ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Amittaa Phongsawat ได้โพสต์คลิปวินรถจักรยานยนต์รุมทำร้ายหนุ่มแกร็บไบค์บริเวณหน้าที่พัก พร้อมข้อความระบุว่า

“เหตุการณ์เกิดที่คอนโดตรงซอยสุขุมวิท 48 วันนี้ (2 ก.พ.) เรียกแกร็บไปยิมปกติ แต่วินหน้าปากซอยขับรถมาปาดรถแกร็บ ดีที่เราไม่ตกรถหรืออะไร หลังจากนั้น เบอร์ 26 ก็เริ่มตีแกร็บ แล้วมีคนมารุมอีกสามสี่คน (นี่คือคิดว่าจะมาห้ามเพื่อน เปล่าเลยมาช่วยเพื่อนรุม) ใช้หมวกกันน็อกฟาดหลายครั้ง เราคนเรียกแกร็บก็โดนลูกหลงที่หน้าอย่างนี้ได้หรอคะ ?” เหตุการณ์นี้ยังมีผู้ที่พักอาศัยละแวกนั้นถ่ายคลิปไว้หลายมุม ทั้งด้านล่างและบนคอนโดฯ ตรงจุดเกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุหนุ่มแกร็บไบค์ที่โดนทำร้ายทราบชื่นายทัศดา ฝักฝ่าย อายุ 27 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.คลองตัน เผยว่า ตนรับผู้โดยสารตามปกติ จู่ๆ มีวินมอเตอร์ไซค์ ไม่ทราบเบอร์ 1 คน ขับรถจักรยานยนต์มาปาดหน้าแล้วถามว่า "แกร็บเหรอ" ทำให้มีปากเสียงกันจนมีเรื่องชกต่อยกัน 

จากนั้นมีวินจักรยานยนต์มารุมทำร้ายตนอีก 2 คน นายทัศดา ยอมรับว่า ตนสู้ไม่ไหวจนชาวบ้านเข้ามาช่วยไว้ จากนั้นจึงมาแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกาย โดยตนได้รับบาดเจ็บรอยฟกช้ำ มีรอยขีดข่วนบริเวณแก้มซ้าย ศีรษะ แผ่นหลัง และบริเวณนิ้วก้อยซ้ายมีแผลเลือดออก เพราะตนก็ต่อสู้กับอีกฝ่ายเหมือนกัน เป็นครั้งแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้

ต่อมาตำรวจได้ติดตามตัววินมอเตอร์ไซค์ที่ก่อเหตุ ซึ่งมีทั้งหมด 3 คนคือนายชวลิต แสงสุวรรณ อายุ 44 ปี นายดอกรัก คำนึง อายุ 37 ปี และนายธนากร คำนึง อายุ 59 ปี ก่อนที่จะควบคุมตัวมาสอบสวน โดยมีกลุ่มคนขี่แกร็บไบค์จำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจ เช่นเดียวกับกลุ่มคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่เดินทางมาให้กำลังใจเช่นเดียวกัน ซึ่งระหว่างนั้นต่างฝ่ายก็ตะโกนต่อว่ากันแต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

ทั้ง 2 ฝ่ายได้เข้าไปเจรจากันภายในห้องสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่นายทัศดา หนุ่มแกร็บไบค์จะเดินออกมาเผยกับนักข่าวว่า  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนและฝ่ายวินมอเตอร์ไซค์ก็ใจร้อน มีอารมณ์ทั้งคู่ ยอมรับว่าตนเองก็ผิดเหมือนกันที่ไปแย่งลูกค้าเขา ผู้โดยสารเรียกก็ไม่รู้จะทำยังไง ตนก็พูดไม่ดีใส่อีกฝ่ายด้วย แค่พูดว่า “ทำไม” แต่จำไม่ได้ว่าพูดให้ของลับกับอีกฝ่ายหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่เจรจากันต่างฝ่ายต่างจับมือไหว้ขอโทษจบด้วยดี ไม่ได้ติดใจและขอให้เรื่องจบลงเพียงเท่านี้

โดยหนึ่งในคนขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ที่รุมทำร้ายตามคลิป (วินเสื้อเบอร์ 6 ) อ้างว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพียงแค่เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนเท่านั้น เพื่อนผมล้มก็เข้าไปช่วยทราบว่าหนุ่มแกร็บไบค์ได้ให้ของลับกับวินมอเตอร์ไซค์ก่อน ทำให้เพื่อนโมโหกระทั่งเกิดเหตุ ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันจนบานปลาย ตนก็เลยเข้าไปช่วยเพื่อน ยืนยันไม่ได้เข้าไปรุมทำร้ายช่วยดึงกระชากหนุ่มแกร็บไบค์

เบื้องต้นทางตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้ง 3 คน ความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ” ซึ่งผู้เสียหายยินยอมให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คนละ 1,000 บาท และกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 3,000 บาท แล้วแยกย้ายกันไป

