สังคม

แม่ 'โยโกะ' ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย คาใจปมซ่อนไซยาไนด์ในตู้เซฟ ด้านตร.เตรียมสอบแฟนหนุ่มเพิ่ม

โดย nut_p

14 ม.ค. 2567

143 views

ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ โยโกะ พริตตี้สาวภายในคอนโดมเนียมย่านเอกมัย ล่าสุดแม่ยังติดใจในหลายประเด็น



กรณีการเสียชีวิตของนางสาว พราวรวี หรือ น้องโยโกะ นางแบบพริตตี้สาว เสียชีวิตอยู่ภายในห้องพัก ชั้น 6 คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของน้องโยโกะ บอกว่า ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะไม่เชื่อว่าลูกสาวจะทำร้ายตัวเอง เพราะก่อนเกิดเหตุยังไปกินข้าวกัน ซึ่งลูกสาวยังร่าเริงปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร แถมยังคุยเรื่องอนาคต ที่วางแผนจะบริหารธุรกิจต่อจากเธอ จะซื้อบ้านหลังใหม่



ส่วนแฟนทราบว่าคบกันมาประมาณ 1 ปี แต่ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ แต่ลูกจะส่งรูปมาให้ดูตลอด ล่าสุดก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันก็เพิ่งไปต่างประเทศกับแฟนมา ส่วนเรื่องที่ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้ว เชื่อว่าลูกสาวไม่ทราบมาก่อน



สำหรับข้อความในโทรศัพท์มือถือของลูกที่มีการสั่งเสียกับแฟน ไม่เชื่อว่าลูกจะพิมพ์เอง เชื่อว่าลูกเข้มแข็งพอที่จะไม่ทำร้ายตนเอง ต่อให้จะเพิ่งรู้ว่าโดนผู้ชายหลอกก็ตาม ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ติดใจหลายอย่าง เช่น ตอนที่แฟนของลูกบอกว่าไปหาที่คอนโดแต่ขึ้นไม่ได้ ไม่รู้รหัส จึงนั่งรอ และพยายามติดต่อหาลูก แต่ก่อนจะพบศพ ฝ่ายชายกลับเป็นคนติดต่อหาหลานตน ให้ไปดูลูกที่คอนโด พร้อมบอกรหัสและวิธีการเปิดห้องทุกอย่าง และที่ตำรวจบอกว่าลูกขับรถไปกลับงานปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนในคืนวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ด้วยตัวเอง แต่ฝ่ายชายเป็นคนบอกกับแม่ว่า "เขาเป็นคนไปรับไปส่ง"



พร้อมยอมรับว่า เธอยังติดใจในสภาพที่พบร่างลูกสาว ว่าทำไมถึงนอนอย่างเรียบร้อย ห่มผ้าพับอย่างดี และยังเจอสารไซยาไนด์ในตู้เซฟ สภาพใส่ถุงซิปปิดอย่างดี ถ้าคนที่ตั้งใจจะฆ่าตัวตาย ทำไมจะต้องซ่อนยา เอาไปเก็บอย่างมิดชิด จึงอยากให้สอบปากคำแฟนหนุ่มอีกครั้ง



ขณะที่ผลการชันสูตรศพน้องโยโกะ จากศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สรุปสาเหตุการเสียชีวิต ว่าเกิดจากภาวะพิษจากไซยาไนด์ โดยพบสมองบวมน้ำ ม้ามคั่งเลือด ตับอ่อนเน่า ไซยาไนด์ปริมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร



ทางด้านนาย สายธาร จันดา อายุ 51 ปี มัคนายก วัดบางบอน ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีศพของน้องโยโกะ บอกว่าตอนที่รับศพที่มาจากโรงพยาบาลจุฬาฯ สภาพร่างกายของผู้เสียชีวิต ยังดูเป็นปกติอยู่ เหมือนคนนอนหลับ ทางวัดก็ได้นำเข้าตู้แช่ตามปกติ แต่หลังจากมีการทำพิธีสวดอภิธรรมไปแล้ว 7 คืน ได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตมาไว้อีกศาลา พบว่าร่างของผู้เสียชีวิต กลายเป็นสีแดงคล้ายเลือดทั้งตัว ผิดจากศพอื่นๆ ที่เคยเห็นว่าหลังจากแช่เย็นผ่านไปสักพัก สภาพผิวจะคล้ำลง ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้คุณแม่ของผู้เสียชีวิตเกิดความสงสัยและติดต่อตำรวจ ขอนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรรอบ 2 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ



ขณะที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตจากการทำร้ายตัวเอง แต่ยังไม่ได้มีการตัดประเด็นอื่นทิ้ง ส่วนร่องรอยเขียวช้ำตามร่างกายที่แม่ของผู้ตายและเพื่อนสงสัยนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นร่องรอยที่เคยทะเลาะกับแฟนหนุ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้



หลังจากนี้จะเรียกแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะตั้งคณะกรรมการเพื่อขยายขยายผลที่มาของไซยาไนด์ที่ตรวจพบ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอยู่ระหว่างประสานแม่ของผู้ตายให้มาฟังคำชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/9w_B-D11h6I

คุณอาจสนใจ

Related News