สังคม

ลุงยัน! กระสือจริงไม่ใช่โจร ย้ำแถวบ้านไม่เคยมีของหาย เพื่อนบ้านลั่น เอาหน้ากากมาหลอกเด็กหรอ

โดย chutikan_o

19 ต.ค. 2566

91 views

ลุงวิเชียรยืนยัน เจอกระสือแก่แยกเขี้ยวจริง ไม่ใช่โจรใส่หน้ากาก ย้ำแถวบ้านไม่เคยมีของหาย เพื่อนบ้านช่วยยืนยัน ลุงวิเชียรไม่โกหก เอาหน้ากากมาโชว์ จะหลอกเด็กหรืออย่างไร

กรณีชาวบ้านที่อำเภอท่าวุ้ง และอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เจอดวงไฟกระสือลอยออกมาหากินยามค่ำคืน ลักษณะของมันเป็นลูกไฟสีแดง แต่เมื่อเห็นใกล้ ๆ ดวงไฟนั้นจะมีหน้าคน อายุประมาณ 60 กว่า ๆ ผมสีขาวประบ่า มีไส้ห้อย พร้อมแยกเขี้ยวใส่คนที่ได้พบเห็น ซึ่งลุงวิเชียร ชาวบ้านตำบลบ้านเบิก อำเภอท่าวุ้งบอกว่า กระสือตัวนี้มันบุกมาหากินบริเวณที่ทิ้งขี้หมู จนสัตว์ที่เลี้ยงไว้แตกตื่น จนต้องเอาด้ามเสียมไล่ตีจนมันลอยหนีไป

หลังเป็นข่าวดัง นายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกลาดตระเวน ในพื้นที่ที่มีชาวบ้านเจอกระสือ ทั้งทางรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และเดินเท้า เข้าพูดคุยกับทางชาวบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้าน และป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพ ฉวยโอกาสออกมาซ้ำเติม ขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน ช่วงที่ชาวบ้านหวาดกลัว ไม่กล้าออกจากบ้านตอนกลางคืน แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยกระสือ

โดยเมื่อวานนี้ นายอำเภอเมืองลพบุรี ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี แจ้งกรณีที่ลุงวิเชียร เจอกระสือหญิงแก่ ผมขาวสลับดำ ยาวประบ่า แยกเขี้ยวใส่ ตอนตี 1 ของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนจะนำไปเล่าต่อให้ชาวบ้านฟัง จนกลายเป็นข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วนั้น

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ นางเพ็ญพิสุทธิ์ เหล็กไหล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลโพธิ์ตรุ อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งมีบ้านติดกับลุงวิเชียร มาแจ้งว่า ตอนที่ไปวิ่งออกกำลังกายช่วงเช้ามืด หลังวันที่ลุงวิเชียรเจอกระสือ ได้ไปพบหน้ากากบริเวณหน้าบ้านลุงวิเชียร ลักษณะตรงตามที่ลุงวิเชียรบอกว่าเป็นกระสือ จึงเชื่อว่า เป็นคนใส่หน้ากากมาขโมยไก่ชน หรือ ของมีค่า ทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่แจ้งชาวบ้าน ไม่ให้ตื่นตระหนก และขอให้ระวังทรัพย์สินมีค่าสูญหาย

จากนั้น นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้เรียกนางเพ็ญพิสุทธิ์ มีชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้สื่อข่าวฟัง โดยนายอำเภอยืนยันว่า ไม่มีกระสือในพื้นที่ แต่น่าจะเป็นขโมย มาลักทรัพย์มีค้า เครื่องมือทางการเกษตร เป็ด ไก่ ของชาวบ้านมากกว่า ยิ่งมีกระแสข่าวกระสือ ยิ่งทำให้ชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้านยามค่ำคืน ยิ่งเปิดทางให้โจรทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ด้านนางเพ็ญพิสุทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านที่เจอหน้ากาก เล่าว่า ช่วงเช้าหลังวันที่ลุงวิเชียรเจอกระสือ ตนเองไปวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่ฟ้ายังไม่แจ้ง ไปเจอหน้ากากตกอยู่ ลักษณะเหมือนกระสือของลุงวิเชียร จึงนำไปมอบให้นายอำเภอ เชื่อว่า เป็นโจร

