เปาบุ้นจิ้น ตอน รักแท้คนละโลก

เปาบุ้นจิ้น ตอน รักแท้คนละโลก

สองผัวเมีย โดนจับใส่กรงแห่ประจานให้ชาวบ้านขว้างปา ขณะนำตัวไปยังลานประหารฆาตกร ไอ้ฆาตกร เสียงชาวบ้านตะโกนสาปแช่ง สองผัวเมียรักใคร่ห่วงใยกันยิ่งนัก ขนาดถูกมัดมือทั้งสองข้าง แต่ถงกวงก็ยังห่วงว่าผักที่ชาวบ้านขว้างปาเลอะหัวเมียเขาให้นางเอียงหน้ามาเพื่อที่เขาจะได้ใช้ปากคาบผักออกจากหัวนาง ลุงกวง พ่อผู้ตาบอดของจางถงกวง ดั้นด้นเพื่อจะไปพบท่านเปา หวังจะให้ท่านช่วยลูกชายและลูกสะใภ้ ระหว่างทางสลบอยู่หน้าศาลเจ้าที่ ก่อนสลบลุงรำพันขอให้สวรรค์เมตตาให้เขาพบท่านเปา สักครั้ง เจ้าที่ออกมาปรากฏตัวดูด้วยความเมตตา จากนั้นก็บันดาลให้ร่างของลุงกวงไปนอนสลบขวางขบวนของท่านเปา ลุงอ้อนวอนขอให้ท่านเปารีบไปช่วยลูกชายกับลูกสะใภ้ที่กำลังจะถูกประหาร ท่านเปาสั่งให้จางหลงเจ้าหู่อันเชิญกระบี่อาญาสิทธิ์ล่วงหน้า ไประงับการประหารไว้ก่อน แต่ก็ไม่ทันการ ช่วยได้แค่จางถงกวงผู้เป็นสามีคนเดียว ส่วนจ้าวเจี๋ยหยูนั้นโดนลงดาบประหารคอขาด ไปก่อนหน้าสามีแค่ชั่วเสี้ยววินาทีก่อนนางตาย ได้ท่องกลอนเพื่อให้สามีจดจำไว้หากพบกันแล้วจำหน้ากันไม่ได้ สองเราผูกพันคู่เคียงฟ้า สายใยคงมั่นแม้สิ้นใจ ท่านเปากับกงซุนปรึกษากันเรื่องคดี ผู้ตัดสินคดีนี้คือผู้ตรวจการเหอเหวินซิ่ว ซึ่งประวัติไม่มีด่างพร้อย เคยเป็นถึงพระอาจารย์ในวัง ตอนหลังออกมาเป็นผู้ตรวจการ แล้วยังได้แต่งงานกับลูกสาวหลิวฟางซึ่งอดีตเป็นหัวหน้าองค์รักษ์วังหลวงตอนหลัง ลาออกมาตั้งสำนักสอนวิทยายุทธซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังพอๆกับเส้าหลินและบู๊ตึ้ง ส่วนผู้ตายนั่นก็ถือได้ว่าเป็นน้องบุญธรรมของเหอเหวินซิ่ว เพราะเป็นลูกชายเหอซ่านเหิน ซึ่งเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของที่นี่ และเป็นพ่อบุญธรรมของเหอเหวินซิ่วเช่นกัน แต่เหอต้าโหย่วผู้ตายเป็นคนไม่เอาถ่าน วันๆเอาแต่เที่ยวเตร่กินเหล้าเข้าซ่อง ตามคดีอ้างว่าจางถงกวงเห็นเหอต้าโหย่วผู้ตายใช้เงินเป็นเบี้ยที่หอนางโลม จึงโลภคิดจับตัวเรียกค่าไถ่ และภายหลังได้ฆ่าปิดปาก เหอเหวินซิ่วต้อนรับการมาเยือนของท่านเปา(ดาราเวียนอีกแล้วคับท่าน) เหอเหวินซิ่วจัดงานต้อนรับอย่างสวยงาม แต่ท่านเปากลับติงว่าสิ้นเปลืองเกินไป ขอให้งดพวกนางรำกับพวกดนตรีเสีย เหอเหวินซิ่นจึงเชิญท่านเปาไปที่บ้าน เพื่อเลี้ยงน้ำชา ทั้งสองแลกเปลี่ยนกลอน ซึ่งกันและกัน ขณะนั้นเองหลิวเสียนเจียวภรรยาของเหอเหวินซิ่น กลับจากฝึกวรยุทธมาถึงบ้าน เกิดปะทะมือกับจั่นเจา แต่สามีนางมาห้ามไว้ได้ทัน ท่านเปาเปิดศาลใหม่เพื่อสอบคดีจางถงกวง