เปาบุ้นจิ้น ตอน แม่ทัพแดนเถื่อน

เปาบุ้นจิ้น ตอน แม่ทัพแดนเถื่อน

สมัยฮ่องเต้เหยียนจง เมืองต้าซ้องได้ถูกเมืองเหลียวรุกรานอยู่เสมอ จนทหารซ้องพ่ายแพ้หลายครั้ง สุดท้ายเมืองซ้องต้องขอผูกมิตร ทางเมืองเหลียวจึงส่งอ๋องเยลู่มู่หลงผู้เป็นหลานชายของฮ่องเต้เหลียว มาเป็นทูตยังเมืองซ้อง เยลู่มู่หลง มาหลงรักบุตรสาวเจ้ากรมกลาโหมนามว่าฉินปิงจี ถึงขั้นส่งคนมาสู่ขอ แต่นางไม่สนใจ เพราะนางนั้นมีใจให้แก่ บัณฑิตจางหงจู่ ต่อมาจางหงจู่ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ ร้อนถึงท่านเปาที่ต้อง ออกมาสืบคดีเพื่อช่วยให้เขาพ้นข้อกล่าวหา เยลู่มู่หลง เดินทางมาเป็นทูตที่เมืองซ้อง ขบวนเขาวางก้างมาก ใครเห็นก็ต้องหลบ ขบวนของอำมาตย์และท่านเปามาพบเข้าอำมาตย์คิดจะหลบ แต่ท่านเปายืนยันให้ผ่าน ในงานเทศกาลโคมไฟ บัณฑิตจางหงจู่เขียนป้ายผ้าคำว่า ภักดีเพื่อชาติ มีคนสนใจประมูลมากมาย ฉินปิงจี ลูกสาวเจ้ากรมกลาโหมซึ่งแอบชื่นชมเขาอยู่ ได้ปลอมตัวเป็นชายมาในงานนี้ด้วย ระหว่างที่มีการประมูลนั้น เยลูมู่หลงก็ปรากฏตัวเพื่อร่วมประมูลด้วย โดยเขาให้สูงจนไม่มีใครกล้าสู้ ขณะนั้นเองปิงจีจึงให้ราคาถึง 100 ตำลึง จางหงจู่ จึงขายภาพนั้นให้กับนางพร้อมทั้งเขียนชื่อนางไว้ข้างใต้ภาพ คืนนั้นทั้งสองคนต่างสาบานเป็นพี่น้องกัน แต่ในใจปิงจี ก็แอบอธิษฐานขอให้ได้เป็นคู่กับเขา ในขณะเดียวกันเยลู่มูหลงก็ลอบมาพบเจ้ากรมกลาโหม ที่แท้เจ้ากรมเป็นสายให้เมืองเหลียว คอยส่งข่าวเรื่องการทหารให้กับเมืองเหลียวมาตลอด ก่อนจะกลับเขาเห็นอักษรภาพที่ประมูลแพ้ปิงจี เขาจึงชมเจ้ากรมว่าลูกชายท่านเจ้ากรมนี่รสนิยมดีไม่เบานะ ท่านเจ้ากรมจึงค้านว่าเขามีแต่ลูกสาวไม่มีลูกชาย แต่นางชอบแต่งตัวเป็นชายออกไปเที่ยวเล่นทำให้เขานึกถึงหนุ่มน้อยหน้าใสผู้ประมูลภาพขึ้นมาทันทีนี่นางเป็นผู้หญิงหรอกหรือ คืนนั้นเขาแอบขโมยภาพนั้นไป แล้วส่งข่าวว่า เป็นคนจับขโมยได้ แล้วได้ภาพคืน แต่หากปิงจีต้องการภาพคืน ก็ให้ไปรับด้วยตัวเองที่ศาลานอกเมือง จากนั้นเขาก็ส่งของขวัญมาให้เจ้ากรมเพื่อสู่ขอนางกับเจ้ากรม ท่านเจ้ากรมไม่ขัดข้อง แต่ลูกสาวไม่ยอมแน่ คืนนั้นนางแต่งชุดชายฝ่าสายฝนหนีออกจากบ้าน แต่ก็ถูกทหาร ของท่านเจ้ากรมตามจับ นางหมดหนทางจึงไปที่ศาลไคฟง