สังคม

รถเมล์สาย 69 ชนสามล้อก่อนเสียหลักชน จยย. ดับ 1 เจ็บ 3 ย้อนรอยอุบัติเหตุรถเมล์ไฟฟ้า

โดย nattachat_c

27 ธ.ค. 2566

74 views

วานนี้  (26 ธ.ค. 66) เวลาประมาณ 20.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถเมล์พลังงานไฟฟ้า สาย 69 (เครือไทยสมายล์บัส) วิ่งเส้นทาง รามคำแหง-ท่าอิฐ ชนกับรถสามล้อรับจ้าง ก่อนพุ่งชนคนขี่จักรยานยนต์  แล้วรถเมล์พุ่งขึ้นทางเท้า


เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรบุรีขาออก ใกล้ซอยเพชรบุรี 31 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ทำให้ นายอภิวุฒิ อัศวทรัพย์ทวี อายุ 28 ปี พ่อค้าเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ที่ขี่จักรยานยนต์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ


และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย คือ 

  • หญิงสาวที่ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต
  • พนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถเมล์
  • คนขับรถเมล์ที่มีอาการแน่นเจ็บหน้าอก
  • ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งหมด

----------

จากการสอบถาม นายพิชัย อายุ 52 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า


ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถมาจากแยกประตูน้ำมุ่งหน้าคลองตัน ส่วนรถเมล์ขับมาในทิศทางฝั่งถนนเพชรบุรีขาเข้า ซึ่งขณะนั้น การจราจรติดขัดอย่างมาก จู่ ๆ รถเมล์ก็หักขวาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปชนเข้ากับรถสามล้อรับจ้าง ที่กำลังจะเลี้ยวขวาไปทางถนนชิดลม


โดยตนเองเห็นไม่ชัดว่า ชนกันจากสาเหตุใด มีการขับขี่ตัดหน้ากันหรือไม่ แต่หลังจากชนรถสามล้อแล้ว รถเมล์ก็พุ่งเข้าชนกับจักรยานยนต์ ก่อนจะลากพุ่งขึ้นทะลุทางเท้า ไปจอดอยู่บริเวณไซต์งานก่อสร้างปั๊มน้ำมัน ปตท. ลักษณะเหมือนไม่ได้มีการเหยียบเบรกเลย ตนเองพยายามสอบถามคนขับรถเมล์ แต่คนขับรถเมล์ก็ยังอยู่ในอาการสับสน ตอบไม่ได้ว่าทำไมรถเมล์จึงไม่เบรก


มีรายงานว่า นายสุเทพ อายุ 69 ปี คนขับรถเมล์ ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า มาจากแยกประตูน้ำถนนเพชรบุรี พอถึงจุดเกิดเหตุ มีรถสามล้อกำลังเลี้ยวขวาไปถนนชิดลมอย่างกระชั้นชิด จึงหักพวงมาลัยขวาหลบ และด้วยความตกใจจะเหยียบเบรก กลับไปเหยียบคันเร่งจนควบคุมรถไม่ได้ พุ่งชนจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมทางเท้า

-----------

ขณะที่ นายถนอม อายุ 60 ปี คนขับรถสามล้อ ยืนยันว่า


ตนเองไม่ได้ขับตัดหน้ารถเมล์กระชั้นชิด แต่ตนเองรับผู้โดยสารวิ่งเส้นทางถนนเพชรบุรีขาออก กำลังจะเลี้ยวขวามุ่งหน้าถนนชิดลม ซึ่งการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง ติดขัด รถจอดหยุดนิ่งทั้งหมด จนแม้แต่ตนเองที่กำลังรอเลี้ยวก็ยังเลี้ยวไปไม่ได้ แต่จู่ ๆ รถเมล์ก็พุ่งมาชนรถตนเลย ทั้งที่รถติดมาก

-----------

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.พญาไท จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุก่อน


เพราะยังไม่ชัดเจนว่า มีการขับขี่ตัดหน้า หรือขับขี่โดยประมาท จนทำให้รถเสียหลักหรือไม่ หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบรถเมล์ ซึ่งเป็นรถพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องนำรถเมล์กลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

-----------

ล่าสุด บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้ตรวจสอบหลักฐานจากทีมวิศวกร ระบบกำกับดูแลการเดินรถ (Fleet Management) รวมถึงภาพจากกล้องหน้ารถ พบว่า รถเมล์คันที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นรถสาย 69 เลข 2-13(4) เส้นทาง ท่าอิฐ - มหาวิทยาลัยรามคำแหง กำลังมุ่งหน้ากลับสู่ สาขาต้นทาง ท่าอิฐ ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 25-29 กม.ต่อชั่วโมง สภาพรถทุกส่วนอยู่ในสภาพปกติสมบูรณ์


