ายผู้บริหารด้วย

จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ปกครองขาดความเชื่อมั่น แต่ทางโรงเรียนขอโอกาสในการเเก้ไขปรับปรุง ทางโรงเรียนทำผิดจริง ๆ แต่หากผู้ปกครองท่านใดมีความกังวลใจ เเละเกิดความไม่สบายใจเห็นว่าที่นี่ไว้ใจไม่ได้แล้ว โรงเรียนยินดีที่จะรับผิดชอบในเรื่องค่าเทอมที่ผ่านมา"

โดยหลังแถลงเสร็จสิ้นมีผู้ปกครองบางส่วนไม่พอใจ เนื่องจากการเเถลงยังไม่ชัดเจน พร้อมกับตั้งคำถามถึงการคัดเลือกครูเข้ามาสอน มีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งทางโรงเรียนชี้เเจงว่าคนที่เป็นพี่เลี้ยงจะไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่ทางโรงเรียนได้ทำเรื่องผ่อนผันในการสอน และให้บรรดาครูได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง เรียนต่อเพื่อขอใบประกอบวิชาชีพครู ครูส่วนหนึ่งมีใบประกอบวิชาชีพ และอีกส่วนหนึ่งไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่เป็นส่วนน้อย

ซึ่งผู้ปกครองหลายรายไม่พอใจ เน้นย้ำถึงคุณวุฒิของบรรดาครู รวมถึงครูจุ๋ม ที่ได้รับการผ่อนผันใบประกอบวิชาชีพมาถึง 8 ปี ทำไมทางโรงเรียนถึงปล่อยมาได้อย่างไร โดยเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยตรวจสอบ โดยหลังจากนี้เตรียมที่จะย้ายโรงเรียนเพราะไม่มั่นใจคุณภาพของการจัดการเรียนการสอน และห่วงว่าโรงเรียนจะถูกสั่งปิดเพราะไม่ได้มาตรฐาน 

นอกจากนี้ ต่อมา นายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ได้ส่งหนังสือถึง หัวหน้าภาค หัวหน้าเขต และผู้อำนวยการทุกท่าน ระบุว่า เรื่องการลงโทษนักเรียนนั้น โรงเรียนมีนโยบายไม่ให้ลงโทษนักเรียนโดยการตีหรือการทำร้ายร่างกาย ให้ผู้บริหารอบรมครูให้ดูแลนักเรียนด้วยความรัก ด้วยการอภิบาล ห้ามตีนักเรียนโดยเด็ดขาด เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันมานานแล้ว แต่ก็ยังมีฝ่าฝืนกันเป็นประจำ

ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้บริหารระดับหัวหน้า รวมทั้งผู้อำนวยการเองไม่ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ได้บอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าให้ท่านอยู่ในห้องได้แค่วันละ 2 ชั่วโมง นอกนั้นให้ท่านเดินตรวจแต่ท่านปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แปลว่าท่านไม่เคยเดินตรวจ ติดกล้องไว้ก็ไม่ดู เพราะฉะนั้นให้หัวหน้าภาคไปตรวจสอบดู ผู้บริหารคนใดไม่ปฏิบัติตามนโยบายให้สั่งลงโทษ ดังนี้ 1.ให้ทำทัณฑ์บน 2.ให้พักงาน 3.ให้ออกจากงาน

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_SY3HKGnfjs