แต่ปัญหาคือจางถงกวงเสียใจกับ การตายของภรรยามากจนหมดอาลัยตายอยาก แม้คำพูดสักคำก็ไม่อาจเอ่ยขึ้นมา ท่านเปาต้องหาวิธีทำให้เขาพูด ท่านกงซุนจึงแนะนำให้เอากระดาษให้เขียนแทนพูด เขาก็เขียนรำพันถึงภรรยาที่ตายไปและอยากจะตายตามไป ท่านเปาจึงเตือนสติว่า เจ้ายังมีพ่อตาบอดอยู่อีกคนนะ ถ้าเจ้าตายแล้วพ่อเจ้าจะอยู่ยังไง วิญญาณของเจี๋ยหยูมาหาสามีที่คุก แต่น่าเสียดายที่เขากับนางอยู่กันคนละโลก จางถงกวงจึงไม่อาจรับรู้การมาของนางได้ มือปราบหยวนเฟยถูกท่านเปาเรียกมาสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับคดีนี้ เพราะมือปราบหยวนเป็นคนจับคนร้ายได้ ซึ่งเขาก็เล่าให้ฟังว่าเรื่องมันเริ่มมาจากที่ลูกชายเศรษฐีเหอ ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ ซึ่งในครั้งแรกคนร้ายบอกให้เอาเงินไปแขวนไว้กลางตลาด เมื่อมือปราบจะล้อมจับ เหอต้าโหย่วก็เอาเงินบางส่วนหว่านแจกชาวบ้าน ทำให้ชุนมุลแล้วหลบหนีไปได้ มือปราบหยวนเล่าให้ฟังว่า ขณะไล่ตามจับคนร้าย ได้พบรองเท้าข้างนึงตกอยู่ ซึ่งรองเท้าข้างนั้นเขาจำได้ว่าเป็นของจางถงกวง เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยไปขอให้ จางถงกวงเขียนกลอนวันเกิดให้มารดา แล้วไปเห็นรองเท้าคู่นี้ซึ่งเจี๋ยหยูปักให้สามี เขาเคยขอซื้อเพราะแบบมันสวยสะดุดตา แต่จางถงกวงปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงจำรองเท้าคู่นี้ได้แม่ยำนัก พ่อเฒ่ากวงมาเยี่ยมลูกชายที่คุก เจี๋ยหยูเห็นสามีหมดอาลัยตายอยากแล้วให้เป็นห่วงยิ่งนัก นางจึงต้องหาทางช่วย โดยอันดับแรกต้องหาทางติดต่อกับเขา ให้ได้ก่อน นางจึงไปหาซินแสลู่ ที่เป็นหมอดูชื่อดังในเมือง เพื่อหวังให้เขาเป็นสื่อระหว่างนางกับสามี ซินแสลู่เองก็ไม่ใช่หมอดูผู้วิเศษแต่อย่างใด เขาได้แต่หลอกชาวบ้าน ไปวันๆ เมื่อมาเจอผีจริงๆเข้า จึงตกใจเป็นอันมาก นางขอร้องให้ซินแสลู่ไปที่คุกเพื่อปลอบใจสามีนาง ในตอนแรกจางถงกวงก็ไม่ได้ใส่ใจ นางจึงบอกให้ซินแสท่องบทกลอนที่ทั้งสองให้กันไว้ก่อนตาย เขาจึงยอมเชื่อ นางบอกให้เขาบอกความจริงกับท่านเปา อย่าหมดอาลัย ตายอยากเพราะอายุเขายังไม่สิ้น ต้องมีชีวิตอยู่ต่อดังนั้นเขาควรช่วยล้างข้อกล่าวหานั่นทำให้จางถงกวงยอมขอพบท่านเปาเพื่อพูดความจริง จางถงกวงเป็นบัณฑิตมีอาชีพทางขีดเขียนบทความรวมทั้งรูปวาด ครั้งหนึ่งเขานำรูปวาด 4 ยอดหญิงไปส่ง ที่หอนางโลมอี้หงส์ และในครั้งนั้นเขาได้ทำรองเท้าที่เป็นหลักฐานตกไว้ที่นั่น รวมทั้งเรื่องรายมือในจดหมายเรียกค่าไถ่นั้นเขาไม่ได้เขียนเองแต่ต้องเป็นคนลอกลายมือเขา