แต่เมื่อถูกผู้สื่อข่าวซักถาม ทั้งไทม์ไลน์ในการพบหน้ากาก แล้วเรื่องที่เจอหน้ากากแล้ว หากมั่นใจว่าเป็นโจร ทำไมไม่นำไปมอบให้ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้านเริ่มอึกอัก ก่อนยอมรับว่า เรื่องเครื่องมือทางการเกษตรของชาวบ้านที่หาย มีมาตลอดก่อนที่จะมีข่าวลือเรื่องกระสืออีก ส่วนหน้ากากที่เจอ ไม่ได้เจอแถวหน้าบ้านลุงวิเชียร แต่เจอถนนอีกเส้นที่เชื่อมต่อกันได้ พร้อมพาสื่อไปดูจุดที่เจอหน้ากาก

เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวเอาหน้ากากไปที่บ้านลุงวิเชียร พร้อมทดลองใส่หน้ากาก เอาไฟฉายส่อง ทำทีลอยไปลอยมา ให้ลุงวิเชียรดูว่า มันใช่กระสือที่ลุงวิเชียรเจอหรือไม่ ลุงวิเชียรยืนยันว่าไม่เหมือนกันสิ่งที่เจอคืนนั้น

เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านของลุงวิเชียร ที่มั่นใจว่า ลุงวิเชียรไม่ได้โกหก หน้ากากที่ผู้ใหญ่บ้านเจอ ไม่เหมือนกระสืออย่างที่ลุงวิเชียรเห็น หน้ากากทำไมมันหน้าแดงผมเขียวขนาดนั้น ของเด็กเล่นหรือเปล่า เอามาหลอกเด็กหรืออย่างไร นายอำเภอบอกไม่มีกระสือ ก็เป็นเรื่องของนายอำเภอเถอะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ตอนนี้กระสือน่าจะรู้ตัวแล้ว เดี๋ยวเรื่องเงียบก็คงจะออกมาหากินอีก

เช้านี้ลุงวิเชียรเปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง บอกว่า สิ่งที่เห็นไม่ใช่หน้ากากแน่นอน มันเป็นหน้าคนแท้ ๆ แถมตอนหนี มันลอยขึ้นยอดไม้ ไม่ได้วิ่งหนีไปตามรั้ว แล้วแถวนี้ไม่เคยมีขโมย บ้านตนก็ไม่มีของหาย แถวบ้านตนไม่มีหน้ากากแน่นอน วัยรุ่นวิ่งกันเยอะแยะ ไม่เห็นมีใครเจอ เชื่อว่าที่เจอเป็นกระสือจริง ๆ เพราะมันลอยได้ ไม่ใช่โดรนแน่นอน เพราะไม่ได้ยินเสียงเครื่อง

ผู้สื่อข่าวไปที่ สภ.บ้านเบิก ไปสอบถาม ร้อยตำรวจเอก ปริญญา ชนแดง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านเบิก ว่า ช่วง 3 เดือน ย้อนหลัง ในพื้นที่มีการรับแจ้งของหาย พวกเป็ด ไก่ เครื่องสูบน้ำหรือไม่ ได้คำตอบว่า ไม่มี มีแต่คดีหมากัดไก่ ส่วนเรื่องลุงวิเชียรเจอกระสือ แล้วมีผู้ใหญ่บ้านไปเจอหน้ากาก พร้อมบอกว่า กระสือไม่มี แต่เป็นโจรใส่หน้ากากมาขโมยของ เรื่องนี้ร้อยตำรวจเอกปริญญา บอกว่า ไม่รู้เรื่องเลย


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/7LWB4oW1O0I

คุณอาจสนใจ

Related News