ผบช.ภ.2 เร่งรัดคดีคลี่ปม 'น้องกานต์' เด็กชายวัย 6 ขวบ เสียชีวิตปริศนาในสวนยางพาราให้กระจ่าง นิติเวชเผยผลชันสูตรเบื้องต้น เสียชีวิตก่อนถูกสัตว์กัดแทะ ไม่ได้จมน้ำ ยังไม่ฟันถูกสุนัขกัดตายหรือไม่ ด้านอาสะใภ้ ยอมรับโทรไปถามเรื่องเงินประกันที่โรงเรียน นำมาจัดงานศพ ยันไม่ได้ทำร้ายหลาน "ถ้าคิดจะฆ่า หนูฆ่าลูกตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ ลูกหนูตั้ง 5 คน"

จากกรณี น้องกานต์ หนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่หายออกจากบ้าน ม.2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี นาน 3 วัน ชาวบ้านออกตามหากระทั่งพบศพในสวนยางพารา ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร สภาพศพเหลือเพียงครึ่งท่อนบน ส่วนท่อนล่างช่วงเอว ท่อนขา อวัยวะบางส่วนหายไป

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากสัตว์กัดแทะชัดเจน แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเสียชีวิตจากการถูกสัตว์ทำร้าย และยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าน้องกานต์เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เสียชีวิตก่อนหรือหลังถูกสัตว์กัดแทะศพ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน จึงได้ส่งร่างน้องกานต์ ไปชันสูตรที่สถาบันติเวช รพ.ตำรวจ เพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัด นำไปประกอบสำนวนในคดีและเพื่อความโปร่งใส

พ.ต.อ.วาที อัศวุฒมางกุร รองโฆษก รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผลการชันสูตรร่างน้องกานต์ แพทย์ระบุว่าเนื่องจากสภาพศพเน่าเสียมาก จึงไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนได้ หลังจากนี้จะนำชิ้นส่วนเข้าห้องแล็บ เพื่อเข้าสู่การตรวจตามขั้นตอนกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน จึงจะทราบผลที่ชัดเจน

เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางไปยังตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เรียกประชุมชุดทำงานเพื่อเร่งรัดคดีคลี่ปมข้อสงสัยต่าง ๆ ให้กระจ่าง พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบจุดพบศพบริเวณสวนยางพารา

และได้ตรวจดูชิ้นส่วนกระดูกที่พบเพิ่มเติม 2 จุด นับ 10 ชิ้น ทั้งชิ้นเล็ก-ใหญ่ กระจายอยู่บริเวณร่องน้ำห่างจุดพบศพ 10 เมตร อีกจุดคือร่องน้ำในสวนมังคุด ห่างจากจุดพบศพ 100 เมตร จุดนี้ยังพบชิ้นส่วนกระโหลกสัตว์ด้วย ส่วนอีกจุดพบชิ้นส่วนกระดูก 1 ชิ้น อยู่ในสวนยางพารา ห่างจากจุดพบศพเล็กน้อย เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าชิ้นส่วนทั้งหมดเป็นกระดูกมนุษย์หรือสัตว์ ต้องรอส่งตรวจพิสูจน์ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ยังได้ซักถามถึงพฤติกรรมของน้องกานต์ จากผู้ใหญ่บ้าน, เจ้าของสุนัขพิทบูล, เจ้าของสวนยางพารา รวมถึงนายสุทธิเกียรติ อาของน้องกานต์ ให้ข้อมูลว่า น้องกานต์ชอบเล่นน้ำในลำธารบริเวณหน้าบ้าน ไม่เคยไปเล่นแถวจุดที่พบกางเกงในป่ายาง ที่ผ่านมาน้องกานต์มักไปเดินเล่นกินมังคุดในสวนกับสุนัขคู่ใจ 2 ตัว คือ โอวัลติน และน้ำตาล แต่ในวันที่น้องกานต์หายไป สุนัขทั้ง 2 ตัว กลับมาโดยไม่มีน้องกานต์ จึงไม่ได้สังเกตว่าน้องกานต์หายไปไหน ประกอบกับที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีชาวบ้านถูกงูกัดตาย

ทั้งนี้ รายงานข่าวผลชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์นิติเวช รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี ระบุว่า น้องกานต์เสียชีวิตก่อนถูกสัตว์กัดแทะ ทำให้ตำรวจต้องอายัดศพส่งชันสูตรต่อที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เชื่อว่าไม่ได้เสียจมน้ำชีวิต เนื่องจากไม่พบน้ำในปอด

ขณะที่ นายสุขุม สาทิพย์จันทร์ พ่อของน้องกานต์ กล่าวว่า ก็ยังติดใจสาเหตุการตาย เชื่อว่าอาจโดนสัตว์มีพิษทำร้ายแล้วถูกสุนัขกัดแทะ คงไม่มีใครทำร้ายจนเสียชีวิตและตนก็ไม่ได้สงสัยใคร ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าน้องกานต์ตายเพราะสาเหตุใดกันแน่ อยากบำเพ็ญกุศลให้น้องโดยเร็ว เพราะอยากให้วิญญาณของน้องไปสงบ

ส่วนประเด็นที่ครูประจำชั้นของน้องกานต์ เปิดเผยว่า หลังน้องกานต์เสียชีวิต มีคนโทรมาถามเรื่องเงินประกันอุบัติเหตุของน้องกานต์ ครูก็ข้องใจ เพราะประกันตัวนี้ครูเป็นคนทำเรื่องให้น้อง 3 วันก่อนน้องจะเสียชีวิต โดยครูแจ้งกับอาของน้องซึ่งเป็นผู้ปกครองว่า โรงเรียนจะทำประกันอุบัติเหตุให้ หากน้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ประกันจะจ่าย 100,000 บาท หากถูกฆาตกรรมประกันจะจ่าย 50,000 บาท

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ นางสาวจันทนา นนธิจันทร์ อาสะใภ้ของน้องกานต์ ยอมรับว่าหลังน้องกานต์ตาย ตนได้โทรไปสอบถาม ผอ.โรงเรียน ถามเรื่องเงินประกันของน้อง จะได้นำเงินมาจัดงานศพ จะได้รู้ว่าต้องตั้งศพกี่วัน เพราะตนและพ่อแม่ของน้องไม่มีเงิน

"ไม่คิดจะนำมาใช้ส่วนตัว ใครจะคิดยังไงก็ปล่อยเขาไป หนูไม่ซีเรียส หนูมีหลานแค่คนเดียวยืนยันไม่ได้ทำร้ายหลาน ถ้าคิดจะฆ่า หนูฆ่าลูกตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ ลูกหนูตั้ง 5 คน ที่ผ่านมาเลี้ยงดูหลานอย่างดี"

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/1x6VioJIy5A