เจอหมีควายแล้ว! แต่ยังจับไม่ได้ ยายเล่าระทึก เห็นหมีคำรามใส่หมา หมากลัวหมี หมีกลัวหมา ยายพาหมาวิ่งหนีหมี

สังคม

เจอหมีควายแล้ว! แต่ยังจับไม่ได้ ยายเล่าระทึก เห็นหมีคำรามใส่หมา หมากลัวหมี หมีกลัวหมา ยายพาหมาวิ่งหนีหมี

โดย

16 ก.ย. 2563

268.3K views

ความคืบหน้าการติดตามจับหมีควายในพื้นที่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น หลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดล้อมไร่อ้อยบ้านโคกป่ากุง ปรากฎว่าหมีควายหลุดหนีหายไปจากไร่อ้อยจุดที่มีเนื้อที่ 27 ไร่ 3 งาน และเนื้อที่ 8 ไร่

เมื่อวานนี้(15 ก.ย.)เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 50 นาย ออกลาดตระเวนหาร่องรอยของหมีควาย หรือ ‘เจ้าแตงโม’ ในพื้นที่โดยรอบ เป็นวันที่ 9 ยังจับตัวหมีควายไม่ได้

ล่าสุดช่วงเที่ยงของเมื่อวานนี้นางสุบรรณ สัมพันธ์ หรือยายหล่ำ อายุ 70 ชาวบ้านโนนทองหลาง หมู่ 7 ต.สีชมพูอ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ไปเจอหมีควายภายในไร่มันสำปะหลังของตนเอง ห่างจากไร่อ้อยจุดที่หมีซ่อนตัวเมื่อวันก่อน 5 กิโลเมตร

ชาวบ้านเล่าว่า ตนเองเพิ่งใส่ปุ๋ยไร่มันสำปะหลังเสร็จ ได้กำลังอาบน้ำให้สุนัขบริเวณกระท่อมในไร่มันสำปะหลัง จากนั้นเดินไปล้างมือที่โอ่ง ได้ยินเสียงสุนัขชื่อว่าเจ้าสไปรท์ เห่า 3 ครั้ง เมื่อเงยหน้ามองไปที่ไร่มัน ยายเห็นหมี ยืนจ้องหน้ากลัวจนทำอะไรไม่ถูก หมาเห็นหมียืน 2 ขา สีดำตัวใหญ่ หมีขู่คำรามใส่หมา หมากลัวหมี หมีก็กลัวหมา ยายกลัวหมีทำร้ายหมา จึงพาหมาวิ่งหนีหมี ไปบอกผู้ใหญ่บ้านว่ายายเจอหมี ในไร่มันสำปะหลัง

เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปตรวจสอบ ตนค่อย ๆ เดินถอยห่างจากหมีซึ่งเผชิญหน้ายืนอยู่ใกล้กันประมาณ 10 เมตร เสื้อก็ไม่ได้ใส่ ใส่แต่เสื้อยกทรง พาหมาวิ่งหนีหมีควาย ห่วงหมากลัวหนีหมีไม่ทัน หมีตั้งท่าจะเข้าจู่โจมหมา จะขึ้นไปหลบบนกระท่อมก็กลัวหมีตามขึ้นไปทำร้าย

หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในไร่มันใกล้กับกระท่อม ก็พบรอยเท้าหมีควาย รังนอน และอุจจาระ 1 กอง โดยหมีได้กินลูกกระบกเป็นอาหาร พร้อมทั้งหักกิ่งมันสำปะหลังด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินลาดตระเวนกระจายกำลังสำรวจ กระทั่งเผชิญหน้ากับหมีควาย มันได้ส่งเสียงคำรามใส่เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวที่อยู่ขอบไร่มัน บริเวณชายป่าชุมชนบ้านโหนทองหลาง หมู่ 7 ต.สีชมพู จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยออกมาให้ห่างจากตัวหมีไม่กล้าเข้าใกล้ เกรงว่าหมีจะวิ่งใส่และทำร้าย ก่อนที่หมีจะหลบหนีเข้าไปในป่า

เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ได้ปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ เพื่อมองหาพิกัดที่หมีอยู่มุมสูง ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ตะโกนว่า “พบหมีควายแล้ว” ก่อนจะจับตาดูเส้นทางที่หมีวิ่งหลบหนีไป จากนั้นได้มีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เพื่อมาช่วยกันปิดล้อมจุดที่หมีวิ่งมาซ่อนตัว

พบว่ามันหนีไปอยู่บริเวณป่า ใกล้กับสำนักสงฆ์ร่องหินลาด เนื้อที่ 113 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันตกของป่าช้าสำนักสงฆ์ร่องหินลาด พื้นที่รอบต่อบ้านโนนทองหลางหมู่ 7 กับบ้านโนนไผ่งาม หมู่ 12 ต.สีชมพู อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ คนที่ปีนต้นไม้ขึ้นไปสำรวจ เล่าว่า ขณะที่มองไปในไร่มันหมีควายตัวนี้ยืนขึ้น และหันมามองตามเสียงของเจ้าหน้าที่ ส่วนสูงของหมีควายตัวนี้ เวลายืน ต้นมันอยู่ที่บริเวณหน้าอกของหมีควาย พอหมีควายได้กลิ่นคนมันจะวิ่งหนี มันวิ่งเร็วมาก 

