ชาวบ้านยังผวา มีโกดังเก็บดินปืน หวั่นบึ้มซ้ำรอย ผบ.ตร.กำชับ เร่งหาสาเหตุโรงงานพลุระเบิด

ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี ยันเร่งตรวจอัตลักษณ์บุคคลเพื่อนำร่างส่งคืนญาติให้ทันภายใน 2 วัน ส่วนสาเหตุระเบิดยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงมีอาสาสมัคร ปภ. และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต่างเร่งค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในจุดที่โรงงานพลุระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่จุดที่เกิดเหตุระเบิดไว้ โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้จากการสังเกตของทีมข่าว พบว่าพื้นที่เกิดเหตุ ยังคงมีเศษซากของโรงงานกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณเป็นวงกว้าง บางจุดที่มีการคลุมผ้าสีขาวไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเศษชิ้นส่วนมนุษย์

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มทยอยลำเลียงนำชิ้นส่วนมนุษย์ และร่างผู้เสียชีวิต ออกจากจุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปยังวัดโรงช้างซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อนำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล

นายธนพล สังขพันธุ์ ปลัดอำเภอสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องผู้เสียชีวิต ที่ขณะนี้มีจำนวน 23 รายว่า จะต้องรอผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพิ่มเติม ถึงจะสามารถยืนยันได้ว่ามีผุ้เสียชีวิตที่แท้จริงกี่คน

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 23 รายประกอบด้วย 1.นางแสงเดือน ปานจันทร์ (เจ้าของโรงงาน) 2.นายธนกร วัชระพิมลมิตร (ลูกชายเจ้าของโรงงาน) 3.นางพเยาว์ บุญกล่อม 4.นางบุญเกื้อ ทองสัมฤทธิ์ 5.นายทวีศักดิ์ ทองสัมฤทธิ์ 6.นายรุ่งโรจน์ อุ่มน้อย 7.นางสมนึก บุญกล่อม 8.นางมานพ จาดพันธุ์อินทร์ 9.น.ส.พรทิพย์ พันธ์แตง 10.นายวิชาญ บุญศรีวงษ์ 11.น.ส.เตือนใจ ยิ้มแย้ม 12.น.ส.สำราญ สายทอง 13.นายสมควร แจ้งวิถี 14.น.ส.สุชาดา พันธุ์เผือก 15.น.ส.ภัสสร เล็กพอใจ 16.น.ส.รัชนี พันธ์ตัน 17.นางรำไพ สวยค้าข้าว 18.นายโสพล สวยค้าข้าว 19.น.ส.น้ำฝน เกิดนอก 20.นางสุณี ขวัญอ่อน 21.นางสมปอง นาคพิทักษ์ 22.นายธงชัย กำเนิดนนท์ 23.น.ส.วรัญญา ศรีเหวา

นายสุเมธ นกสกุล อายุ 51 ปี กล่าวว่า บ้านของเขาอยู่ห่างจากโรงงานพลุ ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยได้เสียงระเบิดดังสนั่นจำนวน 1 ครั้ง ตอนแรกคิดว่ายางรถระเบิด ต่อมามีชาวบ้านบอกว่าโรงงานพลุระเบิด จึงรีบมาดูก็พบกลุ่มควันเป็นจำนวนมากออกมาจากโรงงานพลุ และเห็นเศษซากของโรงงานกระจัดกระจายไปทั่วในระยะ 100 เมตร ซึ่งตอนนั้นไม่กล้าเข้าไปใกล้มากกว่านี้เพราะกลัวอันตราย

สำหรับโรงงานพลุแห่งนี้ เดิมตั้งอยู่ที่ตำบลศาลาขาว ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งปัจจุบันหลายกิโลเมตร จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็ย้ายมาตั้งอยู่ที่บริเวณนี้ โดยชาวบ้านละแวกนี้ส่วนใหญ่เลือกที่จะมาทำงานที่โรงงานพลุ เพราะได้ค่าแรงดี วันละ 300 บาท

ทั้งนี้โรงงานพลุ ยังมีโกดังเก็บดินปืน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานพลุไปประมาณ 300 เมตร แต่ไม่รู้ว่าภายในโกดังเก็บดินปืนไว้ดีหรือไม่ ทำให้หวั่นใจว่าอาจเกิดเหตุระเบิดซ้ำรอย

ทีมข่าวช่อง 3 ได้ไปสำรวจที่โกดังเก็บดินปืนดังกล่าว พบว่ามีถังผงสารเคมีเปล่าอยู่บริเวณทางเข้าตัวอาคาร โดยจากการสังเกตพบว่าโรงเก็บดินปืนไม่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดจากโรงงานพลุแต่อย่างใด

ขณะที่ช่วงสายที่ผ่านมา พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้ไปที่วัดโรงช้าง ซึ่งได้จัดเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุพลุระเบิด เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย โดยพบว่าภายในศูนย์ช่วยเหลือ มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หลากหลายหน่วยงาน มาให้ความช่วยเหลือญาติผู้ประสบเหตุ ทั้งพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม กองพิสูจน์หลักฐาน และทีมแพทย์

ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตได้มาปักหลัก รอร่างของผู้เสียชีวิตที่นี่ โดยเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือ ไม่ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ญาติผู้เสียชีวิต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับญาติในรายละเอียดต่างๆ ก่อน

พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับแจ้งมี 23 ราย ลำเลียงมาถึงที่วัดแล้ว 17 ศพ ผ่าชันสูตรแล้ว 4 ศพ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาผ่าชันสูตรและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้เสร็จภายใน 2 วัน หากเสร็จเรียบร้อยก็จะนำร่างส่งให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนาทันที ส่วนสาเหตุของการระเบิดขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยอีโอดี

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/C2--XGM9nLY