กู้คืนได้แล้ว เพจสำนักพุทธฯ หลังถูกแฮกปล่อยคลิปโป๊รัวๆ ผอ.พศ.ชี้เตรียมเอาผิดมือแฮก

เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถูกแฮค 3 วัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา แต่เมื่อช่วงเที่ยงกลับมีคลิปภาพ ลามกอนาจารถึง 9 รูป ถูกนำมาเผยแพร่ในเพจ สร้างความตกตะลึงแก่ชาวเน็ต ก่อนจะกู้คืนได้ กลับมาปกติเหมือนเดิม เมื่อช่วงบ่าย 3 โมงที่ผ่านมา ซึ่งผอ.สำนักพุทธฯเตรียมดำเนินคดีผู้กระทำความผิด มือแฮคอยู่ต่างประเทศ



ตั้งแต่เที่ยงวันที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถูกแฮค โดยนำคลิปโป๊ ลามก อนาจาร จากต่างประเทศมาเผยแพร่ ในหลากหลายอริยาบถ ถึง 9 ภาพ 9 โพสต์ ซึ่งแต่ละคลิป มีผู้มาแสดงความเห็น และแชร์จำนวนมาก



โดยในแต่ละโพสต์ ทางแอดมินของสำนักพุทธฯ ต้องเข้ามาแจ้งข่าว ว่า "เพจหลักของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดนแฮ็กช่วยกันสแปม Facebook หรือ รายงานให้ปิดระงับด้วย เนื่องจากมีการปล่อยคลิปอนาจาร "



พร้อมกับได้โพสต์ แจ้งประกาศ เป็นข้อความว่า ขณะนี้ เพจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ถูกผู้ไม่ประสงคืดี เข้ามาแทรกแซง หากมีการเคลื่อนไหวในเพจหลังจากนี้ ไม่ใช่การดำเนินการจากสำนักพุทธฯ ระหว่างนี้ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ WWW.onab.g0.th



ทีมข่าวได้รับการชี้แจงจาก สำนักพุทธฯ ต่อเหตุการณ์นี้ โดยสรุปเป็นไทม์ไลน์ ว่า จริงแล้ว เพจสำนักพุทธได้ถูกแฮค ตั้งแต่ วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 16.00 น. แอดมินเพจเดิมถูกลบออกทั้งหมด ไม่สามารถเข้าถึงเพจได้ จึงรายงานปัญหา การเข้าถึงเพจไปยัง Team Facebook เพื่อกู้คืนเพจ



​กระทั่งวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น. ผู้ไม่หวังดีที่เข้ามาแทรกแซงเพจ ได้เผยแพร่ภาพและคลิปที่ไม่สมควร ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสานกระทรวง DE (ก.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) เพื่อขอกู้คืนเพจ



ต่อมาล่าสุด เวลา 15.00 น. เพจกลับมาปกติเหมือนเดิม และคลิปภาพนำมาเผยแพร่ ทั้ง 9 คลิป หายไปหมดแล้ว



ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า วิธีการโจมตีเพจ คือลบแอดมิน ของสำนักพุทธฯออก ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพจเฟซบุ๊กได้ โดยแฮคมาจากต่างประเทศ จึงได้ประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลและตำรวจไซเบอร์ และแจ้งความที่สภ.พุทธมณฑล เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้



โดยตอนแรกผู้แฮคยังไม่ได้ดำเนินการอะไร เพิ่งมาโพสต์คลิปอนาจาร เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา และไม่พบว่ามีการหลอกลวงประชาชน มีเพียงการเผยแพร่คลิปลามกอนาจารเท่านั้น จึงไม่แน่ใจว่ากระทำเพียงคนเดียวหรือเป็นขบวนการ เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ แต่เชื่อว่าเป็นการปั่นกระแสมากกว่า โดยล่าสุดทราบว่า กู้คืนมาได้แล้ว และจะหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป

https://youtu.be/9DHAb2FU97o