เพราะเขามีอาชีพทางเขียนบทกวี,คำอวยพรดังนั้นลายมือเขาจึงแพร่หลายไปทั่ว หาตัวอย่างได้ไม่ยากดังนั้นท่านเปาจึงให้เขาคัดลายมือเพื่อเปรียบเทียบ ซึ่งท่านกงซุนก็วิเคราะห์ว่าเป็นลายมือลอกเลียน เขาเล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่รับสารภาพเพราะทนกับการทรมานไม่ไหว ท่านเปาจึงสั่งให้ปล่อยตัวจางถงกวง(ประกันออกไป)ชั่วคราว เพื่อสืบสวนคดีใหม่ เขาจึงกลับมาบ้านมาพบพ่อที่ตาบอดได้ ซึ่งพ่อเขาก็บอกให้ลูกชายหนี เพราะไม่เชื่อว่าท่านเปาจะล้างมลทินให้ได้ แต่จางถงกวงยืนยันจะสู้ เหอเหวินซิ่นกำลังกังวลเรื่องที่เปาบุ้นจิ้นจะพลิกคดี แต่ภรรยาปลอบใจว่า หากมีอะไรนางและพ่อนางจะช่วยเขาเอง ฝ่ายมือปราบหยวนเกรงว่าถ้าพลิกคดีจะมีผลกับตัวเขา จึงมาวางเพลิงเผาบ้านจางถงกวง จ้าวเจี๋ยหยูผู้ภรรยาพยามปลุกสามีแต่เขาไม่ตื่น นางจึงมาตามซินแสลู่ให้ไปช่วย ซินแสลู่บอกว่าบ้านนางไกลเขาไปไม่ทันแน่นางจึงขอให้เขาไปบอกท่านเปาให้ไปช่วย จางหลงเจ้าหู่ไปถึงบ้านกำลังตกอยู่ในเปลวเพลิงแต่ก็สามารถช่วยสองพ่อลูกออกมาได้ ท่านเปาเรียกซินแสลู่มาสอบถามถึงเรื่องวิญญาณของจ้าวเจี๋ยหยู เอี้ยนหงนางโลมที่หออี้หงส์มาพบซินแสลู่ มอบเงินให้ 500 ตำลึงเพื่อให้เขาช่วยอุทิศส่วนกุศลให้จ้าวเจี๋ยหยู ด้วยนางต้องการไถ่บาปในใจเพราะนางเองมีส่วนทำให้เจี๋ยหยูตาย ผู้บงการเบื้องหลังนี้ คือคนที่เอี้ยนหงเรียกว่าอาหลางซึ่งเขาก็คือเหอเหวินซิ่นนั่นเอง เขาเลี้ยงเอี้ยนหงไว้เป็นภรรยาลับๆ วิญญาณเจี๋ยหยูซึ่งตามเอี้ยนหงมา ได้ยินที่ทั้งสองคุยกันแต่ไม่สามารถเข้าไปดูหน้าฝ่ายชายได้ นางจึงไปหาซินแสลู่เพื่อวานเขาไปบอกท่านเปาว่าคนร้ายอยู่ที่ใหนในตอนนี้ ซินแสลู่รีบไปที่ศาลแต่ไปเจอมือปราบหยวนเข้าเสียก่อน พอเขารู้ว่าคนร้ายอยู่ที่ใหนจึงรีบตามไปหวังจะจับเพื่อเอาผลงาน และเมื่อเขาตามไปที่บ้านเอี้ยนหงส์ เขาจึงได้พบว่าคนร้ายที่แท้จริงนั้นเป็นใคร แต่เขาก็ถูกฆ่าเสียก่อน จากนั้นเหอเหวินซิ่นก็มารับหน้าท่านเปา โดยทำเป็นว่ามาให้เบาะแสแต่อันที่จริงเพื่อจะเบี่ยงเบนความผิดให้พ้นตัว ฝ่ายเอี้ยนหงก็มาพบท่านเปา อ้างว่าฝันเห็นศพเหอตาโหย่วที่ถูกฝัง จึงมาแจ้งเบาะแส ซึ่งก็พบศพจริงๆ รวมทั้งพบจอบที่สลักชื่อจางถงกวงตกอยู่ใกล้ๆด้วย เมื่อเปิดศาลรอบใหม่หลักฐานจึงแน่นหนากว่าเดิม เจี๋ยหยูพยายามจะเข้าไปช่วยสามีแต่พระภูมิที่รักษาประตูหน้าศาลกั้นไม่ให้นางเข้าไปได้ ซินแสลู่เข้าไปแจ้งท่านเปาในศาลเรื่องวิญญาณเจี๋ยหยูมาขอพบ ฝ่ายเจี๋ยหยูเองก็ขโมยกระดิ่งพระภูมิเพื่อให้ปรากฏตัวให้คนเห็นได้แล้วฝ่าเข้าไปในศาล แต่เนื่องจากในศาลยังมีพยัคฆ์กับมังกรเฝ้าที่เสา