กู้ภัยทางหลวง ทิ้งศพไว้ในซากรถเก๋ง นานกว่า 12 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.รัตพล วรรณะ รอง ผกก.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.เขาเขียว ว่าให้มาเก็บศพผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ กลางถนนมอเตอร์สาย 7 ฝั่งขาเข้าพัทยา ช่วง กม.105+700 ชลอ. ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมอเตอร์เวย์สาย 7 เคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ภายในพื้นที่เก็บของกลาง สถานีย่อยเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ท่ามกลางความมึนงงของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ จึงต้องรุดไปตรวจสอบ



บริเวณดังกล่าวพบซากรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีขาว อยู่ในสภาพหน้ารถและท้ายรถพังเสียหาย ภายในรถพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายภัทรชัย อายุ 68 ปี อยู่ในสภาพนอนขดตัวอยู่บริเวณเบาะคนขับ ใต้พวงมาลัยรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการนำร่างออกมาตรวจสอบ ก่อนรีบให้กู้ภัยนำไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อรอการติดต่อของญาติผู้เสียชีวิต



อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมอเตอร์เวย์สาย 7 ไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุแล้ว และแจ้งว่าไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสภาพรถ จึงพบว่ามีศพอยู่



ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถาม นายธีระพงษ์ ทรัพยา อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ขึ้นเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. ซึ่งพื้นที่จุดเกิดเหตุอยู่ในเขตความรับผิดชอบของหน่วยกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา ซึ่งก็ได้รับแจ้งมาเหมือนกัน แต่เนื่องจากทางหน่วยกู้ภัยทางหลวงมาถึงจุดเกิดเหตุก่อน และแจ้งกับทางกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ว่า จากการตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้จึงได้ยกเลิกกำพลไปตรวจสอบ



อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เหตุเกิดตั้งแต่เช้า 7 โมง จนมืดถึงเจอผู้เสียชีวิตอยู่ในรถ และกรณีนี้หากตอนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บยังมีชีวิตอยู่ และหากเป็นญาติเราจะคิดยังไง และใครจะเป็นคนรับผิดชอบ