สังคม

'วีระ' ลั่นป.ป.ช.ไม่พ้นคุก! จ่อลุยฟ้องต่อ ปมไม่เปิดข้อมูลคดี 'นาฬิกายืมเพื่อน' หลังศาลสั่งปรับ แปลว่าผิดจริง

โดย panwilai_c

9 พ.ค. 2567

52 views

วีระ จ่อฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต เอาผิด ป.ป.ช. หลังศาลปกครอง มีคำสั่งปรับ ป.ป.ช. 1 หมื่นบาท ฐานไม่เปิดข้อมูลสอบนาฬิกาหรูบิ๊กป้อม ลั่น ส่วนตัวเชื่อว่าไม่พ้นคุกหรอก เพราะความผิดชัดเจน



โดยนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น หรือ คปต. เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต่อสู้มาเกือบ 6 ปี หลังมีการร้องขอเอกสาร 3 รายการ เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีกรณีนาฬิกา 22 เรือน ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จาก ป.ป.ช.



นายวีระ ระบุว่า ตนเองยื่นไป 2 ประเด็น คือ กรณีแรก เชื่อว่าพลเอกประวิตร แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ กรณีไม่แจ้งเรื่องนาฬิกา 22 เรือน และกรณที่ 2 เรื่องร่ำรวยผิดปกติ เพราะว่าการที่มีนาฬิกาจำนวนมาก เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ แต่ ป.ป.ช. กลับสรุปเพียงเรื่องเดียว ก็คือแจ้งเรื่องบัญชีเท็จ โดยสรุปว่าพลเอกประวิตรไม่ได้แจ้งบัญชีเท็จ เพราะว่านาฬิกา 22 เรือนเป็นของเพื่อนที่ยืมเพื่อน จึงไม่รับไว้ไต่สวน ซึ่งตนเองขอเอกสารการตรวจสอบ



แต่อีกเรื่องที่ทาง ป.ป.ช. ยังไม่ตอบตนเอง คือเรื่องร่ำรวยผิดปกติ ที่ยังค้างอยู่ ก็ยังไม่ตอบ ซึ่งตนเองเชื่อว่า ป.ป.ช. ไม่กล้าตอบ เพราะถ้าจะสรุปว่าพลเอกประวิตรไม่ร่ำรวยผิดปกติ เป็นปัญหาหนักเลย หนักกว่าไม่รับไว้ไต่สวนเรื่องนาฬิกายืมเพื่อนอีก



พอ ป.ป.ช. ไม่ให้เอกสาร ตนจึงไปยื่นฟ้อง ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่งได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาไต่สวน ปรากฏว่าตนเองก็ชนะ บังคับให้ ป.ป.ช. ต้องให้เอกสารกับทั้งหมดที่ตนร้องขออย่างถูกต้อง และครบถ้วน แต่ ป.ป.ช.กลับดื้อ ไม่ให้



นี่จึงเป็นที่มาให้ตนเองยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในปี 2562 กระทั่งกันยายน 2566 ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น ว่า ป.ป.ช. ว่าต้องให้เอกสารอย่างถูกต้อง และครบถ้วนแก่ตน แต่ ป.ป.ช. ก็ยังไม่ให้ และที่ให้ ก็ให้เอกสารเปล่า บางหน้าที่มีตัวหนังสือก็คาดดำ ทำให้ต้องยื่นขอบังคับคดีถึงสองครั้ง



ต่อมาศาลปกครอง จึงเรียกคู่ความทั้งสองฝ่าย มาทำการไต่สวนอีกครั้ง ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งในวันนั้นทางเลขาธิการ ป.ป.ช. และ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ไม่ได้ไปด้วยตัวเอง แต่ส่งเจ้าหน้าที่หญิงของ ป.ป.ช. ไปแทน



กระทั่งเมื่อวานช่วงเย็น ตนเองเพิ่งได้รับคำสั่งศาล สรุปโดยย่อก็คือ ศาลเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง คือ สำนักงาน ป.ป.ช. โดยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล โดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วก็ล่าช้าเกินจำเป็น จึงปรับผู้ถูกฟ้องทั้งสอง รายละ 5,000 บาท ซึ่งส่วนตัวมองว่าถือว่าศาลปกครองปรับแบบเมตตาที่สุด เพราะปรับต่ำสุด ซึ่งนายวีระระบุว่าไม่รู้ว่าจะจ่ายหรือไม่ แต่หากไม่จ่ายภายใน 30 วันก็ต้องบังคับยึดทรัพย์



แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาอีกหนึ่งอย่างคือ ป.ป.ช. ต้องให้เอกสารอย่างถูกต้องครบถ้วนภายใน 15 วัน แก่ตน นับตั้งแต่ได้รับทราบคำสั่งล่าสุด ซึ่งต้องดูว่าทาง ป.ป.ช. ยังดื้ออยู่ไหม



ตนเองก็รอคำสั่งนี้มาตลอด เพราะคำสั่งนี้จะยืนยันชัดว่า ป.ป.ช.ผิด ขนาดว่าศาลปกครองต้องบังคับคดีแล้ว ถ้าเป็นทางราชการก็ถือว่าผิดไว้ในร้ายแรงแล้ว เมื่อไปถึงศาลอาญาคดีทุจริต ก็ไม่ต้องเถียงอะไรอีกแล้ว และตนก็ต้องยื่นฟ้องต่อศาลคดีอาญาทุจริตเร็วๆนี้ ต้องดูว่าจะพิพากษาอย่างไร แต่ตนเชื่อว่าไม่พ้นคุกหรอก เพราะความผิดชัดเจน



ส่วนตัวมองว่า ทาง ป.ป.ช. เจตนาที่จะไม่ให้เอกสารตนเอง ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่า ถ้าสุจริตจะกลัวอะไร ก็ทำงานถูกต้อง ครบถ้วนจะกลัวอะไร ตนเองเป็นผู้ร้องยื่นกล่าวหา ตนเองทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ให้กับประเทศ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Fw1au_knBEs

คุณอาจสนใจ

Related News