ลูกสาวคาใจสาเหตุแม่เสียชีวิต หลังปวดท้องไปรักษา 2 โรงพยาบาล วิเคราะห์กันคนละโรค

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางจันทร์เพ็ญ ครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากเป็นสื่อกลางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขระบบการทำงาน หลังแม่เสียชีวิตจากการผ่าตัดมะเร็งลำไส้

นางจันทร์เพ็ญ เล่าว่า เมื่อประมาณต้นเดือน มี.ค. นางบุญหนา อายุ 58 ปี แม่ของตัวเอง มีอาการปวดท้อง จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน อ.หนองหงส์ หมอบอกน่าจะเกิดจากยกของหนักทำให้ท้องเสีย จ่ายยาแก้ปวดและเกลือแร่ ให้มากิน

ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มี.ค. แม่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จึงพาไปพบหมอที่โรงพยาบาลใน อ.ลำปลายมาศ เพราะมีความพร้อมมากกว่าโรงพยาบาลแห่งแรก โดยหมอวิเคราะห์ว่าเป็นลำไส้อุดตัน จะต้องมีการผ่าตัด จากนั้นหมอมาแจ้งอีกครั้งว่ามีเนื้องอกในลำไส้ ตนจึงยอมให้ผ่าตัดเพื่อทำการรักษา หมอใช้เวลาในการผ่าตัดกว่า 5 ชม. ผ่าตัดลำไส้ใหญ่ออกไป 80 เปอร์เซ็นต์ หลังจากผ่าตัด หมอพาแม่เข้าห้อง ICU ทันที

วันที่ 18 มี.ค. หมอโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน(รพ.สต.)โทรมาแจ้งว่าแม่เป็นมะเร็ง จะไปส่องกล้องด้วยกันไหม ส่วนตัวคิดว่าจะให้ไปส่องกล้องเพื่ออะไร เพราะแม่ผ่าตัดแล้ว

จนกระทั่งมาทราบจาก รพ.สต.ในพื้นที่ว่า ตรวจพบเชื้อมะเร็งในลำไส้ใหญ่ของแม่ตั้งแต่ปี 2565 ทางญาติตกใจว่าทำไมหมอไม่เคยแจ้งให้ญาติทราบ อีกมุมหนึ่งมองว่าทำไมโรงพยาบาลถึงกล้าผ่าตัดเคสใหญ่ขนาดนี้ สุดท้ายแม่ต้องเสียชีวิตลง

หลังจากนั้น ได้มีตัวแทนโรงพยาบาลออกมาคุยว่า ไม่อยากจะให้ไปร้องเรียนหรือฟ้องร้อง เพราะจะทำให้โรงพยาบาลเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ทำไมไม่คิดถึงสภาพจิตใจของญาติ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่าความผิดพลาดดังกล่าว ตั้งแต่ตอนแรกมาจนถึงแม่เสียชีวิตเกิดจากอะไร เป็นการวิเคราะห์โรคผิด หรือขั้นตอนการดำเนินการไม่ถูกต้อง หรือเครื่องมือแพทย์ไม่เพียงพอ หรือให้แม่เป็นแค่หนูลองยาในการรักษา