2 บิ๊กเข้าทำเนียบรายงานตัว ยืนคู่คุยสื่อฯ 'บิ๊กต่อ' ไม่น้อยใจ รับบกพร่องจริง ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก' ปัดเป็นสายทักษิณ

"บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" เข้าทำเนียบ รายงานตัวปลัดสำนักนายกฯ บิ๊กโจ๊ก บอกรู้สึกเหมือนกลับบ้านเก่า ไม่อึดอัด และตอบคำถามถึงกรณีที่ถูกมองว่าใกล้ชิดอดีตนายกฯทักษิณ ทำให้คำสั่งย้ายออกมาแบบนี้ ขณะที่ "บิ๊กต่อ" ก็บอกว่าไม่เครียด ตอนนี้เหมือนถอดหัวโขน เพราะโรงละครเลิกแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าบกพร่องในการทำหน้าที่ ผบ.ตร.



เมื่อเวลา 09.40 น. พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้ารายงานตัว ที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้ลงจากรถก่อนที่จะถึงอาคารสำนัก หนังสือ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินหลบผู้สื่อข่าวที่รออยู่บนบริเวณหน้าตึก โดยใช้อีกประตูเพื่อขึ้นไปยังห้องปลัดสำนักนายกฯ ทำให้สื่อมวลชนไม่เห็นพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ตอนเข้ารายงานตัว



ต่อมาเวลา 09.59 น.พลตำรวจเอก สุรเชษฏ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่อาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี



โดยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นรายงานตัวว่า วันนี้มาทำหน้าที่ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี สำหรับการมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เหมือนได้กลับบ้านเก่า รู้สึกคุ้นชิน เพราะเคยอยู่ที่นี่มาถึง 2 ปี ไม่รู้สึกกดดันหรืออึดอัด ไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะเป็นข้าราชการ เมื่อมอบหมายให้ทำอะไรก็ต้องทำและต้องทำให้ดีที่สุด



รวมถึงเรื่องคณะกรรมสอบสวน 3 คน ก็ไม่มีความกังวลใจ เชื่อมั่นว่าเป็นผู้ใหญ่ ที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา



ส่วนกรณีที่ถูกออกหมายเรียกก่อนหน้านี้ วันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) จะไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ย้ำว่า จะยังไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากตนยังไม่ได้รับหมายเรียก และพูดย้ำว่าความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องยุติ ทั้งตนและ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จะไม่มีใครขัดแย้งกับใคร และบอกว่าก่อนมาวันนี้ ได้ต่อสายคุยกับ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ นัดหมายเวลามาที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในเวลา 09.30 น. ด้วย



เมื่อถามว่าเมื่อคืนนอนหลับดีหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลับดี ไม่ได้เครียด ส่วนจะเป็นการกลับมา (ที่สำนักนายกฯ)รอบสุดท้ายหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ตอบว่า อยู่ที่ผู้บังคับบัญชา



หลังใช้เวลารายงานตัวนานกว่า 50 นาที​ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้ออกมาพร้อมกัน โดยพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน มีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ยืนประกบข้าง



พลตำรวจเอกต่อศักดิ์​ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องปัญหาความขัดแย้งใน สตช. ที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย ไม่ให้มี แบ่งฝ่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า / ตนพยายามสร้างตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปรับตำแหน่ง ว่า เราจะทำบ้านให้เปลี่ยนแปลง แต่มันออกมาในลักษณะนี้ นายกฯจึงต้องเข้าไปจัดระเบียบ และตนเชื่อว่าในการบริหารราชการแผ่นดิน ท่านทำหน้าที่บริหารได้อย่างถูกต้อง ตนรับและยินดีอยู่แล้ว ไม่ได้คิดหรือกังวลอะไร อยู่ที่นี่ก็ดี ขออย่าห่วงว่าจะเครียดหรืออะไร



เมื่อถามว่า หนังสือย้ายเมื่อวานนี้ ใช่คำค่อนข้างรุนแรง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ กล่าวว่า "พี่ยอมรับ พี่เป็นหัวหน้าหน่วย ทำให้องค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้ มันเป็นความบกพร่องของพี่ เมื่อท่าน(นายกฯ)เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ก็ต้องกำกับดูแลในส่วนนี้ พี่ยอมรับสภาพอยู่แล้ว พี่รู้... "



ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แม้อายุราชการจะเหลือน้อยก็ตาม แต่จะช้าหรือเร็ว อย่างไรก็ต้องลุก เป็นอะไรงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา



"วันนี้พี่ถอดหัวโขน อยู่แค่ตำแหน่ง ผบ.ตร. หัวโขนในการปฏิบัติหน้าที่ เราก็ถอดออก พี่มานั่งที่นี่ก็ใส่หัวโขนที่นี่ โรงละครของเราเลิกแล้วก็เก็บฉาก เก็บเครื่องแต่งตัว ปิดไฟ หอบเสื่อกลับบ้านเรา ก็เท่านั่น ชีวิตเรามีเท่านี้" และยืนยันไม่ช็อคเพราะรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว รู้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเรียกเข้าพบด้วย



จากนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษ​ณ์อีกรอบหลังรายงานตัว ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กระแสข่าวที่มองว่าใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องถึงออกมาเป็นเช่นนี้ ว่า ไม่เกี่ยว ส่วนการไปตอนนั้นเพื่อไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยขบวนสำคัญเพราะเขาเป็นอดีตนายกฯ พร้อมย้ำว่าไม่มีเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวอะไรทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้เป็นการแก้ไขของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วย



เมื่อถามย้ำว่า ถูกมองว่าเป็นสายบ้านจันทร์ส่องหล้า ไปแล้ว พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ส่ายหัวพร้อมระบุว่า ไม่มีสายไหน มีแต่เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเมื่อตอนนี้ให้มาทำหน้าที่นี้ก็ต้องมาทำ



เมื่อถามว่า คนมอง "บิ๊กโจ๊ก" มีชีวิตที่ 10 - 11 พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยิ้ม พร้อมบอกว่าไม่มีอะไรหรอก วันนี้ก็ทำหน้าที่ปกติ เขามีโอกาสให้ทำงานก็ต้องทำงาน ส่วนรอบนี้จะเนเวอร์ดายหรือไม่ ตนไม่รู้ เพราะก็ทำหน้าที่ไปตามปกติตามที่ได้รับมอบหมาย



เมื่อถามต่อว่า เมื่อมีปัญหาทุกครั้งก็กลับมาได้ตลอดนั้นได้มูอะไรหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่า ไม่ได้มู ก็ทำหน้าที่ให้ดี เพราะการทำหน้าที่ต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น มั่นใจศรัทธาและคลายความทุกข์ให้ได้



เมื่อถามว่าทำไมยังยิ้มได้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยิ้มเขิน ก่อนระบุว่า ตนอารมณ์ดี นี่ก็กลับบ้านไง โดยย้ำว่าไม่รู้เรื่องการย้ายมาก่อน และรู้พร้อมกัน



ทั้งนี้ภายหลังให้สัมภาษณ์เสร็จ ทั้งคู่ ได้เดินจากทำเนียบรัฐบาลข้ามฝั่งไปดูห้องทำงาน สำนักงาน ก.พ.เดิม ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ซึ่งห้องทำงาน "บิ๊กต่อ"จะอยู่ที่ชั้น 4 ส่วน ห้องทำงาน "บิ๊กโจ๊ก" อยู่ชั้น 3



ช่วงหนึ่ง ขณะเดินไปพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ที่มีผู้สื่อข่าวเดินตามไปด้วย ท่านได้กล่าวติดตลกว่า "นี่เรายิ่งกว่าดาราอีกนะ วันนี้มาดูห้องทำงานจะเข้ามานั่งทำงาน"



สำหรับภารกิจที่ทั้งสองบิ๊กได้รับมอบหมาย พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานจิตอาสาซึ่งตนทำอยู่แล้ว และให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลชุมนุมต่าง ๆ



ขณะที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานด้านที่ปรึกษากฎหมาย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารต่างๆ และการกระจายอำนาจ ซึ่งทั้งคู่ก็บอกเหมือนกันว่าจะเข้ามาทำงานทุกวัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ktbmwhJrP14