ต่อมา เมื่อถึงแยกชิดลม ปรากฏว่าพนักงานขับรถได้หักพวงมาลัยค้างไว้ในจังหวะรถเลี้ยว แต่จากความประมาท จึงเผลอไปเหยียบคันเร่งต่ออย่างฉับพลัน ทำให้รถพุ่งตัวไปด้านหน้า ประกอบกับอาการตกใจจึงไม่ได้เหยียบเบรกรถ ส่งผลให้รถหักเลี้ยวพุ่งขึ้นไปบนทางเท้า จนเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับจักรยานยนต์ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวน 3 ราย


ด้านพนักงานต้อนรับบนรถจึงพาผู้โดยสารลงจนครบ แล้วประสานกับทางสำนักงาน ให้ทางเจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บทุกส่งโรงพยาบาลที่ใกล้สุด เพื่อเข้ารักษาพยาบาลเร็วที่สุด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ประกันภัยเข้าดูแลค่ารักษาพยาบาลในทันที


ทางบริษัท ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอรับผิดชอบ ดูแลค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ บริษัทจะสอบสวนพนักงานขับรถอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วลงโทษตามมาตรการขั้นเด็ดขาดของบริษัทต่อไป

------------

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เคยเกิดอุบัติเหตุกับรถเมล์พลังงานไฟฟ้ามาแล้วหลายครั้ง


วันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา รถเมล์พลังงานไฟฟ้า สาย 558 เคหะธนบุรี-สนามบินสุวรรณภูมิ ของ บริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ในเครือไทย สมายล์บัส เบรกแตก พุ่งชนรถเก๋ง รถกระบะ และ จยย.ของชาวบ้าน เสียหายไปทั้งสิ้น 11 คัน


มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย เหตุเกิดช่วงเช้า บริเวณถนนพระราม 2 ปากซอย 4 ฝั่งมุ่งหน้าแยกพระราม 2 ตัดถนนสุขสวัสดิ์ แขวงและเขตจอมทอง โดยบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า ตรวจสอบตัวรถโดยสารแล้ว ไม่พบความผิดปกติใด ๆ ทั้งเรื่องระบบไฟฟ้า และระบบควบคุมเบรก จึงยืนยันว่า สาเหตุการชนไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของตัวรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ส่วนการสอบสวนพนักงานพบว่า พักผ่อนน้อย เผลอเหม่อลอยชั่วขณะ เมื่อรถเคลื่อนตัวก็ตกใจจะเหยียบเบรก แต่กลับไปเหยียบคันเร่งแทน จึงลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นสูงสุดของบริษัท

------------

วันที่ 10 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.30 น. เกิดอุบัติเหตุ รถเมล์ปรับอากาศ สาย 113 มีนบุรี –หัวลำโพง ของบริษัท สมาร์ท บัส จำกัด ในเครือบริษัทไทย สมายล์บัส ประสบอุบัติเหตุรถพลิกตะแคง บริเวณซอยรามคำแหง 147/2 เขตสะพานสูง เนื่องจากถนนเปียกลื่น มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 11 คน


โดยทางบริษัทไทย สมายล์บัส ออกหนังสือชี้แจงว่า เกิดจากกระจกของตัวรถขึ้นฝ้า เพราะสภาพอากาศในตัวรถค่อนข้างเย็น  ตรวจสอบกล้องในรถ พบว่า พนักงานขับรถต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนตลอดเวลาที่ขับขี่ แต่ไม่ได้เปิดระบบไล่ฝ้าภายใน ทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่ลดลง จนรถปีนทางเท้า และพลิกตะแคง  

------------

วันที่ 14 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. รถเมล์พลังงานไฟฟ้า สาย 113 มีนบุรี-หัวลำโพง ชนกับรถสองแถว บริเวณปากซอยรามคำแหง 203/1  มีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถสองแถวถูกอัดก๊อปปี้อยู่ที่ท้ายสองแถว จนมีบาดเจ็บรวม 10 คน  


จากการสอบถามผู้โดยสารรถสองแถว ทราบว่า คนขับรถสองแถวปาดหน้ารถเมล์และมีการปาดหน้ากันไปมา  


ต่อมา บริษัทไทย สมายล์บัส ออกหนังสือชี้แจงว่า รถเมล์ขับมาด้วยความเร็วปกติ 55 กม.ต่อชั่วโมง และระบบของรถไม่มีความผิดปกติ แต่พนักงานขับรถยอมรับว่า ประมาท เหม่อไปในชั่วขณะเปลี่ยนเลนจากซ้ายสุดเข้าเลนกลาง จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น

----------------

โดยทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทไทย สมายล์บัส ยืนยันว่า


จะดูแลเยียวยาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้บาดเจ็บ และผู้เสียหายทุกราย รวมทั้งจะลงโทษ-อบรมพนักงานขับรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก  

----------------




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/YY_9QnfYUXo

คุณอาจสนใจ

Related News