ซึ่งพลังของทั้งสองสิ่งนี้จะทำลายวิญญาณนาง ท่านกงซุนจึงรีบโยนยันต์ 8 ทิศช่วยรักษาวิญญาณนางเอาไว้ ท่านเปารู้อยู่แล้วว่าจางถงกวงบริสุทธิ์ แต่ต้องแกล้งขังเขาไว้ก่อน เพื่อคุ้มครองเขาและหลอกล่อให้คนร้ายตัวจริงชะล่าใจและปรากฏตัว กงซุนมาเยี่ยมจางถงกวงที่คุกพร้อมมอบขวดวิญญาณของเจี๋ยหยูให้ พร้อมบอกให้เขารักษาไว้ให้ดีห้ามโดนแดด ภายใน49วันจะสามารถชุบ วิญญาณนางใหม่ได้ โดยวันที่7เดือน7เป็นวันที่สวรรค์กับโลกมนุษย์ใกล้ กันมาที่สุด วันนั้นน่าจะเป็นโอกาสดีที่สุด แต่ก็อย่าหวังมากนักเพราะที่ เคยทำสำเร็จมีแต่คนระดับสูงเช่นถังจงฮ่องเต้กับสนมหยางกุ้ยเฟย ส่วนคนธรรมดาบารมีไม่แน่ว่าจะพอเพียงหรือไม่ จางหลง-เจ้าหู่สะกดรอยเอี้ยนหงส์ นางกับเหอเหวินซิ่วจึงซ้อนแผน แกล้งแสดงละครว่ามือปราบหยวนดักทำร้ายนางแล้วจางหลงเจ้าหู่มาช่วยไว้ได้ นางแกล้งสารภาพกับท่านเปาว่า นางถูกมือปราบหยวนบังคับให้ ใส่ร้ายจางถงกวงกับเมีย นางเล่าว่าเดิมทีเหอต้าโหย่วเป็นแขกประจำของนาง แต่ตอนหลัง เขาถูกพ่อบังคับว่าถ้าไม่ช่วยทำการค้า เอาแต่เสเพลจะถูกตัดออก จากกองมรดก ไม่ให้เงินใช้ ทำให้เขาวางแผนจับตัวเองเรียกค่าไถ่ เพื่อหลอกพ่อเอาเงินมาใช้ จดหมายเรียกค่าไถ่ก็ลอกตัวอักษรมาจาก ภาพอักษรที่จางถงกวงเคยเขียนไว้ ส่วนรองเท้าข้างที่จางถงกวงทำตกไว้ แล้วเอี้ยนหงส์เก็บได้ต้าโหย่วเอาไปทำตกไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งสองพอได้เงินค่าไถ่แล้ว ก็ออกนอกเมืองไปเที่ยวอย่างสนุก พอกลับมาอีกครั้งถึงได้รู้ว่ามีคนต้องรับโทษประหารจากการ กระทำของตน จึงไม่กล้าออกมาสู้หน้า ได้แต่หลบๆซ่อนๆ จนวันนึงมือปราบหยวนไปพบเข้า มือปราบหยวนบังคับพวกเขาไปขุดเอาทองแท่งค่าไถ่ ที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งต้าโหย่วก็บอกว่าหากมือปราบหยวนยอม ปล่อยพวกเขาจะแบ่งทองให้ แต่มือปราบหยวนกลับฆ่าเหอตาโหย่ว ตายเพื่อเอาทองทั้งหมด ส่วนเอี้ยนหงส์ร้องขอชีวิตและยอมเป็น เบี้ยล่างมือปราบหยวนทุกอย่าง นางจึงรอดมาได้ และจอบเล่มนั้น ก็มือปราบหยวนเองนั่นแหล่ะที่สลักชื่อจางถงกวงไว้ หลังจากนั้นก็ต้องการซ้อนแผนโดยให้นางมาแจ้งความกับท่านเปา ใส่ร้ายจางถงกวง ท่านเปาแม้ยังไม่สนิทใจนัก แต่เมื่อหลักฐานนำมาถึงขั้นนี้ จึงต้องสรุปก่อนว่าคนร้ายที่แท้จริงคือมือปราบหยวน จึงให้ปล่อยจางถงกวง ในขณะเดียวกันเหอเหวินซิ่วก็อาสา ตามจับมือปราบหยวนเพื่อทำคุณไถ่โทษที่เคยตัดสินคดีจางถงกวง เหอเหวินซิ่วกล่าวขอโทษจางถงกวงที่ตัดสินคดีผิดพลาด ทำให้ภรรยาตาย แต่เขาขาดสติโกรธจัด จึงคว้าถาดหมึกขว้างใส่หน้า เหอฮูหยิน โกรธแค้นที่สามีโดนคนเอาแป้นหมึกขว้าง