ทั่วประเทศวางมาตรการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19

สังคม

ทั่วประเทศวางมาตรการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19

โดย

5 เม.ย. 2563

2.6K views

ขณะนี้หลายหน่วยงานได้ มีคำสั่งไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับมือหากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่นที่ประชุมร่วมเหล่าทัพได้ ย้ำภาระกิจ สนับสนุบด้านสาธารณสุขและสถานที่กักกันโรค และล่าสุดวันนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด สั่งผู้ว่าราชการทุกจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม กรณีมีการยกระดับปฏิบัติการยับยั้งโควิด-19
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งให้ทุกจังหวัด เตรียมพร้อมดำเนินการ ในกรณี ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโลน่า 2019 ยกระดับการปฏิบัติการ จึงให้จัดเตรียมพื้นที่รองรับการกักกันตัวของจังหวัด ให้มีความพร้อมสามารถใช้พื้นที่ของภาคเอกชนได้ ทั้งในด้านการจัดทำเป็นสถานที่กักกันตัว โรงพยาบาลสนาม คลังเก็บอาหาร เครื่องดื่ม จุดรับบริจาค จุดประชาสัมพันธ์ให้ข่าว กำหนดผู้ให้ข่าวที่ชัดเจน หากจังหวัดใดมีข้อจำกัดเรื่องบประมาณ ให้รายงานกระทรวงมหาดไทยเพื่อขยายวงเงินต่อไป
ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนและทุกภาคส่วน ถึงความจำเป็นในการปฏิบัติการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด โดยให้ประชาชนอยู่ในที่พำนัก ไม่เคลื่อนย้าย เดินทาง อีกทั้งมอบหมายภารกิจหน้าที่แก่ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องที่ ถึงภารกิจและแนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติให้มีความเข้าใจร่วมกัน 
ให้วางมาตรการควบคุมการกักตุนสินค้า หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด 
ให้วางแผนจัดระบบการขนส่งสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน กำหนดจุดบริการอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อดูแลประชาชนถึงระดับหมู่บ้านชุมชนให้ชัดเจน และให้จังหวัดรายงานผลการปฏิบัติ ต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ภายในเวลา 18 นาฬิกาของทุกวัน
ขณะที่พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมเหล่าทัพ ประเมินว่า หากอัตราการแพร่ระบาดยังไม่ลดลง จนถึงกลางเมษายน อาจเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลที่จะรับผู้ป่วยติดเชื้อได้ โดยเฉพาะคนไทยในต่างประเทศ จะขอเดินทางกลับ โดยทุกคนต้องอยู่ในมาตรการควบคุมโรคของรัฐอย่างเข้มข้นตามสถานที่กำหนด จึงให้ทุกเหล่าทัพจัดกำลังพลและเครื่องมือ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ สนับสนุนการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างใกล้ชิด และในพื้นที่ควบคุมโรค ที่อาคารรับรองสัตหีบ และ โรงเรียนการบินกำแพงแสน ซึ่งขณะนี้อยู่ในพื้นที่แล้ว กว่า 350 คน 
ส่วนความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม และ โรงพยาบาลค่ายทหารทั้งหมดทั่วประเทศ ที่มีอยู่ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรค สามารถรองรับผู้ป่วยอาการไม่หนัก จำนวน 2,662 เตียง นอกจากนี้ยังร่วมกันเร่งผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า ได้แล้วกว่า 800,000 ชิ้น ใช้ในกองทัพและแจกจ่ายประชาชน 
ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเครื่องมือตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Real time PCR ที่สามารถตรวจให้ผลลัพธ์ 1,440 ตัวอย่างต่อหนึ่งวัน 
ซึ่ง นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้เตรียมเครื่อง cobas 6800 ที่เป็นเครื่องมือในการตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติระดับโมเลกุล เพื่อหาสารพันธุกรรม ที่สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 เดิมมีการติดตั้งเครื่องตรวจหาเชื้อดังกล่าว ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อตรวจปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีในเลือด (HIV-1 Viral load) แต่เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ได้นำมาปรับใช้ในการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างผู้ป่วยและผู้สัมผัสผู้สงสัยติดเชื้อโรคโควิด-19 
เช่นเดียวกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง cobas 6800 ไปยังระดับพื้นที่ ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี และ ที่ 7 จังหวัด ขอนแก่น ด้วย โดยชุดตรวจวิเคราะห์ cobas 6800 สามารถให้ผลการทดสอบ 96 ตัวอย่างแรกภายในเวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง และจะออกผลการทดสอบต่อเนื่อง 96 ตัวอย่าง ในทุกๆ 90 นาที โดยจะให้ผลทดสอบรวมทั้งสิ้น 1,440 ตัวอย่าง ใน 24 ชั่วโมง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