สังคม

ทนายเตือน เจ้าของร้านข้าวต้ม ระวังศาลลงโทษเหตุอยู่ระหว่างคุมประพฤติ

โดย nattachat_c

2 พ.ค. 2567

557 views

วันนี้ (2 พ.ค. 67) รายการโหนกระแส ได้จัดรายการกรณีสาวห้องเช่าคนหนึ่ง ถูกเจ้าของร้านข้าวต้มตะโกนด่าทอหยาบคายทุกวัน เพราะเคยไปเตือนเรื่องเสียงดัง และเคยไปขึ้นศาลเป็นพยานให้คู่กรณีของเจ้าของร้านข้าวต้ม ซึ่งเหตุการณ์ทวีความหนักหนาขึ้น ถึงขั้นปาของใส่ เฉียดไปนิดเดียว

โดยรายการได้เชิญ คุณหนูนา ผู้เสียหาย และ คุณแม่ มาบอกเล่าเรื่องราว รวมถึง ‘ทนายแก้ว’ มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล มาให้ความรู้ด้านกฎหมาย และได้มีการโฟนอินคุยกับ ‘คุณแอน’ เจ้าของร้านข้าวต้มคู่กรณี เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย

คุณหนูนา ผู้เสียหายได้เล่าว่า หลังจากเรียนจบ เธอได้งานทำ จึงจำเป็นต้องหาห้องพัก ใน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้เช่าห้องพักนี้ตั้งแต่ปี 2564 โดยตนพักที่ห้องพักของตึก A  ซึ่งอยู่ติดกับตึก B โดยทั้งสองตึกมีเจ้าของคนละคน แต่เป็นพี่น้องกันและมีภรรยาของเจ้าของตึก B มาเปิดร้านข้าวต้มอยู่หน้าปากซอยตรงทางเดินเข้า

เธอบอกว่า จุดเริ่มต้นของเรื่อง เนื่องจากในตอนกลางคืน คู่กรณีคือ นายบี และ ลูกสาว มักจะส่งเสียงดังตลอดคืน ทำให้เธอนอนไม่ได้ เมื่อนานเข้าเธอจึงฝากนายเอให้ไปบอกนายบีให้ลดเสียงลงหน่อย แต่ก็ไม่เป็นผล

มีอยู่วันหนึ่ง แม่และคุณตาของเธอมาหา คุณแม่ได้บอ ให้เจ้าของตึกเอ ไปช่วยเจรจา ​นายเอจึงเดินไปร้านข้าวต้ม จากนั้นเดินกลับมาที่หอพักบี แล้วเรื่องราวก็ใหญ่โตกลายเป็นว่า เมียของนายเอ และ เมียของนายบี ทะเลาะกันใหญ่โต เธอจึงเดินเข้าไปดูพร้อมกับถ่ายคลิป และเมื่อเหตุการณ์ไม่จบลงง่าย ๆ จึงได้โทรแจ้งตำรวจ แต่ปรากฎว่านายบีไม่ยอมไกล่เกลี่ย จนต้องไปจบลงที่ศาล ซึ่งปรากฎว่าศาลสั่งคุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเชื่อว่าการที่เธอได้ไปเป็นพยานที่โรงพัก ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ และคุกคามเธอ มาตลอดกว่า 2 ปี

ซึ่งหลังจากที่คู่กรณีด่าเธอตลอดที่เดินผ่านร้านข้าวต้ม เธอก็ได้อัดคลิปตลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการด่าหยาบมากมาย โดยเธอได้อัดคลิเอาไว้

ซ่งทนายแก้วบอกว่าคลิปหลักฐานเหล่านี้สามารถนำไปเป็นหลักฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าได้  และจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ต่อมารายการจึงได้โฟนอินคุยกับ “คุณแนน” เจ้าของร้านข้าวต้ม คู่กรณี โดยเธอบอกว่า ที่เห็นในคลิปนั้นเป็นเสียงเธอจริงแต่ไม่ได้ด่าผู้เสียหาย แต่เป็นการด่าลูกน้อง และมีเหตุการณ์อย่างอื่น แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการด่าคุณหนูนาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการคุกคามที่ไปเดินประชิด เธอบอกว่าสามารถดูคลิปได้เลยว่าไม่ได้เดินประชิดตัว ไม่ได้เดินใกล้ขนาดนั้น