จึงมาหาเปาบุ้นจิ้น เพื่อให้ไปขอขมาสามีตน นางได้ปะทะมือกับจั่นเจาพอดีกับที่เหอเหวินซิ่วมาห้ามเสียก่อน จางถงกวงส่งจดหมายเชิญกงซุนมาพบที่วัดเป่าหลินเพื่อขอให้เขาช่วย เรื่องชุบวิญญาณภรรยา กงซุนเชอะบอกว่า ก่อนยาม5พรุ่งนี้เช้าเป็นโอกาสที่ดี ตั้งแต่ยาม1ให้คอยสังเกต เมื่อมีแสงสีเขียวปรากฏและพอแสงจางจะมีควันลอยขึ้นจากปากขวด ให้เขาเอาน้ำตาวัวป้ายตา แล้วเอากิ่งหลิวพรมน้ำไปที่ขวด ช่วงนั้นวิญญาณ นางจะรวมตัวได้และเขาจะได้เห็นนาง แต่ก็จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่ทั้งสองอย่างนี้จะต้องทำพร้อมกันผิดพลาดไม่ได้ จางถงกวงแย้งว่า เขาคนเดียวจะทำสองอย่างพร้อมกันได้หรือ กงซุนจึงแนะนำให้ไป ตามซินแสลู่มาช่วย แต่พอขวดเริ่มมีแสงสีเขียวขึ้นมา ซินแสลู่ดันปอดแหกกะจะเผ่นจางถงกวงต้องขอร้องไว้ เมื่อมีควันลอยขึ้นจากขวด ซินแสลู่เอากิ่งหลิวพรมน้ำ ซึ่งก็โดน ขวดมั่งพลาดไปโดนจางถงกวงมั่ง เมื่อวิญญาณนางปรากฏ ซินแสลู่จึงร้องบอกจางถงกวงเขาพยามไล่ตะครุบนาง แต่เขามองไม่เห็นนาง เขาได้แต่คร่ำครวญ นางพยามกล่าวคำอาลาสามี แต่เนื่องจากนางพึ่งคืนวิญญาณ ใหม่ๆ ยังอ่อนแอ ดังนั้นเสียงจึงแผ่วเบามากแม้แต่ซินแสลู่ก็ไม่ได้ยิน และแล้วก็ถึงเวลาที่นางต้องไป เมื่อมีลำแสงมารับดวงวิญญาณ ซินแสลู่เห็นลำแสง จึงร้องบอกจางถงกวงว่าเมียจะไปแล้วนา เขาจึงพยามไล่ใคว่คว้า แต่ก็ได้เพียงความว่างเปล่า จางถงกวงเสียใจมาก คืนนั้นเขาเดินร้องเรียกหาภรรยาไปทั่วเมือง เสียงร้องขอเขาได้ยินไปถึงท่านเปาที่กำลังหลับ ท่านเปารู้สึกสงสารยิ่งนัก ลั่นวาจาว่าจะหาคนร้ายตัวจริงให้ได้ คืนนั้นท่านเปาจึงลงไปพบเอี้ยนหงส์ที่คุก ท่านเปาพยามกล่อมเอี้ยนหงส์ให้พูดความจริง ท่านเปาบอกว่าพรุ่งนี้ ท่านจะกลับเมืองไคฟงแล้ว ดังนั้นคืนนี้จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่นางจะ พูดความจริง นางเองเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน แต่นางบอกว่านางพูด ไม่ได้ เพราะถ้าพูดคือทำลายอาหลาง คนที่นางรัก ท่านเปาจึงจนปัญญา พอคล้อยหลังเอี้ยนหงส์ก็วิ่งเอาหัวโขกกำแพง ฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้ความผิด เหลือทิ้งไว้แต่ผ้าเช็ดหน้า เพื่อเป็นหลักฐานในการสืบต่อ 65 ผ้าเช็ดหน้านั้นเป็นบทกลอนที่มอบให้เอี้ยนหงส์ ลงชื่อผู้ให้คืออาหลางแต่ว่า อาหลางคือใครกันหล่ะ นี่ทำให้ท่านเปาต้องสืบต่อ ผ้าเช็ดหน้านั้นเป็นบทกลอนที่มอบให้เอี้ยนหงส์ ลงชื่อผู้ให้คืออาหลาง แต่ว่า อาหลางคือใครกันหล่ะ นี่ทำให้ท่านเปาต้องสืบต่อ ท่านเปามาพบเหอเหวินซิ่วแจ้งเรื่องอาหลาง