ขณะที่ชุดยิงยาสลบเข้าสนับสนุนภารกิจ เข้าไปปิดล้อมป่าจุดที่พบหมี เสริมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปยืนปิดล้อมบริเวณพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโนนทองหลาง  ตีวงล้อม เพื่อจับเป็นหมีควายน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม  ซึ่งเจ้าหน้าหน้าที่ต้อนจับอย่างเงียบ ๆ ให้หมีได้พักผ่อน ไม่เครียด ไม่จุดประทัดเสียงดังเพราะหมีจะตกใจหนี

นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) สั่งการให้นำตาข่ายเชือกไนล่อน รั้วตาข่ายเหล็กทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก เนื่องจากป่าแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่ ตาข่ายที่มีจึงล้อมไม่เพียงพอ และจะนำกรงดักสัตว์เข้ามาติดตั้ง ใส่ขนุนสุกไว้ในกรง เพื่อล่อหมีมาติดกับ

นอกจากนี้จะนำขวดเครื่องดื่มชูกำลังมาทำเป็นตะเกียงเชื้อเพลิงเพื่อจุดไฟ ตั้งเอาไว้รอบป่าระยะห่าง 10 เมตร เพื่อให้หมีได้กลิ่นไฟไม่กล้าออกมา ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และปกครองสลับกันยืนเฝ้าเป็นระยะ เสริมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯเพิ่มอีก 100 นาย และจะมีการเปิดปฏิบัติการจับเป็นหมีควายอีกครั้งเมื่อทุกอย่างพร้อม

โดยขณะนี้ยังทำได้เพียงบล็อกหมีไม่ให้ออกจากป่าชุมชนที่ติดกับป่าช้าเท่านั้น จะยังไม่ปะทะกับหมี พร้อมตรวจสอบร่องรอยหมีเป็นระยะ หากหลุดไปยังป่าฝั่งตรงข้ามเนื้อที่ 1,000 กว่าไร่ ติดกับลำน้ำพอง กั้นระหว่าง จ.ขอนแก่น กับจ.หนองบัวลำภู จะทำให้การติดตามหมีควายยากขึ้น

นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง กล่าวว่า ยังไม่ยุติภารกิจตามล่าหมี หากพบหมีควายจะเข้าจับเป็นยิงยาสลบทันที พร้อมกันนี้ก็จะทำแผนที่เส้นทางการเดินทางของหมีควายตัวดังกล่าว เพราะจากการลงพื้นที่พบว่าหมีควายจะใช้เส้นทางใกล้กับลำห้วยสายหนังเป็นหลัก วนเวียนอยู่ไม่ออกไปไหน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันใน 3 ตำบล ทั้งตำบลสีชมพู ตำบลบริบูรณ์ อ.สีชมพู และตำบลดงลาน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น จะไม่ออกนอกพื้นที่

พร้อมทั้งจะนำกล้องคาเมล่า แท็ปไปติดตั้ง รวมทั้งกรงดักสัตว์ใส่อาหารสำหรับล่อให้หมีควายเข้ามาหยิบเอาไปกินเพื่อนำมาวิเคราะห์ลักษณะนิสัยของหมีควายตัวนี้ และนำมาปรับแผนในการเข้าจับตัว โดยเบื้องต้นนั้น ส่วนตัวมองว่าหมีควายตัวนี้ไม่ได้มีนิสัยดุร้าย แต่เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่มีชาวบ้านโดนทำร้ายหลายคนนั้น เนื่องจากหมีและคนบังเอิญเจอกันในระยะที่ประชิดตัว

ทำให้หมีต้องทำร้ายก่อนจะวิ่งหนีเพื่อให้ตัวเองปลอดภัย และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครถูกทำร้ายอีก มีเพียงถูกไล่เพราะเจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปจับตัวยิงยาสลบใส่ ซึ่งอยู่ในระยะประชิดตัวหมี และหมีตัวดังกล่าวหากเห็นคนจะยังไม่เข้าทำร้ายทันที ซึ่งจะมีการตบหน้าอกส่งเสียงขู่คำรามเพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าห้ามเข้าใกล้มากกว่านี้แล้วก็วิ่งหลบหนีไป

ข้อมูลทั้งหมด จะนำมาใช้ปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ และลักษณะนิสัยของหมีควายให้สามารถจับตัวให้ได้ภารกิจยังคงเป็น 2 เป้าหมายเหมือนเดิม คือเข้าจับเป็นยิงยาสลบนำตัวมารักษาฟื้นที่ร่างกายหมีควายให้เป็นปกติก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติในพื้นที่ที่เหมาะสม อีกเป้าหมาย คือ ให้หมีกลับเข้าสู่ป่าธรรมชาติเอง ซึ่งจะมีการตรวจสอบร่องรอยต่อเนื่องหากแน่ชัดว่าหมีเข้าสู่ป่าธรรมชาติแล้ว จะถือว่าภารกิจเสร็จสิ้นจึงจะสามารถถอนกำลังออกจากพื้นที่ได้

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_Dt0QPGBIGw

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