ดูเหมือนเรื่องจะจบแต่ไม่จบ ทันทีที่หนุ่มแกร็บไบค์เดินออกจากโรงพัก บรรดากลุ่มแกร็บไบค์ที่มาให้กำลังใจ ได้เข้าไปสอบถามและบอกให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ควรจบง่าย ๆ เพราะเราโดนทำร้ายร่างกายและเป็นผู้เสียหาย ไม่งั้นต่อไปก็จะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก หลายเคสพอเกิดเรื่องก็พูดคุยจับมือจบ ๆ กันไป แต่หนุ่มแกร็บยืนยันขอให้เรื่องจบเท่านี้ เพราะคู่กรณียอมชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ก็ไม่รู้จะไปเอาเรื่องอะไรอีก ตำรวจก็แจ้งข้อกล่าวหาเสียค่าปรับไปแล้ว ถ้าจบได้ก็อยากให้มันจบ ๆ ไป เพราะปกติตนก็ไม่ได้ขี่รถเข้าไปบริเวณนั้นอยู่แล้ว

หลังจากทั้ง 2 ฝ่าย พูดคุยตกลงกันเสร็จแล้ว ระหว่างที่หนุ่มแกร็บไบค์กำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าว กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ก่อเหตุทั้ง 3 คน อาศัยจังหวะหลบออกทางด้านหลังโรงพัก หวั่นว่าจะเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มเพื่อนแกร็บไบค์มามาดักรอหน้าโรงพัก

ซึ่งกลุ่มวินที่ก่อเหตุทั้ง 3 คน รีบขึ้นรถแท็กซี่กลับทันที พอกลุ่มแกร็บไบค์ทราบ ต่างพากันปีนกำแพงวิ่งออกไปล้อมรถแท็กซี่แต่ไม่ทัน จนทำให้บรรยากาศตึงเครียด ตะโกนด่าทอตามหลัง แล้วรีบพากันขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปดักรอที่วินมอเตอร์ไซค์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 48 กะจะเอาคืนก่อนที่ตำรวจจะตามไป จนกลุ่มแกร็บสลายตัวแยกย้ายกันไปหวิดวุ่น และไม่เกิดเหตุรุนแรง

ปรากฎว่าหลังจากที่คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ก่อเหตุทั้ง 3 คน นั่งแท็กซี่ออกจากโรงพักไปแล้ว ไปโทรศัพท์ให้เพื่อนนำรถยนต์มารับ โดยผู้สื่อข่าวได้ไปพบทั้ง 3 คน นั่งอยู่ในรถยนต์ จอดรออยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 48 ไม่กล้าขับเข้าไปในซอย เพราะมีกลุ่มแกร็บไบค์ดักรออยู่ตรงนั้น โดยเพื่อนของผู้ก่อเหตุได้ลงไปดูลาดเลา จากนั้นก็เดินกลับมาที่รถก่อนจะขับเข้าไปภายในซอยดังกล่าว /ผู้สื่อข่าวพยายามเคาะกระจกรถเรียกเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทั้ง 3 โบกมือไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ

ด้านนางสาวอมิตา เข้าใจการ อายุ 25 ปี  ผู้โดยสารที่ถ่ายคลิป ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.คลองตัน และยังมีชายชาวต่างชาติ (อินเดีย) อีกคนที่ถูกคนขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลุ่ม เดียวกันข่มก็ไปแจ้งความเช่นกัน

โดยนางสาวอมิตา เผยว่า ตนได้เรียกใช้แกร็บไบค์ผ่านโทรศัพท์มือถือ เวลาประมาณ 09.00 น. มารับบริเวณจุดเกิดเหตุ เมื่อตนนั่งซ้อนท้ายกำลังขี่ออกจากหน้าคอนโดฯ คนขี่มอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง เบอร์ 26 ได้ขี่รถมาปาดหน้าบอกให้ลงจากรถถามว่า “มึงขับแกร็บเหรอ” หนุ่มแกร็บไบค์ตอบอบ “ใช่ครับพี่มีอะไร” จากนั้นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ลงมือทำร้ายร่างกายหนุ่มแกร็บไบค์

ซึ่งตนพยายามเข้าไปห้ามบอก “หนูรีบ ๆ รีบไปทำธุระ พอก่อน ๆ” แต่วินมอเตอร์ไซค์ไม่สนใจต่อยอย่างเดียว จนตนถูกลูกหลงต่อยเข้าคิ้วขวาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ยันยืนว่าฝ่ายแกร็บไบค์ไม่ได้ไปหาเรื่องหรือด่าทอก่อน ท้าทายกันมาก่อนหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ตนมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เกรงว่าอนาคตข้างหน้าจะได้รับอันตราย เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะพักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว  อาจเลี่ยงการใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างสักพัก

ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ในวันนี้ (3 มี.ค.63) เวลา 09.00 น. กทม. จะเชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำพื้นที่เขตคลองเตย ร่วมประชุม ณ ฝ่ายเทศกิจ ชั้น 3 สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาการลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ตามมาตรการยึดเสื้อวินต่อไป ทั้งนี้ กทม.เข้าใจดีถึงปัญหาระหว่างผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ กับผู้ให้บริการรับผู้โดยสารเอกชน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกกำลังหาทางออกร่วมกันสำหรับทุกฝ่าย

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/DFnzzkR7qNE