ซึ่งเหอเหวินซิ่วก็รับปาก ว่าจะหาทางสืบหาตัวอาหลางให้ได้ ขอให้ท่านเปากลับเมืองหลวงไปได้ จางถงกวงสะเปะสะปะมาปะทะขบวนท่านเปา กงซุนเชอะตรวจอาการแล้วบอกว่าต้องฝังเข็ม9จุดเพื่อรักษาโรค เลอะเลือนนี้ ท่านเปาจึงให้รับจางถงกวงไปเมืองหลวงด้วย กงซุนเชอะอดหลับอดนอนฝังเข็มรักษาจางถงกวงจนมีสติ คืนมาได้ ท่านเปาเริ่มซ้อนแผน หลังจากทิ้งหลักฐาน ผ้าเช็ดหน้า ให้เหอเหวินซิ่ว เอาไปประกาศหาตัวอาหลางทั่วเมืองแล้ว มีชาวบ้านที่อยากได้รางวัลนำจับพยามตื้อขอให้เขาบอกเรื่องอาหลาง ทหารมารายงานเหอเหวินซิ่ว เรื่องเจ้าหนวดเคราเฟิ้มที่อ้างว่ารู้จักอาหลาง คืนนั้นปลาก็กินเหยือ เหอเหวินซิ่ว ย่องไปเพื่อเก็บเจ้าเครา ดังนั้นจึงเกิดการล้อมจับอาหลางขึ้น ซึ่งเมื่อเปิดหน้าทุกคนก็ได้เห็น เขาก็คือเหอเหวินซิ่วนั่นเอง ท่านเปาบอกกับถงกวงว่าคนร้ายคือใคร ทำให้เขาสะเทือนใจง อาการทรุดลงไปอีก ในขณะที่วิญญาณเจี๋ยหยูกำลังจะข้ามสะพาน ไปเกิดใหม่ แต่นางได้ยินเสียงของพ่อสามีร้องเรียกให้คนช่วย ลูกชาย นางจึงหันหลังกลับไปโลกมนุษย์อีก คนที่จะตามไปช่วยได้ ก็เจ้าเก่าคนเดิม ซินแสลู่นั่นเอง ซึ่งเขาก็ไม่ได้เต็มใจสักเท่าไร เพราะเหนื่อยกับสองผัวเมียนี่ เต็มทนแล้ว นางขอให้ซินแสพาสามีไปวัดเจ้าแม่กวนอิมเพื่อรักษาอาการ แต่ขณะเข็นรถไป ก็สะดุดกับหิน นางรู้ว่าไปไม่ทันแน่ จึงใช้พลังเฮือกสุดท้าย รักษาจางถงกวง ก่อนนางจะสลายไป ได้สั่งเสียฝากซินแสไว้ว่าให้สามีนาง อยู่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง ท่านเปาเปิดศาลสอบสวนเหอเหวินซิ่ว ซึ่งแน่นอนเขายัง ปากแข็งบ่ายเบี่ยงไปต่างๆนาๆ ท่านเปาบอกว่า อดีตของเหอเหวินซิ่วได้สืบมาหมดแล้ว ว่าอดีตเขาเป็นบัณฑิตตกยาก แต่ได้เอี้ยนหงส์ส่งเสียจนได้ เป็นจอหงวน ซึ่งเขาก็ปฏิเสธพร้อมทั้งด่าว่าเอี้ยนหงส์ต่างๆนาๆ ว่าเป็นหญิงนางโลมพูดจาเชื่อถือไม่ได้ ท่านเปาบอกว่าเอี้ยนหงส์ยอมฆ่าตัวตายเพื่อปกป้องเจ้า เจ้าไม่รู้สึกละอายหรือยังไง สาเหตุของเรื่องมาจากความโลภ เนื่องจากเศรษฐีเหอซ่านเหิน ซึ่งรับเหอเหวินซิ่วเป็นบุตรบุญธรรม แต่ในความเป็นจริง ทรัพย์สมบัตินั้นเขาไม่มีสิทธิ์ใดๆ ดังนั้นหากกำจัดเหอต้าโหย่ว ลูกแท้ๆได้ เศรษฐีเหอก็จะหมดที่พึ่งเหลือเพียงเขาคนเดียว ซึ่งทั้งหมดเขาหลอกผ่านเอี้ยนหงส์ให้ไปหลอกเหอต้าโหย่วอีกที เมื่อเหอต้าโหย่วชิงเงินกลับมาได้ จึงถูกกำจัด ซึ่งเหอเหวินซิ่ว เล่าให้เอี้ยนหงส์ฟังว่า เมื่อ30ปีก่อนพ่อเขากับเหอซ่านเหินได้ทำการค้า ตอนหลังพ่อเขาโดนเหอซ่านเหินโกงจนตาย ดังนั้นสิ่งที่เขาทำ ก็เป็นการแก้แค้นให้พ่อด้วย ส่วนศพของเหอต้าโหย่ว