แต่เมื่อท่านเปาถามว่ามาฟ้องร้องใคร เรื่องอะไร นางกลับพูดไม่ออกจะให้ฟ้องใคร ฟ้องเยลูมู่หลงที่มาสู่ขอนางอย่างถูกต้องตามประเพณีงั้นหรือ หรือว่าจะให้ฟ้องพ่อนางที่ยกนางให้กับเยลู่มู่หลง ท่านเปาขอให้นางกลับบ้านไปเสีย เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่พ่อแม่เลือกให้นางเป็นลูกควรทำตาม ถึงท่านเปาจะไม่เห็นด้วยกับการยกนางให้คนต่างเผ่า แต่เขาก็ไม่สะดวกที่จะออกหน้าด้วยเพราะอยู่กันคนละฝ่าย (พ่อนางเป็นศิษย์ราชครูผัง) ฝ่ายเจ้ากรมพ่อของนาง ทหารไปรายงานว่าเห็นนางหนีเข้าศาลไคฟง จึงมาทวงลูกสาวคืนจากเปาบุ้นจิ้น แต่ท่านเปาปฏิเสธบอกว่านางกลับบ้านไปแล้ว เมื่อพึ่งท่านเปาไม่ได้ปิงจี จึงมาพึ่งจางหงจู่ โดยบอกว่าพ่อนางบังคับให้แต่งงานกับเจ้าหญิงซีเซี่ย (จางหงจู่ยังไม่รู้ว่านางเป็นหญิง ส่วนน้องสาวจางหงจู่ก็แอบหลงรักปิงจีในคราบบุรุษอยู่) เยลู่มู่หลงสั่งคนไปดักทำร้ายปิงจี แล้วออกหน้าแสดงตัวช่วยนางพ้นจากน้ำมือโจร เพื่อหวังให้นางประทับใจ แต่สาวเจ้าก็ยังคงปฏิเสธ เยลู่มู่หลงเสนอการแต่งงานกับปิงจีเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นกับอำหมาตย์หวัง อำมาตย์เห็นดีด้วยจึงไปกราบทูนฮ่องเต้ให้ออกราชโองการมาหลิงหลงลูกพี่ลูกน้องของปิงจีจึงรีบมาบอกนางที่บ้านจางหงจู่ ทำให้เซี่ยะเอ๋อน้องสาว จางหงจู่ที่แอบชอบปิงจีอยู่ช๊อคเป็นอันมาก ปิงจีร่ำไห้สารภาพความจริงกับจางหงจู่ ทำให้เขาไม่ยินยอมปล่อยนางกลับไป เขาจึงคิดพานางหนี แต่เยลู่มู่หลงมาดักรอ พร้อมทั้งเตือนว่าหากไม่กลับไป พ่อนางจะต้องรับโทษ ทำให้นางยอมตามเขากลับไปบ้าน ส่วนสองพี่น้องก็ไปฟ้องท่านเปา ขอให้ช่วย ท่านเปาก็อยากช่วยอยู่หรอกแต่ก็หนักใจเป็นอันมาก ที่บ้าน แม่เลี้ยงของปิงจีพยามกล่อมให้นางปลงใจแต่งงานเสียแต่นางก็ยังคงดื้อรั้น ท่านเปาไปพบอำมาตย์เพื่อหวังให้ช่วยยับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ แต่อำมาตย์บอกว่าราชโองการออกมาแล้วทำอะไรไม่ได้ อีกอย่างงานนี้เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้น ดังนั้นปิงจีควรเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม ขณะนั้นในยุทธภพมีพรรคลึกลับตั้งขึ้นมาพรรคหนึ่ง หัวหน้าฉายาว่าพญายม