สลด หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนกองข้าวตากบนถนนดับ ผู้ใหญ่บ้านสั่งรื้อแล้ว รับเป็นวิถี เห็นใจทั้งสองฝ่าย

กรณีนายธงไทย หรือโด่ง อายุ 38 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ไปชนใส่กองข้าวเปลือกของเกษตรกรที่นำมาตากบนถนนลาดยางสาย บ้านยาง-บ้านโศกดู ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา จนทำให้นายธงไทยเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น.


เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 ญาตินำร่างที่ไร้วิญญาณของนายธงไทย หรือโด่ง อายุ 38 ปี มาบำเพ็ญกุศล บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะช่วงที่หน่วยกู้ภัยนำร่างมาถึง มีชาวบ้านมาแสดงความเสียใจและให้กำลังเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นคนดีช่วยเหลืองานในหมู่บ้านเป็นประจำ


นายสนิท อายุ 59 ปี พ่อนายธงไทย ที่เสียชีวิต เล่าว่า ลูกชายได้ภรรยาอยู่ที่ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เขตรอยต่อ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ โทรศัพท์มาบอกพ่อว่าเย็นนี้จะกลับบุรีรัมย์ แต่ไม่เห็นกลับมาจนมืดค่ำ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลำทะเมนชัย โทรมาแจ้งว่าลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ชนกองข้าวเปลือกที่ชาวนาตากไว้ข้างถนน เบื้องต้นพบว่ากะโหลกร้าว และมีเลือดคั่งในสมอง สุดท้ายหมอแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว


นายสนิท กล่าวด้วยว่า การตากข้าวบนถนนของชาวบ้านถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่จะเป็นถนนสายรอง แต่ถนนเส้นที่ลูกชายขี่รถมาเป็นถนนใหญ่ ไม่ควรจะมาตากข้าวเพราะอันตราย จึงอยากจะฝากถึงผู้เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาการตากข้าวบนถนนสายหลัก


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวเน็ตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก และแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝ่ายหนึ่งวิจารณ์ว่าถนนทำไว้ให้รถวิ่ง การตากข้าวบนถนนถือว่าผิดกฎหมาย อีกฝั่งหนึ่งเห็นใจเกษตรกร เพราะวิถีการทำนาเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะต้องใช้รถเกี่ยว และจำเป็นต้องตากข้าว แต่ไม่มีสถานที่มารองรับ


ด้าน นายอภิชัย ปักการัง อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านโศกดู่ หมู่ 4 ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 19.00 น. มีชาวบ้านมาแจ้งว่ามีคนเกิดอุบัติเหตุบริเวณกองข้าวเปลือกของชาวบ้าน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กม. จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพของตำบล ก่อนจะนำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล และมาทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ข้าวเปลือกดังกล่าวเป็นของลูกบ้าน หลังจากเกิดเหตุได้สั่งห้ามชาวบ้านเอาข้าวเปลือกมาตากบนถนนอีก เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน


นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า ชาวบ้านตากข้าวเปลือกบนถนนมานาน ตั้งแต่เริ่มใช้รถเกี่ยวข้าว เพราะข้าวออกมาพร้อมกันบางส่วนเอาไปขายให้กับโรงสีทันที แต่ต้องโดนหักค่าความชื้น ขายได้ในราคาถูก แต่สถานที่ตากข้าวไม่มี ชาวบ้านบางคนเอาไปตากตามสถานที่ราชการ แต่พื้นที่ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องเอามาตากบนท้องถนน แต่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกตาของผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะจะมีระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความคิดเห็นส่วนตัว มีความรู้สึกเห็นใจทั้งผู้เสียชีวิตและเจ้าของข้าวเปลือก การตากข้าวเปลือกชาวบ้านจะมีวิธีการจัดการให้อยู่ร่วมกันกับผู้ใช้รถได้ โดยจะตากบนถนนครึ่งเลน แล้วสลับเป็นฟันหลอเอาไว้ให้รถสวนกันเป็นช่วง ๆ ตอนเย็นชาวบ้านจะกวาดข้าวมากองสูงประมาณ 30-40 ซม. ยาวเป็นแนวอยู่ไหล่ถนน เพื่อให้รถวิ่งผ่านได้สะดวก หลังจากตากได้ 2-3 แดดก็จะเก็บข้าวใส่ยุ้ง โดยจะมีคนอื่นมารอตากข้าวต่อ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเกษตรกรรวบข้าวเปลือกมากองไว้ริมถนนแล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุจนได้  


หลังเกิดเหตุ ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุลงบันทึกและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไว้หมดแล้ว หลังจากนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจา เพราะต่างคนต่างน่าเห็นใจ โดยเฉพาะเจ้าของข้าวเพิ่งเสียพ่อไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ยังจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าของข้าวยอมรับผิด ส่วนจะชดใช้อย่างไรจะต้องเจรจา ส่วนแนวทางการแก้ไขที่จะไม่ให้มีการตากข้าวบนถนน ยังไม่มีใครคิดหรือแก้ไขปัญหานี้ได้ เพราะการตากข้าวบนถนนกลายเป็นวิถีของชาวบ้านไปแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KtOKxbSdlHc