เขาก็ใช้ยาสลายกระดูก ย่อยจนไม่เหลือซาก หลักฐานคับหลักฐาน ดาบของเหอเหวินซิ่ว ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคย ใช้ดาบนี้สลักชื่อจางถงกวงที่จอบเพื่อใส่ร้ายเขา แต่เพราะความรีบร้อน ทำให้ดาบบิ่น ส่วนที่บิ่นฝังอยู่ที่ด้ามจอบซึ่งเมื่อนำมาเทียบแล้วพอดีกัน พยานคนสำคัญ ที่แท้เอี้ยนหงส์ยังไม่ตาย ท่านกงซุนช่วยชีวิตนาง ไว้ได้แต่ท่านเปาต้องการซ้อนแผนจึงซ่อนตัวนางไว้ รวมทั้งให้นางแอบฟังเรื่อง ที่เหอเหวินซิ่วปฏิเสธไม่รู้จักนาง และด่าว่านางเป็นนางโลมพูดจาเชื่อถือไม่ได้ นั่นทำให้นางตัดใจจากเหอเหวินซิ่วและยอมกลับใจมาเป็นพยานกล่าวโทษเขาได้ เมื่อหลักฐานและพยานแน่นหนาขนาดนี้ เขายากที่จะดิ้นหลุด เหอเหวินซิ่วร้องขอ โอกาสแก้ตัวกับท่านเปา ท่านเปาจึงบอกว่าแล้วจางถงกวงกับภรรยา พวกเขา มีโอกาสแก้ตัวไหม หากเจ้าทำให้ภรรยาเขากลับมาได้ข้าก็จะละเว้นโทษได้ เหอฮูหยินมาต่อรองกับท่านเปา โดยบอกว่านางจะใช้หมอผีที่เก่งที่สุดเรียกวิญญาณ จางฮูหยินกลับคืนมาเป็นคนให้ได้ เพื่อให้ท่านเปาละความผิดสามี โดยนางขอ เวลา7วัน คุณหนูเสียนเจียวบุตรสาวคนเดียวของ เจ้าสำนักยิ่งยง ก็วิ่งไปขอร้องพ่อให้ช่วย ซึ่งลูกศิษย์แต่ละคนก็ออกความคิดกัน แปลกๆแต่ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น จนนักพรตคนหนึ่งเสนอว่าให้ หาผู้หญิงที่เหมือนจ้าวเจี๋ยหยูมาสวมรอย เป็นภรรยาจางถงกวง โดยอ้างว่าทำให้นางฟื้นมาจากความตายได้หลังจากหาผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมาได้ รวมทั้งซักซ้อมให้นางรู้ รายละเอียดของจ้าวเจี๋ยหยูเรียบร้อย เชิญท่านเปาและทุกคนไปดูพิธีเรียกวิญญาณคืนชีพ เริ่มพิธีเรียกวิญญาณ ดังนั้นจางถงกวง จึงรู้สึกว่าหญิงผู้นี้ไม่ใช่ภรรยาเขา ท่านกงซุนจึงบอกให้จางถงกวงสอบถามเรื่องที่คิดว่า มีแต่ภรรยาเขาเท่านั้นที่รู้ ซึ่งนางก็เล่าประวัติตัวเองได้เป็นฉากๆแต่ พอมาถึงบทกลอนที่ทั้งสองท่อง ไว้ก่อนตาย นางกลับตอบไม่ได้ นางพยายามดำน้ำท่องกลอนสะเปะสะปะไปหลายบท แต่ก็ไม่มีบทไหนตรงสักอัน นักพรตเห็นท่าจะจนแต้ม จึงอ้างว่านางพึ่งกลับจากยมโลก ความจำยังเลอะเลือน ขอเวลาพัก สัก2-3วันก่อน คุณหนูหลินเสียนเจียวจึงนำเงิน5พันตำลึงไปให้ซินแสลู่ เพื่อให้เขาบอกกลอนที่จางถงกวงกับภรรยาเคยท่องไว้ซินแสลู่จำได้เพราะกลอนบทนี้เจี๋ยหยูเคยท่องให้เขา พูดกับจางถงกวงเพื่อยืนยันว่านางมาหาเขาจริงๆ ฝ่ายนางเมียโมโหมากที่ผัวเกิดลืมกะทันหันกลัวเงินจะหลุดลอย เลยฟาดหัวให้ทีนึง แต่ถึงจะท่องได้ ความรู้สึกมันก็บอกอยู่ดีว่าไม่ใช่ ดังนั้นจางถงกวงจึงยังไม่ยอมรับเป็นภรรยา