'อดีตแชมป์ WBC เอเชีย' ร้อง ผบ.ตร. ขอความเป็นธรรม หลังถูกยัดข้อหาร่วมค้ายา คุกฟรี 14 เดือน

กีฬา

'อดีตแชมป์ WBC เอเชีย' ร้อง ผบ.ตร. ขอความเป็นธรรม หลังถูกยัดข้อหาร่วมค้ายา คุกฟรี 14 เดือน

โดย

2 มิ.ย. 2563

1.9K views

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.63 นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือ เจ้าแม็กซ์ อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม อดีตแชมป์สภามวยแห่งเอเชีย (WBC เอเชีย) รุ่นซุปเปอร์ไลต์เวต พร้อมด้วยครอบครัว และ นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยมีนายตำรวจเวรเป็นผู้รับมอบหนังสือ และเอกสารหลักฐานต่างๆ


โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือการกระทำความผิดใดๆ แต่กลับถูกชุดจับกุม สภ.เมืองระนอง ดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้เพื่อจำหน่าย จำนวน 3 ล้านเม็ด มีผู้ต้องหารวม 10 คน จนถูกควบคุมตัวที่สนามบินดอนเมือง ระหว่างเดินทางไปเตรียมชกมวยชิงแชมป์ WBC ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะถูกดำเนินคดี ตนเองติดติดคุกนานถึง 14 เดือน ก่อนที่ศาลจะพิพากษายกฟ้องเมื่อเดือนธันวาคม 2562 และอัยการไม่อุทธรณ์ จึงได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 27 พ.ค.63



ทั้งนี้ระหว่างถูกคุมขัง ตนเองถูกตีตรวน ทำให้สูญเสียอิสรภาพ และหมดอนาคตด้านอาชีพ โดยถูกยึดคืนเข็มขัดแชมป์ WBC เอเชีย ซึ่งการถูกดำเนินคดีครั้งนี้ ตำรวจชุดจับกุม มีเพียงหลักฐานที่มีชื่อตนเองเป็นเจ้าของรถ ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ไม่มีหลักฐานอื่นๆ ประกอบว่าตนเองเข้าไปร่วมกระทำความผิดจริง โดยรถที่พบเป็นรถของตนเองจริงแต่ได้มีการซื้อขายโดยการโอนลอย ไปตั้งแต่ปี 2558 ก่อนที่จะมาเกิดเหตุในปี 2561



โดยภายหลังตนเองสามารถนำหลักฐานมายืนยันจนศาลยกฟ้อง เช่น สามารถระบุวันเวลา สถานที่ที่ตนอยู่ในช่วงเกิดเหตุได้ว่าตนเองอยู่ที่ จ.นครปฐม แต่สถานที่เกิดเหตุอยู่ที่ จ.ระนอง อีกทั้งตำรวจได้นำจำเลยทั้ง 8 คนมาชี้ตัว ขณะที่อยู่ในเรือนจำ ปรากฏว่าทั้งหมด ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับตนเองมาก่อน



ซึ่งรถของกลาง นายอัจฉริยะ ได้มีการขายต่อให้กับรุ่นพี่นักมวยเมื่อปี 58 จากนั้นรุ่นพี่ก็ได้ขายต่อให้เต็นท์รถที่จ.นครปฐม ก่อนที่เต็นท์รถจะขายต่อให้กับผู้ต้องหาคดียาเสพติด เมื่อปี 61 จึงมีการขยายผลมาจับกุมนายอัจฉริยะ เนื่องจากมีชื่อเป็นเจ้าของรถหลังจากที่มีการโอนลอยมาโดยตลอด


อย่างไรก็ตาม การออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ตนยืนยันว่าไม่รู้สึกเกรงกลัวแม้คู่กรณีจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังขอฝากเตือนประชาชนว่า ไม่ควรซื้อรถในลักษณะที่เป็นการโอนลอยเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่นเดียวกับตนเอง อีกทั้งยอมรับว่า หลังออกจากคุก ตนยังไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ เนื่องจากสังคมมองว่าเคยเป็นคนต้องโทษ แต่ตนเองก็จะพยายามกลับมาฝึกซ้อมเพื่อชกมวยต่อไปในอนาคต

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