“คุณแนน” บอกด้วยว่า พฤติกรรมของน้องหนูนา เวลาเดินผ่านหน้าร้าน ทำอะไรไว้บ้างไม่เคยพูดบ้างหรือ เราเอาโต๊ะไปตั้งบนฟุตปาธให้ลูกค้านั่ง เขามาเดินเฉียดโต๊ะ แล้วถือกระเป๋าฉวัดเวียนโดนโต๊ะเก้าอี้เรา เรายังไม่เคยพูดอะไร เพราะเห็นว่าเขาเป็นเด็ก ไม่อยากมีเรื่องด้วย แล้วเวลาเดินผ่าน ก็เบะปาก จิกหน้าจิกตาใส่ร้านเรา เวลาพ่อแม่ครอบครัวเขามาจากอยุธยา ก็จะมาเบะปากใส่เรา ตนก็อยากเอาเวลาไปทำมาหากินมากกว่า ไม่อยากมาถ่ายคลิปถ่ายอะไรแบบเขา

นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า  “คุณหนูนา”​​ เตรียมตัวมาอย่างดี ที่จะหาเรื่องเธอโดยการอัดคลิปไว้ตลอด เพื่อนำออกสื่อ หรือโซเชียล รวมถึงเป็นหลักฐาน แต่อยากให้มองกลับกัน ว่าคู่กรณีก็ทำเรื่องเสียหายไว้กับเธอเยอะ เช่น เบะปากใส่ จ้องหน้าเขม็ง ตั้งใจเอากระเป๋าเหวี่ยงใส่โต๊ะและเก้าอี้จนล้ม รวมถึงอยากฝากบอกทุกคนว่าให้มองมุมกลับ รวมถึงฟังความสองข้างบ้าง แต่ตัวเธอไม่มีหลักฐาน เพราะไม่มีเวลาไปอัดคลิป เนื่องจากต้องทำงาน ไม่มีเวลาทำอะไรแบบนี้

จนท้ายที่สุด หนุ่ม-กรรชัย ได้ถามถึงความต้องการของทั้งสองฝ่าย โดยต่างก็บอกว่าก็อยากให้ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องยุ่งกัน ทั้งนี้ คู่กรณีบอกว่าจะไม่ด่า หรือไม่คุกคาม แต่ผู้เสียก็ห้ามเอากระเป๋าเหวี่ยงใส่โต๊ะ-เก้าอี้ ซึ่งอีกฝั่งก็ยังยืนยันว่าไม่เคยทำแบบนั้น

พร้อมกันนี้ คุณหนูนา ยังได้บอกว่าจะอยู่อีกไม่เกิน 2 เดือน เพราะว่าสอบได้ทุนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ไม่จำเป็นต้องเช่าที่นี่อีก

ขณะที่ทนายยแก้วบอกว่า เมื่อคุณแนนอยู่ในระหว่างการที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติ สั่งให้อยู่ระหว่างรอลงอาญาในคดีใดๆ พฤติกรรมการด่าลอยๆ หรือการปาสิ่งของ อะไรก็ตามแต่ ผู้เสียหายสามารถไปแถลงต่อศาลได้ว่าจำเลยไม่เข็ดหลาบ อยากให้คุณแนนระวังในเรื่องนี้ด้วย การจะไปอ้างว่าไปด่าพนักงานในร้านหรืออะไรก็ตาม หนูนารูสึกว่าถูกละเมิดสิทธิ์ เขาก็ไปร้องศาลได้ ระวังจะได้รับโทษตามกฎหมาย


คุณอาจสนใจ

Related News