ทหารพราน ถูก ผบ.ร้อยและพวก รุมทำร้าย จับใส่กุญแจมือ ล่ามโซ่ตากฝนทั้งคืน

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางวิไลรัษ์ อายุ 64 ปี ว่า ตนได้รับแจ้งจากลูกสะใภ้ว่าลูกชายของตนซึ่งเป็นทหารพราน ถูก ผบ.ร้อย , รองผบ.ร้อย และอาสาสมัครทหารพราน รุมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม ก่อนจับใส่กุญแจมือและนำตัวมาล่ามโซ่ไว้ด้านนอกห้องนอนตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้า ต่อมาภรรยาของลูกชาย ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังมีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง และยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

แม่ของทหารพราน น้ำตาคลอเบ้า เล่าอีกว่า ลูกชายตนเป็นทหารพรานอยู่ประจำที่อำเภอหนองจิก เป็นทหารพรานมา 18 ปี ยศสิบเอก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ลูกสะใภ้ได้โทรมาหาตนและบอกว่าลูกชายอยู่โรงพยาบาล โดนผบ.ร้อย , รอง ผบ.ร้อย และอาสาสมัครทหารพราน รวม 3 คน มีอาการเมาสุรา รุมทำร้ายร่างกายและถูกล่ามโซ่ตากฝนทั้งคืน แล้วจับไปซ้อมอีก เบื้องต้นไม่ทราบว่าสาเหตุเพราะอะไร จากนั้นลูกสะใภ้ได้ส่งคลิปวิดีโอมาให้ดู ตนถึงขั้นช็อกว่าลูกชายไปทำอะไรผิดมา ถึงถูกจับใส่กุญแจมือและล่ามโซ่ ตนรับไม่ได้เลย ทำแบบนี้มันผิดมนุษย์และละเมิดสิทธิมนุษยชน อยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ให้ตรวจสอบหาสาเหตุ และขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายตนด้วย ตอนนี้ลูกชายตน ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์ ลูกชายถูกต่อยจนจมูกเบี้ยว เลือดไหลอาบหน้า ส่วนที่หน้าอกมีรอยช้ำจากการถูกกระทืบอย่างรุนแรง

ด้าน นางสุชาดา อายุ 42 ปี ภรรยาของทหารพราน เล่าว่า ปกติช่วงเวลา 21.00-01.00 น. สามีจะวิดีโอคอลมาทุกวันเพื่อคุยกับลูกและตน ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ สามีเล่าว่ามีปัญหากับน้องชายของ ผบ.ร้อย ซึ่งอยู่ฐานเดียวกัน และห้องพักอยู่ติดกัน ซึ่งน้องชายของ ผบ.ร้อย เสพยาบ้า ทำให้ควันลอยข้ามมาในห้อง สามีจึงไปกล่าวตักเตือน ทำให้น้องชาย ผบ.ร้อย ไม่พอใจ จากนั้นสามี ได้รายงานให้ ผบ.ร้อย ทราบถึงพฤติกรรมของน้องชาย แต่ทาง ผบ.ร้อย กลับนิ่งเฉย ไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม สามีไม่ได้วิดีโอคอลมาหา ตนจึงได้โทรไปหาทุกๆ 1 ชั่วโมง สามีก็ยังไม่รับสาย จนกระทั่งช่วงเวลา 02.00 น. ตนได้โทรไปอีกรอบ แต่ก็ไม่รับสายอีก ตนเห็นผิดสังเกตุจึงตัดสินใจไปที่ฐาน เมื่อไปถึงหน้าฐานช่วงเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรอยู่ด้านหน้าได้โทรรายงาน ผบ.ร้อย จากนั้นผบ.ร้อย และ รอง ผบ.ร้อย ก็เดินออกมาหน้าฐาน และถามว่ามาทำไม ตนจึงได้ตอบกลับไปว่า มาหาสามี เพราะโทรมาไม่รับสายเลย กลัวว่าจะเป็นอะไร ทาง ผบ.ร้อย ได้ตอบกลับว่า สามีของตนสบายดี ไม่เป็นอะไร รถจอดอยู่ตรงไหนก็เดินกลับไปขึ้นรถทางนั้นแล้วรีบกลับบ้านไป ซึ่งทาง ผบ.ร้อย ใช้น้ำเสียงกริยาไม่โอเค ตนจึงได้ขับรถกลับมาบ้าน

ตนจึงตัดสินใจไปหาผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้พาลูกน้องอีก 2 คน ไปเป็นเพื่อนด้วย เมื่อไปถึงหน้าฐาเวลาเกือบจะ 6 โมงเช้า จู่ๆได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของสามีอยู่ข้างใน ตนจึงได้ตะโกนเรียก และสามีก็วิ่งออกมา และตะโกนว่า "อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้ มาช่วยไขกุญแจมือออกหน่อย"  ตนเห็นมีกุญแจมือและมีโซ่ล่ามเอาไว้ ตนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น อีกทั้งยังมีเลือดไหลออกมาทางจมูกเหมือนกับโดนซ้อมทำร้ายร่างกาย

ขณะที่สามีเล่าให้ตนฟังว่า ผบ.ร้อย และ รอง ผบ.ร้อย ชวนสามีตนไปกินเหล้า ซึ่งปกติสามีตนไม่กิน เมื่อไปนั่งกินด้วยมีการพูดโต้เถี่ยงกันหลายเรื่อง สามีตนเริ่มเมาจึงโต้เถี่ยงเรื่องน้องชายของ ผบ.ร้อย เสพยาบ้าในฐาน ทำให้น้องชาย ผบ.ร้อย ไม่พอใจขึ้นไปอีก ทะเลาะมีปากเสียงถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ ผบ.ร้อย ได้ไล่ให้สามีตนกลับไปนอน แต่มามีตนยังเอะอะโวยวายในห้องเพียงคนเดียว ทำให้ ผบ.ร้อย ทนไม่ไหว เดินมาถีบประตูห้องจนพัง และถูกรุมทำร้าย จับล่ามโซ่