สังคม

ออกหมายเรียกชายฉกรรจ์บุกรื้อร้าน " เอม ตามใจตุ๊ด "

โดย onjira_n

15 พ.ค. 2565

8K views


เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่14 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านอาหาร " อยู่กับเพื่อนบ้าง " ต.ปากเกร็ดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมานเกือบ 20 คน เข้ามารื้อร้านจนพังยับเยิน เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย 65  ที่ผ่านมา แถมมีการขู่ว่าห้ามถ่ายรูป ห้ามถ่ายคลิป ไม่งั้นจะโดนด้วย กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว รื้อทั้งกำแพง หลังคา ระบบไฟ ข้าวของทรัพย์สินต่างๆ ได้รับความเสียดายเป็นจำนวนมาก ต่อมา วันที่ 28 เม.ย.65 พายุเข้าอีก ร้านไม่มีหลังคาเนื่องจากถูกรื้อออกไป น้ำสาดเข้ามาเปียกฝนไปหมด ทั้งเครื่องเสียง ทั้งโต๊ะเก้าอี้ ข้าวของลมพัดกระจัดกระจายไปหทั่ว น้ำก็ท่วมร้าน นายวิทวัสหรือเอมตามใจตุ๊ดยูทูปเบอร์ชื่อดัง เจ้าของร้านได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ที่สภ.ปากเกร็ด แต่คดีเงียบหาย ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร  แถมยังมีกลุ่มคนจำนวน 10 กว่าคน นำค้อนทุบแม่กุญแจประตูร้านอีก และเข้ามาขนของในร้าน ออกมาไว้กลางแจ้ง ทั้งโต๊ะ ตู้เย็น ตู่แช่ เครื่องครัว แจ้งความไปถึง 3 ครั้ง ก็ยังไร้วี่แวว

  ด้านนายกิตติพันธุ์ เหล่าภักดี อายุ23 ปีพนักงานเสริฟ นอนเฝ้าที่ร้าน กล่าวว่า ตอนนี้ร้านปิดบริการแต่ว่ามีแพลนว่าจะหาที่เปิดเป็นการชั่วคราวก่อน  เพราะทางเจ้าของร้านกลัวว่าน้องๆเด็กเสริฟในร้านจะขาดรายได้ เพราะทุกคนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย ส่วนเรื่องที่ร้านตอนนี้ปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลแล้ว หากมีใครจะมารื้อหลังจากนี้โดนดำเนินคดีแน่นอน

  ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ออกมาให้ข้อมูลว่าตอนนี้ได้ออกหมายเรียกทางกลุ่มผุ้ก่อเหตุไปแล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ขอไม่ระบุจำนวนว่าทั้งหมดกี่คน ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องขอเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมก่อน ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาพบ ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย คือออกหมายเรียกครั้งที่2 หากยังไม่มาพบจึงจะออกหมายจับ แต่คดีนี้ต้องของใช้เวลาในการสอบสวน เพราะว่ามีผุ้เสียหายทั้งสองฝั่ง เนื่องจากยังไม่สามารถระบุว่าเป็นพื้นที่ของใครกันแน่ เนื่องจากเป็นการเช่าต่อๆกันมา จนมาถึงเจ้าของร้านดังกล่าวซึ่งเป็นคนเช่าเพราะว่าทางผู้ก่อเหตุเองก็อ้างว่าผู้เสียหายบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของเขา ในส่วนนี้ก็จะต้องแบ่งการดำเนินคดีเป็น2ฝั่ง จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นเจ้าของที่ที่แท้จริง กรณีนี้หากจะดำเนินก็จะโดนทั้งหมด สองข้อหา คือ บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ แต่จะต้องรอสอบสวนความจริงให้ชัดเจนก่อน ตอนนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ก่อน



คุณอาจสนใจ