สังคม
ตำรวจจับ 2 คนร้ายจี้มือถือสาวหน้า ม.เกษตรฯ อ้างพิษโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงินจึงก่อเหตุชิงทรัพย์
23 เม.ย. 2563
1.6K views
ตำรวจคุมตัว 2 ผู้ต้องหา ก่อเหตุร่วมกันจี้ชิงทรัพย์หญิงสาว เมื่อคืนนี้มาชี้จุดเกิดเหตุ เผยพิษโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงิน และไม่มีคนให้หยิบยืม ก่อนดื่มสุราย้อมใจ ใช้มีดชิงทรัพย์ สุดท้ายไปไม่รอดถูกจับได้ทันควัน
ตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง คุมตัวนายประธาน อินเงิน หรือ นาค และนายเดช ยะหัวฝาย 2 ผู้ต้องหา ร่วมก่อเหตุฆ่าใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ บนสะพานลอย หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อคืนนี้ มาชี้จุดเกิดเหตุ หน้ามหาวิทยาลัย บนสะพานลอย และป้ายรถโดยสารประจำทาง โดยมี พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ร่วมนำตัว 2 ผู้ต้องหาชี้จุด
จากการสอบสวน นายเดช สารภาพว่า หลังพ้นโทษข้อหาชิงทรัพย์ออกมา เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ก็มารับจ้างทำงานก่อสร้าง แต่ต่อมาเมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงิน จึงตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยในวันเกิดเหตุดื่มสุรากับนายนาค เพื่อนที่ร่วมก่อเหตุ ที่รู้จักกันตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ เมื่อประสบเหยื่อ จึงลงมือก่อเหตุ โดยจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่าย และดื่มสุรา ซึ่งหลังก่อเหตุก็ได้วิ่งขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป และถูกจับกุมได้เมื่อเช้านี้ ที่วัดไผ่ตัน ส่วนนายนาค ผู้ต้องหาอีกราย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นเด็กรถทัวร์ แต่ตอนนี้ไม่มีรายได้ จะหยิบยืมใครก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจร่วมกับนายเดชก่อเหตุ แต่ก็ถูกจับได้ทันทีเมื่อคืนนี้
โดยนางสาวจรัสศรี โพธิ์วัน ผู้เสียหาย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อคืนนี้ เมื่อเสร็จจากงานเวลาประมาณ 20 นาฬิกากว่าๆ เดินออกมาทางประตูมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝั่งถนนวิภาวดี ระหว่างเดินขึ้นสะพานลอย เพื่อข้ามไปรอรถโดยสารประจำทางฝั่งตรงข้าม เมื่อเดินถึงกลางสะพาน รู้สึกว่ามีคนเดินตามมา ก่อนที่ 1 ในคนร้าย จะกระชากคอเสื้อตน และบอกว่า ให้ส่งมือถือมา ตนจึงร้องขอว่าอย่าทำร้าย
จากนั้นคนร้ายอีกคนเอามีดมาจี้ และกระชากโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าถือ 2 ใบ วิ่งหลบหนีไป โดยคนหนึ่ง วิ่งขึ้นแท๊กซี่ ส่วนอีกคนวิ่งเข้าไปริมรั้วของมหาวิทยาลัย จากนั้นผู้เสียหายจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ -จากการตรวจสอบพบว่านายนาค เคยมีประวัติก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง ทั้งคดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด //ส่วนนายเดช เคยมีประวัติ 4 ครั้ง ทั้งคดีลักทรัพย์ และชิงทรัพย์
ขณะที่จุดเกิดเหตุ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางดารุณี ไชยโชติ วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง บอกว่า เมื่อก่อยเคยเกิดเหตุลักวิ่งชิงปล้นบ่อยครั้ง จนกระทั่งมีวินรถจักรยานยนต์มาตั้งด้านนอก ใกล้สะพานลอย ก็พบว่ามีเหตุอาชญากรรมลดลง แต่เมื่อมีเคอร์ฟิว ทำให้วินรถต้องกลับก่อนเวลา 20.00 น.จึงอาจเป็นช่องโหว่ให้คนร้ายมาก่อเหตุ ซึ่งจุดเกิดเหตุค่อยข้างเปลี่ยวและมีแลงสว่างไม่เพียงพอ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Ij4-XMn0G3M
แท็กที่เกี่ยวข้อง