ได้ซ่องสุมเหล่าชาวยุทธเพื่อวางแผนสังหารอ๋องเหลียวในวันแต่งงานของเยลู่มู่หลง จั่นเจาแฝงตัวมาสืบเรื่องนี้ แต่เมื่อประมือกันแล้วเปิดหน้ากากออก จึงพบว่าหัวหน้าหรือพญายมก็คือเยลู่มู่หลงนี่เอง ที่แท้การแต่งงาน ของเขากับปิงจีเป็นแผนเพื่อสังหารอ๋องเหลียวผู้เป็นอา เพื่อตัวเองจะได้ขึ้นครองราชย์แทน ท่านเปาจึงเอาเรื่องนี้มาข่มขู่เยลู่มู่หลง ว่าหากเขาไม่ยกเลิกการแต่งงาน จะเปิดโปงเรื่องนี้ ทำให้มู่หลงยอมถอนตัว จากนั้นก็นำข่าวดีมาบอก พร้อมทั้งอาสาจะออกหน้าเป็นพ่อสื่อให้กับจางหงจู่ เพื่อสู่ขอปิงจีกับเจ้ากรมกลาโหมให้ แต่เจ้ากรมปฏิเสธ เพราะนอกจากไม่อยาก ได้ลูกเขยจนแล้ว ท่านเปากับเจ้ากรมยังถือว่าเป็นอริกันอยู่ด้วย ปิงจีจึงเอาชีวิตตัวเองเข้าข่มขู่ผู้เป็นพ่อ ว่าหากไม่รับปากเรื่องแต่งงานของนางกับจางหงจู่ นางจะฆ่าตัวตาย เจ้ากรมจึงให้จางหงจู่ทำผลงานก่อน โดยติดตามเขาไปเป็นทูตเมืองเหลียวก่อน ปิงจีห่วงเขายิ่งนัก จึงมาขอร้องท่านเปาให้ช่วยเปลี่ยนคนอื่นไปแทนแฟนตัว แต่ท่านเปาบอก เรื่องนี้คงช่วยไม่ได้ นางจึงมาขอร้องแม่เลี้ยงให้ช่วยพูดกับพ่อนางให้ถอนชื่อแฟนออก เพราะรู้ว่าพ่อนางเชื่อฟังแม่เลี้ยงมาก ฝ่ายแม่เลี้ยงก็บอกว่าถ้าจะให้ช่วย ก็เรียกนางว่าแม่สักคำสิ แต่ปิงจีก็ยังไม่ยอมเรียก ก็เลยวิ่งมาหาคู่รัก บอกว่าให้รีบแต่งงานกับนางก่อนเดินทาง แต่จางหงจู่ ปฏิเสธบอกว่าเขาต้องการทำตามประเพณี ไม่ต้องการรวบรัดทำให้นางผิดหวังกลับไป เยลู่มู่หลงมาพบปิงจี มอบป้ายหยกประจำตัวให้โดยบอกว่า ให้นางเอาหยกนี้ไปให้จางหงจู่ เพราะเขาไปเมืองเหลียวครั้งแรก ไม่รู้ธรรมเนียม หากไปทำอะไรขัดใจใครเข้า อาจโดนทำร้าย ถ้าแสดงป้ายหยกนี้ ทุกคนจะเกรงกลัวไม่กล้าทำอะไร หลังจากนั้น ก็ไปคุยกับหลิงหลงต่อ ออดอ้อนว่าที่จริงรักเจ้า แต่ที่ต้องสู่ขอปิงจี เพราะทำตามหน้าที่ หลิงหลงอ่อนต่อโลก ก็หลงคารมเข้าเต็มเปา ฉินฮูหยินแม่เลี้ยงของปิงจี เรียกเยลู่มู่หลงมาพบ แล้วแสดงตัวให้เขารู้ว่าที่แท้นางคือสนมเซียวเอี้ยนเอียนของอดีตฮ่องเต้เมืองเหลียว มาแต่งงานกับเจ้ากรมฉิน เพื่อเป็นสายให้เมืองเหลียว อำมาตย์หวังมาแจ้งกับท่านเปาว่าเจ้ากรมฉินส่งข่าวมาจาก เมืองเหลียวว่า จางหงจู่ขายชาติขายความลับทางทหารให้กับเมืองเหลียว เมื่อถูกจับได้ ก็หนีกลับมาเมืองซ้อง