ป้าวัย 67 ช้ำใจ ถูกวัยรุ่นข้างบ้านขู่หักหัวคิว สมัครขอรับเงินเยียวยาโควิด-19

สังคม

ป้าวัย 67 ช้ำใจ ถูกวัยรุ่นข้างบ้านขู่หักหัวคิว สมัครขอรับเงินเยียวยาโควิด-19

โดย

12 มิ.ย. 2563

3.2K views

บุรีรัมย์ - ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากตำรวจหมู่บ้าน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนแก่ได้รับความเดือดร้อน ต้องคอยหวาดผวา เนื่องจากถูกวัยรุ่นข้างบ้าน ข่มขู่เป็นระยะ
จากการตรวจสอบ พบนางเทียม โจดรัมย์ อายุ 67 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อาศัยอยู่บ้านคนเดียว ลูกชายไปทำงานต่างพื้นที่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในช่วงที่รัฐบาลให้สมัครขอรับเงินเยียวยา เดือนละ 5,000 บาท รวม 3 เดือน ตนอยากได้เพราะอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงิน แต่สมัครไม่เป็น จึงวานให้วัยรุ่นข้างบ้านมาสมัครให้ จนกระทั่งมีการตอบรับว่า ”ได้รับเงินเยียวยา” วัยรุ่นข้างบ้านก็มาบอกว่า ได้เงินแล้วอย่าลืม พอเงินเข้าบัญชี 5,000 บาทแรก ก็เอาเงินให้เป็นค่าน้ำใจที่สมัครขอรับเงินเยียวยาผ่านทางโทรศัพท์มือถือให้ จำนวนเงิน 1,000 บาท ตัวเองก็เหลือ 4,000 บาท
ต่อมาวัยรุ่นคนดังกล่าว ก็มาบอกว่า ถ้าเงินออกอีก จะต้องจ่ายให้อีกเดือนละ 500 บาท และถ้ารัฐบาลช่วยเหลือเพิ่มอีก 3 เดือน ก็จะต้องจ่ายให้ทุกเดือน ๆละ 500 บาทเช่นเดียวกัน ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็พยายามพูดปฏิเสธ ว่าเยอะเกินไป ทำให้วัยรุ่นไม่พอใจ มาพูดข่มขู่ พร้อมโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ว่า ”ถ้าไม่จ่ายระวังโดนนะอีแก่” ทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงแจ้งให้ตำรวจบ้านทราบ “ความรู้สึกตอนนี้ถ้าไม่ได้เงินเยียวยาเลยน่าจะดีกว่าได้ เพราะไม่ต้องเป็นทุกข์
ขณะที่ น.ส.นิตยา ผู้ถูกกล่าวหา ได้ออกมาชี้แจงว่า ปกติก็อยู่บ้าน วันนั้นนางแถบ มาขอให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาให้ จึงบอกไปว่า จะให้เงินรางวัลเท่าไหร่ ก่อนจะมีการตกลงกัน ว่าจ่ายหัวคิวงวดละ 500 บาท มีชาวบ้านได้ยินกว่า 10 คน ที่ผ่านมาตนรับลงทะเบียนให้ชาวบ้านจำนวน 8 ราย ได้รับเงินเยียวยา 5 ราย ทั้ง 5 ราย ก็จ่ายตามข้อตกลงคืองวดละ 500 บาท เพราะตนก็มีค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูกหลายคน ส่วนการเอาข้อความลงเฟซบุ๊ก ตนรู้ดีว่าครอบครัวนี้ไม่ได้เล่นเฟซฯ ที่โพสต์ก็แค่ระบายอารมณ์ส่วนตัว ไม่ได้มีการขู่แต่อย่างใด
ด้านนายชุมพล ยิงรัมย์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บ้านยาง อ.เมือง ได้ออกมาระบุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้ ฟังความข้างเดียว โดยจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบถามและไกล่เกลี่ย จากที่ทราบเงินดังกล่าวเป็นเงินของรัฐบาลที่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องไปแบ่งให้ใคร ทั้งนี้จะต้องฟังความทั้งสองฝั่งว่ามีการตกลงอะไรกันไว้หรือไม่ โดยจะยึดถือความสามัคคีเป็นหลัก
รับชมผ่านทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/E8LcD4JdKgQ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