ข่าวโซเชียล

ทิชชู่ชาบูพ่นพิษ สาวโอดถูกยกเลิกงาน แจงเผลอคีบลงหม้อตอนกดมือถือ ยันไม่มีเจตนาเนียนกินฟรี

โดย thichaphat_d

6 เม.ย. 2567

41K views

จากกรณี ร้านชาบู Dra gon Grill ชาบู & ปิ้งย่าง  ย่านสนามบินน้ำ โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดที่ครอบครัว 3 คน แอบคีบกระดาษทิชชูลงในหม้อชาบู ก่อนจะโวยวายและตำหนิพนักงานในร้านว่าทางร้านนำอาหารที่มีกระดาษทิชชูมาเสิร์ฟให้ จนทำให้ลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน ต้องทยอยเช็กบิลออกจากร้านอาหารไปจนเกือบหมดร้าน ซึ่งภายหลังจากที่ทางร้านมาเช็คกล้องวงจรปิด ก็เห็นชัดเจนว่า ลูกค้าหญิงเป็นคนใช้กระดาษทิชชู่ดังกล่าวแล้วก็เอาทิ้งลงในถาดอาหาร จากนั้นก็ใช้ตะเกียบคีบลงในหม้อชาบูเอง  และหลังจากลูกค้ากลุ่มนี้ออกจากร้านไปแล้ว ก็พบว่าอาหารเหลืออยู่เต็มหม้อชาบู

วานนี้ (5 เม.ย.67) น.ส.ดวงกมล พุ่มมณี อายุ 24 ปี ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. มีลูกค้า 3 คน ลักษณะเหมือนกับครอบครัว พ่อแม่ลูก เข้ามานั่งสั่งอาหารในร้านทาน

โดยทางร้านได้คิดราคาค่ารับประทานแบบบุฟเฟ่ต์หัวละ 319 บาท แบบไม่จำกัดเวลาในการรับประทาน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนั้น จำได้ว่าไม่ใช่ลูกค้าประจำและไม่เคยเข้ามาใช้บริการที่ร้านมาก่อนเลย

หลังเข้ามานั่งรับประทานอาหารกันตั้งแต่เวลา 20.00-21.30 น. ลูกค้าผู้หญิงก็เริ่มโวยวายเรียกพนักงานในร้านมาบอกว่า เจอกระดาษทิชชูอยู่ในถาดคอนโดและในหม้อชาบู ทางพนักงานของร้านก็ตรงเข้าไปขอโทษลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก โดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดเพราะคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงต้องการลดอารมณ์ของลูกค้าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ให้เกิดการปะทะกันน้อยที่สุด และทางร้านยังได้เสนอไปว่า จะเปลี่ยนหม้อชาบูให้ใหม่ แต่ทางลูกค้ากลุ่มนี้บอกว่าไม่เป็นไรไม่เอาแล้ว

หลังจากนั้น อีกประมาณ 20 นาที ลูกค้ากลุ่มนี้ก็มาบ่นกับพนักงานในร้านเรื่องรสชาติปูอัดอีก ว่าให้ลองเอาปูอัดไปชิมดู ก่อนจะพูดว่า ไม่กินแล้วกินไม่ลง ไม่อยากกินแล้ว เมื่อกี้ก็มีทิชชู นี่ก็ปูอัดอีกไม่กินแล้วให้เก็บเงินเลย

ตนในฐานะผู้จัดการจึงเสนอว่า จะขอเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ลูกค้ากลุ่มนี้ดูด้วย  แต่ลูกค้ากลุ่มนี้เขากลับโวยวายเสียงดังมากขึ้น ประกอบกับภายในร้านยังมีลูกค้าโต๊ะอื่นนั่งรับประทานอาหารอยู่

ทางร้านก็ไม่อยากให้ลูกค้าโต๊ะอื่นไม่สบายใจหรือเสียความรู้สึก จึงตัดสินใจลดค่าราคาไปให้ 1 หัว จากเดิมที่ต้องคิดในราคา 319 บาท ทั้ง 3 หัว เหลือเพียง 2 หัวเท่านั้น  และเมื่อลูกค้าออกจากร้านไปแล้ว พนักงานกลับไปเช็คที่โต๊ะของลูกค้ากลุ่มนี้ ก็พบว่า อาหารเหลือเต็มหม้อรวมถึงในคอนโดที่ต้มแล้ว ทางร้านไม่ได้คิดค่าปรับ

