สังคม

'แพรรี่' ชื่นชมสำนักพุทธฯ กล้าพูดอะไรจริง-ไม่จริง - 'เพจนิรมิตรเทวาจุติ' เคลื่อนไหว แจงปมการเชื่อมจิต

โดย weerawit_c

18 พ.ค. 2567

47 views

วานนี้ (17 พ.ค.) นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบกรณี เด็กเด็กเชื่อมจิต แถลงข่าวกรณีเด็กเชื่อมจิต


นายพิชิต กล่าวว่า ศรัทธาอย่าแกว่ง ธรรมะไม่ต้องซื้อไม่ต้องขาย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ การแถลงข่าววันนี้ไม่ได้มีเจตนา ที่จะใส่ร้ายบุคคลใดที่เกี่ยวข้อง ขอให้เข้าใจเจตนา ภารกิจในวันนี้ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งการแถลงในวันนี้จะถือเป็นหลักการ หากมีกรณีเกิดขึ้นในทำนองนี้ที่มีการแอบอ้างแอบอิงพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องใช้สติปัญญารับฟังแต่จะนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาที่มีมากกว่า 2700 ปี เพื่อให้สาธารณะเกิดความเข้าใจ


ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ต้น โดยมีกลุ่มงานคุ้มครองพระพุทธศาสนาได้มีการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ โดยได้มีการขอคำปรึกษาจากมหาเถระ ผลกระทบซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจะส่งผลต่อเด็กและครอบครัว โดยขณะนี้ได้มีการได้ตั้งคณะกรรมการทำงานตรวจสอบ กลั่นกรอง ข้อมูล ข่าวสาร และ การกระทำอันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา โดยมีนายบุญเชิด กิตติธรางกรู เป็นประธาน


นายอินทพร ยังระบุว่า แม้ว่าทางสำนักพุทธจะไม่ได้มีอำนาจในการห้าม แต่ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีการยกระดับกระบวนการที่มาตามกระบวนการทางกฎหมายตามที่หน่วยงานนั้นๆ รับผิดชอบ


ขณะที่นายบุญเชิด ระบุว่า จากการสืบค้นข้อมูลในพระไตรปิฎก การเชื่อมจิตไม่ปรากฏในพระไตรปิฎกแต่อย่างใด และยังขัดต่อหลักธรรมคุณ 6 ประการ แต่ยอมรับว่ามีความพยายามเทียบเคียงในพระไตรปิฎก ว่าสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้ตรัส สนทนาธรรม ต่ออรหันต์ข้ามวันข้ามคืน พร้อมกับมองว่า คำกล่าวอ้างของเด็กต่างๆ ขอให้ต้องนึกถึงว่าพระพุทธศาสนานั้นเป็นหลัก แห่งความจริง และความรู้


ส่วนคุณวุฒิที่เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ อยู่ในการปกครองของบิดา มารดา และไม่ได้มีการเรียนพระปริยัติธรรม กลับมีการแสดงออกต่อสาธารณะในลักษณะดังกล่าวทำให้เกิดความเชื่อ นายบุญเชิด ยืนยันว่า ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก ว่าเป็นจริงหรือเท็จ เป็นเรื่องไม่จริงเนื่องจากในนิกายเถวาทไม่มีในพระไตรปิฎก แต่ในฝ่ายมหายานก็อาจจะมีการ แต่ในไทยยึดเถรวาทเท่านั้น


ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำทัพเดินทางไปที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า วันนี้มูลนิธิทนายกองทัพธรรมได้มายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่ออยากจะบอกกับประชาชน และสื่อมวลชน ความจริงแล้ว พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการเรื่องน้องไนซ์ มาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเนื่องจากมีกลุ่มแอดมินและทนายความคอยขัดขวางอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันกลุ่มเชื่อมจิต มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ในมาตรา 157


ดังนั้นอยากจะบอกว่า สิ่งที่ทำในขณะนี้ ต้นเหตุมาจากเด็กคนหนึ่ง อ้างตนว่าเป็นผู้รู้ทัน และอ้างพระไตรปิฎก มีการอวดอ้างตนเอง ว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม เป็นอริยะชั้นอนาคามี หรือเป็นอวตารองค์เพชรภัทรนาตาเป็นผู้ถ่ายทอดธรรมขององค์ศากยมุนี แต่วันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันแล้วว่า การเชื่อมจิตไม่มีจริง ดังนั้นมูลนิธิทนายกองทัพธรรม จึงได้นำเรื่องไปยื่นที่กองปราบปรามฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ในส่วนของกระทรวงพัฒนาพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ นั้น มีเรื่องที่เกี่ยวข้อง คือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ในมาตราหลัก 25,26 และ 27 ยกตัวอย่างที่ชัดเจน คือมาตรา 27 ที่ระบุว่าห้ามนำเด็กมาโฆษณาเพื่อหาผลประโยชน์ แต่พบว่าเพจนิรมิตเทวาจุติ ได้นำภาพ ข้อความ ของน้องไนซ์ มาหาผลประโยชน์ โดยอ้างถึงการเชื่อมจิต และมีการอ้างการสอนในสมาธิ ซึ่งทั้งหมดไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎกตามคำสอนของพระพุทธเจ้า