ให้ท่านเปาช่วยตามจับตัว (แท้ที่จริงจางหงจู่ต่างหากที่ไปพบว่าเจ้ากรมฉินขายความลับ ทางทหารให้กับเมืองเหลียว ดังนั้นเจ้ากรมฉินจึงให้เขาเป็นแพะแทน) จางหงจู่หนีซมซานกลับมาบ้าน พร้อมทั้งหลักฐานที่ว่าเจ้ากรมฉิน พ่อของปิงจีทรยศขายชาติ (แผนที่ทางทหารกับหนังสือ) แต่ทั้งหมดอยู่บ้านหลังเดิมไม่ได้อีกแล้วเพราะทหารมาค้นบ่อยๆ จึงหลบไปซ่อนที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง เซียะเอ๋อมาดักรอขวางขบวนท่านเปาเพื่อร้องเรียนเรื่องพี่ชาย แต่ถูกคนของเยลู่มู่หลงดักทำร้ายก่อนทันได้พูดอะไร เซียะเอ๋อบอกที่ซ่อนพี่ชายกับท่านเปา ท่านเปาจึงสั่งจั่นเจาไปรับตัวมาแต่ก็พบกับเยลู่มู่หลงที่ไปจับตัวเช่นกัน ระหว่างปะทะกันราชครูผ่านมา เยลู่มู่หลงฉวยโอกาสฟ้องราชครูว่ากำลังจับคนขายชาติจางหงจู่ แต่โดนจั่นเจาขัดขวาง ราชครูเลยชุบมือเปิบ คว้าตัวจางหงจุ่ไปซะเองท่านเปาเลยมาขอตัว บอกว่าเรื่องนี้ราชครูไม่เกี่ยวไม่มีสิทธิ์จับตัวจางหงจู่ ราชครูรู้ทันเลยบอกว่าได้ส่งตัวจางหงจู่ไปศาลต้าหลี่แล้ว อยากได้ก็ตามไปเอาเองสิ ที่คุกของศาลต้าหลี่ เซียะเอ๋อไปเยี่ยมโดยเอาเหล้าที่ กงซุนมอบให้ไปด้วย แต่เมื่อจางหงจู่ดื่มแล้วก็หมดลมหายใจทันที หมอมาตรวจศพบอกว่าถูกพิษ ปิงจีด้วยความที่ต้องการจะช่วยคนรัก จึงมาบอกท่านเปาว่าคนที่ขายชาติที่แท้คือพ่อนางต่างหากคนรักนางไม่เกี่ยว ท่านเปาบอกไม่มีหลักฐานมีแต่คำพูดของเจ้าจะเชื่อได้อย่างไร นางจึงยืนยันว่าถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีลูกที่ไหนใส่ร้ายพ่อแน่ ปิงจีจัดงานศพให้จางหงจู่ด้วยความเศร้าสร้อย เยลู่มู่หลงมาเคารพศพ พร้อมทั้งฉวยโอกาสทำคะแนนหวังให้หญิงเห็นใจ เยลู่มู่หลงมารายงานฉินฮูหยินเรื่องจางหงจู่ตาย แต่นางเตือน ให้ระวังว่าตายจริงหรือเปล่า เพราะเขารู้ความลับมากมายหากไม่ตายจริง เรื่องจะยุ่ง ปิงจีบอกพ่อว่านางไปฟ้องร้องเรื่องพ่อขายชาติกับท่านเปาแล้ว หากพ่ออยากให้นางถอนฟ้องก็ให้จุดธูปสาบานกับศพคนรักนาง ขณะนั้นจางหงจู่ก็หลอกผีเจ้ากรมฉิน ทำให้เขากลัวมากเผ่นกระเจิงไป เยลู่มู่หลงไม่เชื่อเรื่องผี จึงสงสัยว่าจางหงจู่ยังไม่ตายเขาไปหาปิงจีแล้วยุให้เปิดโลงดู ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในโลงไม่มีศพ นางจึงมาพบท่านเปาและได้รับรู้ว่าเป็นแผนของท่านเปา คนรักนางยังไม่ตาย ฝ่ายท่านเปารู้ว่าเยลู่มู่หลงเป็นคนเปิดโลง จึงสั่งจั่นเจาให้รีบไปคุ้มครองเจ้ากรมฉิน เพราะเมื่อแผนแตก เขาต้องฆ่าคนปิดปากแน่ แล้วก็เป็นดังคาด เขามาเก็บใต้เท้าฉินเพื่อไม่ให้ซัดทอดถึงเขา จั่นเจาตามมาแต่ช่วยไม่ทัน เขาอ้างว่าใต้เท้าฉินเสียใจที่ลูกสาว ไปฟ้องร้องท่านเปา เลยฆ่าตัวตาย เขาพยายามห้ามแต่ไม่ทัน ฝ่ายแม่เลี้ยงก็ต่อว่าปิงจีที่เป็นลูกอกตัญญู พร้อมทั้งยุส่งว่า หากนางสำนึกผิดก็ควรฆ่าตัวตายตามพ่อไปซะ ปิงจีรู้สึกผิดจึงผูกคอตาย แต่คนรักนางมาช่วยไว้เสียก่อน ท่านเปาเปิดศาลไต่สวนเยลู่มู่หลง ซึ่งแน่นอนเขาก็เฉไฉไปน้ำตื้นๆ ด้วยความที่เป็นทูตทำให้ท่านเปากักตัวไม่ได้ ต้องปล่อยกลับไปแต่สั่งให้ทหารล้อมที่พักเขาไว้ เรื่องปิดล้อมบ้านทูตทำเอาราชครูเต้นผาง แต่อ๋องแปดกลับสนับสนุน ทูตเมืองเหลียวมาอีกคนแล้วคับ คนนี้เป็นอำมาตย์ฝ่ายขวา มายืนยันว่ายังไงก็ลงโทษเยลู่มู่หลงไม่ได้ ไม่งั้นศึกระหว่างแคว้นเกิดแน่ ฉินฮูหยินบอกหลิงหลงว่าอย่าหลงคารมเยลู่มู่หลงเพราะ ที่เมืองเหลียวเขามีชายาแล้วถึง 3 คน อีกทั้งเรื่องที่ว่าจะแต่งนางเป็นชายาเอกนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะขัดกับธรรมเนียมเมืองเหลียว ทำให้หลิงหลงเสียใจยิ่งนัก เผลอให้ฉินฮูหยินเห็นเอกสารลับเรื่องลอบสังหารฮ่องเต้เมืองเหลียว ฉินฮูหยินเมื่อรู้ว่ามู่หลงทรยศจึงนำ เรื่องนี้ไปบอกอำหมาตย์เหลียวเยลู่หง เยลู่มู่หลงหลอกปิงจีไปพบ พร้อมมอบหนังสือให้ 2 ฉบับ โดยบอกนางว่าให้มอบให้ท่านเปากับอำมาตย์เหลียวเยลู่หง โดยห้ามเปิดอ่านก่อน หนังสือนี้จะบอกว่าใครฆ่าพ่อนาง (ความจริงจดหมาย2ฉบับนั้นมีพิษ ใครเปิดอ่านจะเจอพิษเข้าไปเต็มๆ เยลู่มู่หลงหวังยืมมือปิงจีสังหารท่านเปากับอำหมาตย์เหลียว) แต่ก่อนที่จดหมายจะถึงมือท่านเปา คนที่เปิดอ่านก่อนกลับเป็นเซียะเอ๋อ นางจึงถูกพิษไปเองเต็มๆ หลิงหลงเสียใจเรื่องโดนหลอกใช้ จึงผูกคอตายโดยหวังลึกๆว่าหากนางตาย จะทำให้เขาเสียใจบ้าง เมื่อท่านเปาเปิดศาล เยลู่มู่หลงไม่ยอมรับผิดทุกเรื่อง และด้วยสิทธิความเป็นทูต ท่านเปาก็ยากที่จะทำอะไรเขาได้ แต่เมื่อเขาได้เห็นเซียะเอ๋อที่ได้รับผลพวงจากยาพิษของเขา จนกลายเป็นบ้า ทำให้เขาสำนึกผิดยอมรับโทษประหาร