ชูวิทย์แฉขั้นตอนการจ่ายส่วนพนันออนไลน์ ส่วนบ่อนบนดิน ต้องจ่ายส่วยให้ขาใหญ่ในพื้นที่เคลียร์กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วย

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยขั้นตอนการจ่ายส่วนบ่อนพนันออนไลน์กับทีมข่าวว่า การเปิดธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นบ่อนการพนันบนดินหรือออนไลน์ การจ่ายส่วยต้องจ่ายผ่าน “แม่บ้าน” ซึ่งเป็นผู้ดูแลนำเงินที่ได้ไปจ่ายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ โดยผู้ที่เป็น “แม่บ้าน” จะเป็นเจ้าหน้ารที่รัฐเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มีบางส่วนที่เป็นพลเรือน เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อยู่ในพื้นที่มานานและรู้ระบบเป็นอย่างดี



โดยในอดีตมีหลายพื้นที่ที่ผู้บังคับบัญชาคนใหม่ต้องการเข้ามารื้อระบบแม่บ้าน ทำให้มีปัญหาในหน่วยงาน โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาที่บ่อนพนันบนดินถูกปิด ทำให้บ่อนออนไลน์อยู่ในยุคเฟื่องฟู เพราะสามารถเข้าเลื่อนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกสถานที่รวมทั้งมีคนเล่นจำนวนมากจึงทำให้มีรายรับมหาศาล ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ่อนออนไลน์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงมี 3 หน่วยงาน โดยแม่บ้านมีหน้าที่เคลียร์โดยตรงกับ 3 หน่วยงานนี้ โดยไม่จำเป็นต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับหน่วยงานในพื้นที่ แต่การจ่ายแต่ละครั้งต้องมีตัวเชื่อม หรือท่อไปยังผี้อำนาจ ซึ่งเจ้าของบ่อนหรือเจ้าของเว็บพนัน ไม่สามารถเข้าไปเจรจาโดยตรงกับผู้มีอำนาจได้ โดยราคาเริ่มแรก หากเป็นเว็บไซต์เล็ก คิด 100,000 บาทต่อเดือน แต่เมื่อกิจการดีขึ้นก็จะเพิ่มเป็น 200,000 บาทต่อเดือน หรือบางครั้งเป็นรูปแบบการอำนวยความสะดวกเรื่องอาหาร รถยนต์ การเดินทางไปต่างประเทศ ช็อปปิง หรือจัดก๊วนตีกอล์ฟ



นอกจากนี้ ยังต้องจ่ายส่วยให้กับพวกนักตีกิน ที่เป็นพวกนักแฉหรือพลเรือนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ เช่น บอย ชลบุรี โดยต้องมีคุณสมบัติคือ รู้จักคนเยอะ มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้สามารถไปเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์ได้

ส่วนการจ่ายส่วยนั้น ผู้รับและผู้ให้ต้องมี “ตัวคัตเอาต์” หรือคนกลาง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดี เป็นคนที่รู้จักทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะได้ค่านายหน้า 10 เปอร์เซ็นต์ หรือบางครั้งตัวกลางอาจมีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นพระเครื่องที่มีมูลค่าสูงและสามารถใช้กำหนดราคาแทนเงินสด ทำให้ไม่เป็นที่สงสัย เพราะเก็บได้มิดชิด อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง



ส่วนวลี หรือประโยคเด็ดที่ใช้สนทนาในการสื่อสารของขบวนการ เช่น “ขาลอย” คือ หากไม่มีการจ่ายก็จะถือว่าโดดเดี่ยว เพราะไม่มีอะไรให้ยึดเกาะ ไม่มีนายคุ้มกัน คนที่ได้ยินก็จะรู้สึกหวาดกลัวจนต้องรีบจ่าย

ส่วนคำว่า “เนียน” มาจากรากศัพท์ภาษาอังกฤษว่า NEED ซึ่งบางคดีสามารถจบได้ที่โรงพัก มักใช้กับคดียาเสพติด

ส่วน “ไฟเขียว” ต้องมีตัวคัตเอาต์ มักจะคำนี้ใช้ในการข่มขู่กับนายบ่อนเพื่อให้ดูว่าได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจ หรือให้ดูว่าเป็นเรื่องใหญ่ โดยในช่วงแรก ๆ สามารถทำได้แต่อย่างโฉ่งฉ่าง หรืออย่าให้มีการร้องเรียน ซึ่งคำเหล่านี้ ไม่ได้มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมา แต่เป็นที่รู้กันในวงการธุรกิจสีเทา

ทั้งมี มีข้อมูลจากอดีตเจ้าของบ่อนบนดิน หรือบ่อนคลาสสิกว่า การเข้าไปเปิดบ่อนในพื้นที่ใด ๆ ต้องเข้าไปหาเจ้าถิ่น หรือหน้าเสื่อ ซึ่งไม่สามาถเข้าไปติดต่อกับตำรวจในพื้นที่เองได้ เนื่องจากในพื้นที่นั้น ๆ จะมีบ่อนรายอื่นอยู่แล้วทำให้เกิดการทับซ้อน ดังนั้น เจ้าถิ่นจะเป็นผู้อนุญาตว่าสามารถเปิดบ่อนได้หรือไม่ พร้อมกับต้องจ่ายส่วยให้กับเจ้าถิ่นเพื่อไปเคลียร์กับตำรวจทุกหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ

ส่วนการเปิดบ่อนป๊อกเด้งที่มีผู้เล่นไม่เกิน 20 คน ที่ผ่านมาต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละไม่เกิน 60,000 บาทให้กับตำรวจในพื้นที่ แต่ไม่รวมฝ่ายปกครอง หากได้รับไฟเขียวจะสามารถรับผู้เล่นได้จำนวนไม่จำกัด พร้อมการันตีว่าจะไม่ถูกจับอย่างแน่นอน แต่หากสั่งให้หยุดก็ต้องหยุด โดยมีทั้งลูกค้าประจำและปากต่อปาก ส่วนค่าใช้จ่ายก็จะมีรายจ่ายเดือนละ 2 – 3 แสนบาท เป็นค่ารถขนคนมาเล่น ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่านำพาคนมาเล่น โดยมีค่าเช่าสถานที่วันละ 2-3 แสนบาท แต่มีรายรับเป็นค่าต๋งได้วันละ 4-5 แสนบาท

นอกนจากนั้น ทางบ่อนจะอำนวยความสะดวกให้กับนักพนัน โดยการมีการนำคนภายนอกมารับจำนำทรัพย์สิน ทั้งบ้าน รถยนต์ ทองรูปพรรณ เพื่อเป็นหลักประกันสภาพคล่องให้กับบ่อน