พ่อแม่ใจสลาย ส่งลูกสาววัย 4 เดือนฝากสถานรับเลี้ยง 2 ชั่วโมง ลูกเสียชีวิตปริศนา

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวเก่ง และนายณัฐพล พ่อแม่ของเด็กหญิง อายุ 4 เดือน ได้ติดต่อลูกไปฝากเลี้ยงไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งในตัวอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาลูกของตนเองได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัด ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พบว่าทางมูลนิธิ ได้นำร่างของเด็กหญิง ที่เพิ่งผ่าชันสูตรจากโรงพยาบาลนิติเวช มาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัด โดยมีพ่อแม่รอรับร่างด้วยความเศร้าโศก


นางสาวเก่ง เล่าให้ฟังว่า ตนเองมองหาพี่เลี้ยงเด็กและมีเพื่อนร่วมงานแนะนำผ่านพี่สาวตนมาว่า ที่นี่เลี้ยงเด็กดี ต่อมาพี่สาวตนจึงได้ติดต่อไป จากนั้นตนเองก็ได้พูดคุยกับคนที่รับเลี้ยงเด็ก พอตกเย็นตนเองก็เลยไปดูสถานที่ที่ใช้รับเลี้ยงเด็ก ซึ่งรับเลี้ยงตั้งแต่เด็กแรกเกิด ดูแลเด็กตลอดเวลา และมีเด็กที่ถูกนำมาฝากเลี้ยงประมาณ 5-6 คน


จากนั้นตนเองก็ได้ตกลงค่าจ้างเรียบร้อยเป็นวันละ 150 บาท พอ 07.00 น. ของวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ตนเองก็ได้เอาลูกไปส่งให้กับสถานรับเลี้ยงเด็กตามปกติ ซึ่งลูกตนตอนนั้นก็มีเพียงแค่น้ำมูกใส นอกนั้นก็ไม่มีอาการอย่างอื่นเลย ยิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริงเป็นปกติ และตอนนั้นตนเองก็ได้ชงนมไปให้ลูกด้วยหนึ่งขวด ประมาณ 4 ออนซ์


จากนั้น 2 ชั่วโมงต่อมา เวลาประมาณ 09.30 น. คนที่รับเลี้ยงเด็กก็โทรมาบอกว่า ทำไมไม่บอกว่าเด็กไม่สบาย ซึ่งตอนนี้น้องอยู่โรงพยาบาลแล้ว โดยพี่เลี้ยงเด็กก็ร้องไห้ออกมา


ต่อมา ตนเองก็ได้รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปดูอาการลูกที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน หมอก็ได้เดินออกมาจับที่มือของตน ความคิดตนเองตอนนั้นไม่นึกว่าน้องจะเป็นอะไรมาก สภาพน้องตอนนั้นไม่มีสติ ปากเขียว เนื่องจากขาดออกซิเจน ซึ่งตอนที่คนรับเลี้ยงเด็กเอาลูกตนเองไปส่งที่โรงพยาบาล ตอนนั้นน้องก็ไม่มีสติแล้ว


จากนั้น หมอก็ได้เรียกตนเองไปคุยว่า พี่เลี้ยงเด็กคนนี้บอกกับหมอว่า หลังจากที่ให้นมน้องเสร็จแล้วก็จับนอนคว่ำ เพื่อที่จะเอาน้องนอน ซึ่งเด็ก 4 เดือนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ยังพลิกซ้ายพลิกขวาเองยังไม่เก่ง อีกอย่างตนเองก็ไม่เคยให้ลูกนอนคว่ำเลย


หลังจากนั้น พี่เลี้ยงก็ได้บอกว่า มาเจออีกทีตอนน้องหน้าเขียว ไม่รู้สึกตัวแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกว่าถ้าหากเด็กฟื้นขึ้นมาได้ก็จะไม่เหมือนเดิม อาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตนก็แค่อยากจะให้พี่เลี้ยงคนนี้ออกมาช่วยเหลือ ออกมาดูแล แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ควรจะมาดูลูกของตนเองบ้าง


ซึ่งก่อนที่ลูกจะเสีย ตนเองมีความรู้สึกวูบวาบตามตัว เลยขึ้นมาหาน้องที่ห้อง จากนั้นพูดกับน้องว่าเดี๋ยวแม่ไปใส่บาตรให้ ตอนนั้นหัวใจน้องเต้นอยู่ที่ 15 พอตนจับตัวน้อง หัวใจก็หยุดเต้นทันที


ทั้งนี้ ทางพ่อแม่ของเด็กผู้เสียชีวิต และญาติ ๆ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรท่าม่วง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงรายนี้แล้ว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


ต่อมาเวลา 20.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว พี่เลี้ยงเด็ก เข้ามาสอบปากคำที่โรงพัก หลังจากสอบปากคำเสร็จ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิด พี่เลี้ยงเด็กเปิดเผยว่า ได้รับเลี้ยงเด็กเวลาประมาณ 07.30 น. หลังจากนั้นก็เอาเด็กมาอาบน้ำ ป้อนนม แล้วก็พาเข้านอน ระหว่างนั้นเด็กได้สำลักนม 1 ครั้ง ซึ่งตนเองก็คิดว่าไม่เป็นอะไร และยังอุ้มเล่นอยู่บริเวณห้องโถง จนเด็กเริ่มง่วง จึงได้รีบนำเด็กเข้านอน


เมื่อแน่ใจว่าเด็กหลับแล้ว ตนเองจึงออกมากินข้าว ไม่นานหลังจากกินข้าวเสร็จ ก็เดินขึ้นมาดูน้อง พบว่า น้องมีอาการแน่นิ่ง ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้องหยุดหายใจหรือยังหายใจอยู่ จึงได้นำน้องมาที่ห้องโถงและทำการปั๊มหัวใจ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 มีน้ำมูกทะลักออกมา ครั้งที่ 2 ก็มีน้ำมูกออกมาเหมือนเดิม ครั้งที่ 3 ก็มีน้ำมูกออกมาอีก


หลังจากนั้นจึงได้รีบนำเด็กไปส่งที่โรงพยาบาล ตนทำอาชีพเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากว่า 10 ปี เลี้ยงเด็กมาแล้วกว่า 130 คน ไม่เคยมีเหตุอะไรแบบนี้ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กเสียชีวิต ส่วนคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย และหลังจากนี้คงเลิกเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะรู้สึกแย่มาก ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากขอโทษครอบครัวของเด็ก ซึ่งตนก็ไม่ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ตนพยายามช่วยชีวิตสุดความสามารถแล้ว