ต่อมาหลังจากเกิดเหตุการณ์แล้ว ด้วยความไม่สบายใจ ตนจึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาดู จึงพบว่าลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเป็นคนใช้ตะเกียบคีบทิชชูลงใส่ในหม้อชาบู ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้พนักงานในครัวซึ่งเป็นผู้หญิงถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และจากการที่ลูกค้ากลุ่มนี้โวยวายว่าเป็นความผิดของร้าน ทำลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ ในวันนั้น ทยอยเช็กบิลออกไปทีละโต๊ะ ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหาย ซึ่งหลังจากทางเจ้าของร้านทราบความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ได้เข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา และกำลังปรึกษากับทนายความเพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน น.ส.อีฟ  อายุ 33 ปี อาชีพ รปภ. ลูกค้าคู่กรณีของร้าน เผยว่า ตนได้เข้ามาขอโทษและไกล่เกลี่ยกับทางร้าน แต่ผู้จัดการร้านแจ้งว่าต้องรอทางสำนักงานใหญ่ติดต่อกลับ ซึ่งวันที่เกิดเหตุ ตนได้ขอโทษร้านไปแล้ว ผู้จัดการร้านบอกว่าเขาอาจจะไม่ได้ยิน จริงๆ แล้วตนใช้กระดาษทิชชู่เช็ดปากและมัวแต่กดโทรศัพท์  จึงไม่เห็นว่าตัวเองคีบกระดาษทิชชู่ลงไปในหม้อชาบู ตนจึงเรียกพนักงานมาบอกเรื่องกระดาษทิชชู่ในหม้อ  

จากนั้นพนักงานได้ขอโทษและนำถาดที่มีทิชชู่ไปเก็บ ตนก็นั่งทานต่อปกติ และสั่งอาหารเพิ่มโดยมีปูอัดด้วย ซึ่งสั่งมา 2 ถาด มีถาดหนึ่งที่ปูอัดเป็นเมือกและรสชาติเปรี้ยว จึงเรียกพนักงานมาบอกและเช็คบิลเลย เพราะอารมณ์เสีย จากนั้นตนเดินมารอที่เคาน์เตอร์เช็คบิล  

ผู้จัดการร้านได้นำคลิปวงจรปิดมาให้ตนดูว่า ตนเป็นคนคีบทิชชู่ลงหม้อชาบูเอง  ตนจึงขอโทษทางร้านไป และแจ้งว่ารอบที่แล้วน้ำเก็กฮวยมีรสชาติเปรี้ยว ทางร้านจึงรับผิดชอบโดยการคิดเงินแค่ 2 คน ลดไป 1 คน  ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะโกงร้าน และไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเอง ส่วนเรื่องปูอัดทางร้านไม่ได้แจ้งกับตนตอนที่เช็คบิล แต่มาแจ้งในเพจหลังจากที่ตนออกมาจากร้านแล้ว ว่าปูอัดรสชาติปกติ ตนไม่ได้บอกว่าอาหารไม่มีคุณภาพ แต่สั่งมา 2 ถาด มันมีทั้งที่กินได้และกินไม่ได้ ตนมาทานอาหารที่ร้านนี้หลายครั้งแล้ว ถ้าตนกลัวจะเสียค่าปรับคงเดินออกไปจากร้านไม่รอเช็คบิล  ซึ่งค่าปรับในหม้อคาดว่าน่าจะหลายบาท ตนยังยืนรอเช็คบิลและออกมายืนคุยนอกร้านต่อ

น.ส.อีฟ กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งเห็นแถลงการณ์ของทางร้าน ตนพยายามติดต่อกับทางร้านตั้งแต่รู้ข่าว เพื่อพูดคุยและตนได้ขอโทษในร้านไปแล้ว คิดว่าจะจบแล้วแต่ไม่จบ ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปโพสต์ว่าร้าน ตนยอมรับผิดตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ตอนนี้ตนได้รับผลกระทบกับเรื่องงานเนื่องจากตนทำงานเป็น รปภ. และเป็นการจ้างรายวัน ตนถูกยกเลิกงานที่รับไว้ คนรอบข้างที่ไม่ได้มากินด้วยในวันนั้นก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะมีคนทักไปต่อว่าทางเฟซบุ๊กกับเพื่อนที่ทำงาน มีคอมเมนต์ต่อว่าตนเป็นครอบครัวขอทาน ซึ่งตนไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่มันมีผลกระทบกับเรื่องงาน สังคมไม่มีใครมาถามความจริงจากตน ทุกอย่างลงมาที่ตนคนเดียว คิดว่าตนกินอิ่มแล้วเนียนจะไม่จ่าย

ส่วนคนที่มาคอมเมนต์ว่าตนเคยไปก่อเหตุลักษณะนี้ที่อื่น ตนอยากทักไปถามส่วนตัวมากว่าเคยไปเจอคนที่ไหน ตนทำงาน รปภ.อยู่ 8 เดือน ไม่เคยไปเที่ยวไหนและไม่เคยเดินห้าง ส่วนที่บอกว่าตนไปโวยวายจนได้ Gift Voucher ตั้งแต่เกิดมาตนก็ไม่เคยได้ ตนยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุไม่ได้โวยวายเสียงดัง เพียงแต่อาจจะพูดห้วนๆ ตนอยากขอความเห็นใจจากสังคม ตอนนี้ตนเครียดมากและมีปัญหาเรื่องงาน ต้องหากินใช้วันต่อวัน ตนแค่อยากมากินและใช้บริการกับทางร้าน ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดเรื่อง ตอนนี้คงทำได้แค่รอสำนักงานใหญ่ของร้านติดต่อมา


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/WDKk7re-WMI

คุณอาจสนใจ

Related News