‘ยูนิเซฟ’ โพสต์เรียกร้อง รัฐบาลมีกลไกดูแลสถานรองรับเด็กทั่วประเทศ หลังถูกทำร้ายในสถานสงเคราะห์สระแก้ว

วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เฟซบุ๊ก 'UNICEF Thailand' ได้โพสต์เรียกร้องให้รัฐบาลได้มีมีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการกำกับดูแลสถานรองรับเด็กทุกแห่งทั่วประเทศ หลังจากที่มีการทารุณกรรมเด็กในสถานสงเคราะห์ ที่จังหวัดสระแก้วนั้น โดยได้ระบุข้อความว่า

"ข่าวการทารุณกรรมเด็กในสถานสงเคราะห์ครั้งล่าสุดที่จังหวัดสระบุรี เป็นเรื่องน่าสะเทือนใจและไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เหตุการณ์ทำนองนี้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เด็กถูกทำร้าย ถูกทอดทิ้ง และถูกลืม เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย

ในประเทศไทย มีเด็กกว่า 120,000 คนอาศัยอยู่นอกบ้านในสถานรองรับต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น สถานสงเคราะห์ของรัฐและเอกชน โรงเรียนประจำและวัด มีหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เด็กที่เติบโตในสถานรองรับมักมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะถูกทำร้ายและต้องเผชิญผลกระทบเชิงลบทั้งทางร่างกายและจิตใจเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ โดยสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง คือการไม่มีกลไกในการกำกับติดตามความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ในสถานรองรับ

เด็กทุกคนควรได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ ถึงเวลาแล้วที่ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ยูนิเซฟขอเรียกร้องให้:

• สถานรองรับเป็นทางเลือกสุดท้ายในการดูแลเด็ก จากการศึกษาพบว่าเด็ก ๆ เติบโตได้ดีกว่าในสภาพแวดล้อมแบบครอบครัวเพราะพวกเขาจะได้รับความรัก ความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดมากกว่าการอยู่ในสถานรองรับ

• มุ่งเน้นให้เด็กได้อยู่ภายใต้การดูแลแบบครอบครัว ที่มีหล้กฐานสนับสนุนว่าจะทำให้เด็กมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
• มีการประสานงานกันระหว่างองค์กรภาครัฐ รวมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อให้มีการกำกับดูแลสถานรองรับประเภทต่าง ๆ รวมถึง สถานสงเคราะห์ โรงเรียนประจำ และวัด ผ่านระบบการขึ้นทะเบียนและการกำหนดมาตรฐาน
• รัฐต้องจัดให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการกำกับดูแลสถานรองรับเด็กทุกแห่งทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐและเอกชน เพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ มีความปลอดภัย ได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง รวมทั้งได้เรียนรู้และได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างเต็มที่

Unfortunately, stories of children being abused, neglected, forgotten are not uncommon. The latest abuse of children at a welfare institution is a repeated narrative that must stop.

Across Thailand, tens of thousands of children live in institutions - government-run homes, boarding schools, and temples. Evidence shows that institutional care can lead to increased risks of abuse and poor outcomes in adulthood, especially when there is no system in place to monitor these institutions and ensure the safety and well-being of these children. This needs to change.

With our commitment to children's rights and safety, we urge that:

• Institutional care should be the last resort. Studies have shown that children fare better in family-based care, where they receive individualised attention and love.
• We need a transition towards more family-based care, which has been shown to be better for a child's well-being.
• The government to put in place effective mechanisms to monitor all institutional care facilities and ensure that children are safe and live in the protective and stimulating environments necessary for their development and well-being.
• There be stronger coordinated action among civil society organizations, the private sector and key ministries, including the Ministry of Social Development and Human Security, the Ministry of Education, and the Ministry of Culture, so that oversight of different types of residential care, boarding schools and temples is improved.

Every child deserves a safe, loving environment to grow and thrive."