คนร้ายชิงปืน อส. ทำทีต่อรองจะคืนปืนแลกขอหนี สุดท้ายโดดหน้าต่างหนีเข้าป่า

สังคม

คนร้ายชิงปืน อส. ทำทีต่อรองจะคืนปืนแลกขอหนี สุดท้ายโดดหน้าต่างหนีเข้าป่า

โดย

10 ส.ค. 2563

1.3K views

ฉะเชิงเทรา-ตำรวจภูธรแปลงยาว และหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา กว่า 50 นาย ปิดล้อมบ้านผู้ต้องหาก่อเหตุอาวะลาดทำลายข้าวของ ก่อนชิงปืน อส.อำเภอเกาะจันทร์ แล้วหนีมากบดานที่บ้านลูกสาว ล่าสุด คนร้ายปีนหน้าต่างออกมาจากบ้าน วิ่งหนีเข้าป่าหายไปกับความมืด
สืบเนื่องจากกำลังตำรวจภูธรแปลงยาว และหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา กว่า 50 นาย ทำการปิดล้อมบ้านผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอาวะลาดทำลายข้าวของ ก่อนชิงปืน อส.อำเภอเกาะจันทร์ แล้วหนีมากบดานที่บ้านลูกสาว ในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา สุดท้ายกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนต้องถอนออกมา เนื่องจากสภาพพื้นที่มืดไม่เอื้ออำนวย เหลือเพียงกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนไว้
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการล็อคกุญแจภายนอกบ้าน เพื่อรอรุ่งเช้านำหมายค้นเข้ามากดดันให้คนร้ายมอบตัว โดยการนำของ พ.ต.ท สนั่น คงรัตน์ รองผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.แปลงยาว และ พ.ต.ต.ขจรศักดิ์ เถลิงพงษ์ สวป.สภ. แปลงยาว พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สภ.แปลงยาว เข้าทำการปิดล้อมตั้งแต่ช่วงเย็น วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 10 ส.ค. ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าดู ได้สังเกตเห็นที่บริเวณหน้าต่าง พบชายสวมเสื้อลายเปิดผ้าม่านออกมา ในมือมีอาวุธปืนสั้น ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.อำเภอเกาะจันทร์ ที่ถูกชิงมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายวางอาวุธปืนลงแล้วมอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล
คนร้ายได้พยายามต่อรองว่าจะคืนปืนให้ แต่ขอหนี จากนั้นได้เจรจาอยู่นานคนร้ายได้ใช้จังหวะกระโดดจากหน้าต่าง พร้อมในมือถือปืนเดินแกว่งไปมา และตะโกนบอกว่าให้ลูกสาวตามมาเอาปืน ก่อนจะวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในป่ายางหลังบ้าน
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างละมุนละม่อม เพราะในจุดเกิดเหตุมีบ้านเรือนอาศัยอยู่จำนวนหลายหลัง เกรงว่าผู้ก่อเหตุจะเกิดความเครียดจนคลุ้มคลั่ง และอาจใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวมาสาดยิง กระทั่งเมื่อคนร้ายได้เข้าไปในป่ายาง เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามอยู่ห่าง ๆ เพราะเนื่องจากภายในป่ายางนั้นมืดสนิทเกรงจะเกิดอันตรายหากคนร้ายยิงสวนออกมา
จากนั้นจึงได้ทำการตรวจสอบกระเป๋าเป้ที่คนร้ายนำติดตัวมา พบภายในมีเงินสดจำนวน 3,000 บาท และบัตรประชาชน พร้อมทั้งสมุดบัญชีธนาคารที่ระบุเป็นชื่อของ นายอนนท์ สินทรัพย์ อายุ 44 ปี และได้ยึดรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุที่ใช้ในการหลบหนี มาทำการตรวจสอบ
จากการสอบถาม ลูกสาวผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นตนเองได้กลับมาจากไปทำธุระข้างนอก และได้เปิดบ้าน จากนั้นได้เดินออกไปซื้อของที่ร้านค้าหน้าปากซอย ในช่วงเวลาดังกล่าวคนร้ายซึ่งเป็นพ่อของเธอได้หลบเข้ามาภายในบ้าน แล้วแม่ของสามีที่อยู่บ้านข้าง ๆ พบเห็นจึงได้โทรแจ้งเธอ ว่าพ่อของเธอมาพร้อมทั้งมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย และยังมีทีท่าอาการเหมือนคนเมายา
เมื่อเธอทราบเรื่องจึงรีบกลับมาบ้าน พบเห็นว่าพ่ออยู่ภายในบ้านจริง จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเอาตัวพ่อของเธอไป เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะพ่อเป็นคนที่มักจะมีอาการคลุ้มคลั่งเสพยา และครั้งนี้พ่อมีปืนมาด้วย โดยที่เธอไม่รู้มาก่อนว่าพ่อได้ไปก่อเหตุไว้ที่เกาะจันทร์ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้ามาปิดล้อมและจับกุม
ชมผ่านยูทูปที่นี่ : https://youtu.be/RlIyeGLFE-o

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