เสียนเจียวมาเยี่ยมสามีที่คุก เขาขอร้องให้นางช่วยเขาให้ได้ ทั้งสองจึงวางแผนแหกคุก โดยเหอเหวินซิ่วจับตัวเมียเป็นประกันแหกคุกออกไป ทั้งสองมาขอร้องจางถงกวงให้ยอมรับผู้หญิงที่จัดให้เป็นภรรยาโดยจะชดเชยเงินทองให้อีกมากมาย แต่เขาก็ปฏิเสธเหอเหวินซิ่วคิดจะฆ่าเขาปิดปากแต่เมียห้ามไว้ ดังนั้นพอเขาจะคิดหนี คนของศาลไคฟงก็มาล้อมจับไปได้ ท่านเปาเปิดศาลอีกรอบ หญิงที่อ้างเป็นเจี๋ยหยูยอมรับว่าสวมรอย เดิมทีนั้นนางเป็นนางโลมคนนึง สำนักยิ่งยงไถ่ตัวออกมา แล้วให้สวมรอย ท่านเปาเห็นว่านางไม่ใช่ตัวการใหญ่จึงให้ปล่อยตัวไป เจ้าสำนักหลิวยอมรับผิดที่ทำไปเพราะความรักลูก ท่านเปาก็เห็นใจ จึงลงโทษแค่ให้ปิดสำนัก3เดือน ให้เอาลูกศิษย์ไปบำเพ็ญประโยชน์ ถึงตาเหอเหวินซิ่ว ซึ่งแน่นอนท่านเปาสั่งลงโทษประหาร แต่มีหรือคุณหนูเสียนเจียวจะยอมให้สามีถูกฆ่าง่ายๆ นางกระโดดไปจับกงซุนเชอะเป็นตัวประกัน ซึ่งพ่อนางพยามขอร้องยังไงนางก็ไม่ยอมปล่อย เจ้าสำนักละอายยิ่งนักจึงขอตายเพื่อไถ่บาปหากลูกสาวไม่ยอมปล่อยกงซุน เจ้าสำนักแกไม่ได้ขู่ แกยอมฆ่าตัวตายจริงๆ ทำให้คุณหนูเสียนเจียวเสียใจมาก จึงฆ่าตัวตายตามไปอีกคน และแล้วคนผิดก็ถูกประหาร ถงกวงมาลาภรรยาเพื่อตามท่านเปาไปสอบ จอหงวนที่เมืองหลวง เขานั้นไม่ได้หวังลาภยศแต่ที่ทำเพื่อเชิดชูคุณงามความดีของนางโดยเขาให้คำมั่นว่า วันที่7เดือน7จะกลับมาพบนางอีก ฮ่องเต้ทรงพอพระทัยในบทกวีของจางถงกวงยิ่งได้รู้เรื่องชะตากรรมที่เกิดกับเขาและภรรยาจากท่านเปา ยิ่งทรงเห็นใจ จึงมอบตำแหน่งให้เขาเป็นผู้ตรวจการ แทนเหอเหวินซิ่ว แต่เขาไม่รับขอเพียงแต่ให้ประกาศเกียรติคุณของภรรยาเขาเพื่อให้สวรรค์และโลกมนุษย์รับทราบ เพื่อให้สวรรค์ปล่อยนางมาพบสามี วันที่7เดือน7 จางถงกงกลับมาหาฮูหยิน ซึ่งเวลาผ่านไป1ปีเขาสอบได้จอหงวน และได้เลื่อนเป็นถึงผู้ว่า เขาตั้งโต๊ะบูชาต่อสวรรค์ ขอให้ได้พบภรรยาสักครั้ง เขาเฝ้ารอ รอจนค่ำ จนฝนฟ้าพายุมาแต่ก็ไม่ย่อท้อ จนสลบไป ฝนจาง เมื่อฟื้นขึ้นมา ภาพที่เขาได้เห็นจึงเป็น เขาพุ่งปราดไปหาภรรยาด้วยความดีใจ นางเล่าให้เขาฟังว่า นางได้เป็นเทพธิดาสายรุ้งทุกครั้งหลังฝนตกนางจะปรากฏตัว ขอให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงนางขอให้เขาดูแลตัวเองให้ดี มุ่งมั่นทำงาน เอาอย่างท่านเปา เพื่อจะได้ไม่มีใครต้องมารับเคราะห์ จากการตัดสินผิดๆของขุนนางเหมือนอย่างพวกเราอีก มีพบก็ต้องมีจาก เมื่อถึงเวลานางและเขาต่างก็ต้องไปตามทางของตัวเอง เมื่อเขาตื่นมาตอนเช้าพบแต่ความว่างเปล่า เขารำพันว่านี่ข้าฝันไปหรือ แต่สิ่งที่ยืนยันว่าไม่ใช่ฝันนั่นคือรองเท้า คู่นั้นนั่นเอง