ดังนั้นถือเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ ว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะ อีกทั้งยังมีการจัดอบรมมากกว่า 10 ครั้ง เพื่อหาผลประโยชน์ ซึ่งถือว่าเป็นการผิด พ.ร.บ.เรี่ยไรด้วย แต่ในส่วนของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ถือว่าผิดชัดเจนในมาตรา 27 และมีบางช่วงบางตอน ที่เด็กไม่ไหว ก็ถือว่ามีความผิดเพิ่มเติมในมาตรา 25 และ 26 ด้วย ดังนั้นจึงมาแจ้งกับ พม.ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เนื่องจากการใช้เด็ก เสี่ยงมีความผิดเกี่ยวกับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ข้อมูลทั้งหมด ถือว่าเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจนที่มูลนิธิทนายกองทัพธรรมรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว


จากการฟังการแถลงข่าว ถือว่าเป็นการแถลงข่าวที่งงมาก ตอบคำถามไม่ตรงคำตอบ อย่างเช่น ถามว่าการเชื่อมจิตมีหรือไม่ ผอ.สำนักพุทธฯ กลับไม่ตอบตามคำถามว่ามีหรือไม่มีในพระไตรปิฎก แต่กลับกันดันไปพูดถึงแนวทางของทิเบต ทำให้ประชาชนเกิดสับสน ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าถ้าตอบแบบนี้ควรจะยุบสำนักพุทธฯไปดีกว่า


พร้อมอยากฝากไปบอก ผอ.สำนักพุทธ ที่มาตอบคำถามทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นการตอบของคนว่าไม่มีภูมิเลย สุดท้ายทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวว่าจากนี้ไปจะเดินหน้าเรียกร้อง ให้มีการตั้งหน่วยงานที่มาดูเรื่องหลักธรรมคำสอนตามพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ในพระไตรปิฎก หากมีลัทธิหรือใครสอนผิดไปจากหลักพระไตรปิฎกจะต้องถูกดำเนินคดี และเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้ลัทธิแปลกๆ จะหมดไป


ขณะที่ แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ระบุว่า “เนี่ย แบบนี้ถึงสมควรที่จะเป็นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คืออย่างน้อยต้องสามารถเป็นที่พึ่งหรือยันยันหลักคำสอนทางศาสนาให้กับพุทธศาสนิกชนได้ อะไรจริง ก็บอกว่า จริง อะไรไม่จริง ก็ต้องกล้าบอกว่า ไม่จริง ไม่ใช่เวลามีคนไปสอบถามความรู้ก็โบ้ยไปว่า ไม่ทราบๆ ไม่มีอำนาจๆ ครั้งนี้ชื่นชมค่ะ”


นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า “พม. โดนฟ้องไปแล้ว สำนักพุทธ ก็ไม่น่าจะเหลือนะคะ”


ความเคลื่อนไหวจากเพจนิรมิตเทวาจุดติ โพสต์ข้อความว่า “ใครก็ตามที่ยอมรับฟังคำศัพท์ที่ อ.น้อง หลายคำที่ใช้แสดงธรรม เป็นการสื่อถึงอาการของสภาพธรรมที่ลึกซึ้ง

คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้คำศัพท์แทนอาการที่ อ.น้องจะสื่อสอน ไม่ใช่เฉพาะคนไทย ใครก็ตามที่ยอมรับฟัง และพิจารณาตาม เขาผู้นั้นสามารถเกิดปัญญาด้วยตัวเขาเองได้เป็นคำในปัจจุบันสากล แต่มีนัยยะทั้งทางโลกและทางธรรม แต่ อ.น้องสามารถดึงมาสื่อทางธรรมได้อย่างลงตัวง่ายๆต่อการเข้าถึง แค่ทำความใจเพิ่มไปเรื่อยๆก็จะกระจ่างในข้อธรรม

Zoom

Action

Data

Memory

ถูกเตรียมไว้เพื่อชาวโลกไมใช่แค่ในไทย”


ส่วนอีกโพสต์ ระบุว่า “อาจารย์น้องไนซ์ บอกมาตลอดว่า การเชื่อมจิตเป็นวิธีการไม่เคย ยืนยันว่าเป็นคำสอน และสำนักพุทธก็ไม่เคยบอกว่าอาจารย์น้องไนซ์ สอนไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า”


https://youtu.be/hto5quqYQXQ

คุณอาจสนใจ

Related News