สังคม

อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยมีผู้นำเอกสารยื่นรับลูกเสือโคร่งกลับไปเลี้ยง อ้างไม่ใช่เสือ แต่เป็น "ไลเกอร์" สัตว์ลูกผสม

โดย kanyapak_w

16 พ.ค. 2567

327 views

คืบหน้าลูกเสือโคร่งโผล่กลางชุมชนต้องรีบแจ้งกู้ภัย ตำรวจ ให้มาช่วยจับ ซึ่งลูกเสือตัวดังกล่าวเป็นขนาดกลาง ซึ่งเริ่มกัดคนแล้วทีแรกก็กัดเล่นพอเริ่มหงุดหงิดเริ่มกัดจริงทำให้ตำรวจ นักข่าว กู้ภัย ตอนนี้ยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าของส่วนฟาร์มที่เคยเลี้ยงสิงโตขาวได้ย้ายออกไปกว่า 2 ปีแล้ว



ความคืบหน้าหลัง เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 16 พ.ค. 67 รงตงอ.ปองภพ กุดหอม รองสวป.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังสายตรวจ และหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบเหตุพบเสือโคร่งอยู่ภายในซอยบางวัว-บางจาก7 หมู่11 ต.บางวัว อ.บางปะกง พบว่าต้องเดินเท้าเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่11 ซึ่งเป็นบ้านของนายธนพล รุ่งโรจน์ อายุ 23 ปี ก็พบลูกเสือโคร่งขนาดกลางนอนอยู่หน้าบ้าน กู้ภัย แลชาวบ้านพยายามเรียกออกมาที่กลางซอย ซึ่งลูกเสือก็วิ่งเข้าใส่ทำให้ชาวบ้านบางส่วนวิ่งหนี ซึ่งผู้สื่อข่าวต้องยืนหนีให้มันกัดขาเล่น และคิดว่ามันไม่ทำอันตราย ซึ่งใช้เวลาเกือบ10 นาทีในการเรียกลูกเสือออกจากบ้านไปอยู่กลางซอย



เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามใช้ผ้าคลุมตัวเพื่อจะจับ และมันเริ่มหงุดหงิดทำให้ลุกเสือเริ่มกัดแรงขึ้นทำให้กู้ภัย ตำรวจ และผู้สื่อข่าวโดนกัดกันทะลุกลางเกงจนเป็นรอยถาก สุดท้ายกู้ภัยก็สามารถจับมันขึ้นไปท้ายรถกู้ภัยได้สำเร็ว ก่อนที่ตำรวจจะบันทึกตรวจยึดแล้วนำตัวลูกเสือส่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ด้านนายชญานนท์ อายุ 21 ปี เผยว่าตนขี่รถจักรยานยนต์กำลังพานายธนพลเข้าบ้าน แล้วมาเจอลูกเสือยืนอยู่กลางซอย ทีแรกคิดว่าสุนัข แต่พอมันเดินมาใกล้ๆกลายเป็นเสือ คราวนี้เลยรีบขี่รถจักรยบานยนต์หนีมาทางบ้านนายธนพล ส่วนนายธนพลก็วิ่งหนีเข้าไปในบ้าน ทำให้ลูกเสือวิ่งตามไปอยู่ที่บ้าน ก่อนจะโทรแจ้งกู้ภัย และตำรวจ



ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 16 พ.ค. 67 ทางผู้สื่อข่าวหลังจากไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้าที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 ได้ออกไปติดตามที่สภ.บางปะกง ซึ่งทางร.ต.อ.สุริยา ภูมิวัฒน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ให้ตำรวจสายตรวจลงพื้นที่ก็ยังไม่พบว่าบ้านหลังไหนเป็นคนเลี้ยง และไม่มีใครรู้ว่าเสือมาจากไหน อีกทั้งฟาร์มสิงโตขาวที่เคยเลี้ยงก็ย้ายออกจากพื้นที่ไปกว่า2ปีแล้ว จึงไม่น่าจะมีการเลี้ยงในพื้นที่อีก จึงยังไม่ทราบที่มาของเสือตัวดังกล่าว



ล่าสุดทีมข่าวสอบถามนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า วันนี้มีผู้นำเอกสารมายืนยันเป็นเจ้าของลูกเสือโคร่ง ซึ่งเลี้ยงอยู่ในฟาร์ม จะนำกลับไปเลี้ยงดูแล้ว ซึ่งที่น่าแปลกใจ คือ เจ้าของให้ข้อมูลว่า ไม่ใช่ลูกเสือ แต่เป็นไลเกอร์ เป็นสัตว์ลูกผสม ระหว่างสิงโตกับเสือโคร่ง กฎหมายที่มีอยู่ไม่สามารถเอาผิดได้



ทั้งนี้ได้สั่งการให้ชุดเหยี่ยวดงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ว่า เป็นไลเกอร์จริงหรือไม่ ในช่วงเย็นนี้จะทราบรายละเอียด พร้อมขอหลักฐานครอบครองที่ถูกต้อง ส่วนข้อกฎหมายก็ต้องไปปรับแก้กันต่อไป



ข้อมูลจากเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานฯ รู้จัก..สัตว์ป่าเลือดผสม "ไลเกอร์" และ "ไทกอน" เป็นลูกที่เกิดจากการผสมเทียมของสิงโตกับเสือโคร่งโดยไลเกอร์ เกิดจากสิงโตตัวผู้และเสือโคร่งตัวเมีย มีลายจากแม่ ได้แผงขนหนาๆ มาจากพ่อ และมีแนวโน้มเติบโตขนาดใหญ่เกิน ส่วนไทกอน เกิดจากเสือโคร่งตัวผู้และสิงโตตัวเมีย



ไทกอนจะมีลายและเพศผู้ที่มีแผงขนสั้นๆ โดยปกติจะมีขนาดพอๆ กับพ่อแม่ ไลเกอร์และไทกอน ที่มีในโลก ส่วนมากแล้ว เกิดขึ้นจากการผสมเทียมของคนเราทั้งสิ้น เพราะในความปกติแล้ว เสือและสิงโต นั้นมีพฤติกรรมไม่เหมือนกันและยังอยู่อาศัยกันคนละถิ่นแต่ละภูมิประเทศ 



สำหรับ เสือ หากกัดคน ทำร้ายคน จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งเจ้าของต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด



ส่วน ไลเกอร์และไทกอน ซึ่งเป็นสัตว์ลูกผสม ยังไม่มีกฎหมายสามารถเอาผิดได้โดยทางไซเตส บอกกับทีมข่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือนักกฎหมาย เพื่อกำหนดสถานะของสัตว์ป่าลูกผสม ภายใต้กฎหมายพรบ.คุ้มครองสัตว์ป่า ในมาตรา 19 การแจ้งครอบครองสัตว์ป่า





คุณอาจสนใจ

Related News