สังคม

ตร.ไซเบอร์ทลาย 2 เครือข่าย ปลอมวุฒิการศึกษา ม.ดังโดนเพียบ พบรายได้ต่อเดือนหลักแสน

โดย panwilai_c

29 ก.พ. 2567

350 views

ตำรวจไซเบอร์แถลง ปฏิบัติการทลาย 2 เครือข่าย ปลอมวุฒิการศึกษาขายออนไลน์ สถานศึกษาชื่อดังโดนเพียบ รับรายได้ดี หลักแสนต่อเดือน



วันที่ 29 ก.พ.67 เวลา 13.30 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม (ตร.) เมืองทองธานี บช.สอท. โดย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.  พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ร่วมกับ ผศ.ดร.พนมพัทธ์ สมิตานนท์ รักษาการแทนอธิบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “Cyber Hunter Operation” กรณี “ตำรวจไซเบอร์ทลาย 2 เครือข่าย ปลอมวุฒิการศึกษาส่งขายออนไลน์สถานศึกษาชื่อดังโดนกันเพียบ”



สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับเบาะแสว่ามีผู้เปิดรับทำวุฒิการศึกษาปลอมส่งขายออนไลน์ผ่านโซเชียล พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งสืบสวน เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมายได้ นำมาสู่ปฏิบัติการตรวจค้นจำนวน 2 ปฏิบัติการ ดังนี้



1. รวบอดีตสาวประกันภัย ผันตัวทำวุฒิการศึกษาปลอม ส่งขายออนไลน์ อ้างมหา’ลัยดังเพียบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้รับเบาะแสว่ามีผู้รับทำเอกสารทางราชการปลอม แล้วจำหน่ายทางออนไลน์ โดยทำการสืบสวนติดตามผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "ปีรดา พาลพรม (ครูบี)" และผู้ใช้งานบัญชี Line OA "มูลนิธิศึกษา" มีพฤติการณ์ในการรับทำวุฒิการศึกษา และ ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน (แบบ ป.4) ปลอม



จึงได้ให้สายลับทดลองสั่งทำวุฒิการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปี 6 ปลอม ในราคา 2,500 บาท จนพิสูจน์ทราบแน่ชัดว่ามีการปลอมเอกสารราชการแล้วจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์จริง เจ้าหน้าที่จึงนำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา พบ น.ส.วันดี อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ภายในบ้าน ผลการตรวจค้นพบวุฒิการศึกษาปลอม ที่มีผู้สั่งทำไว้จำนวน 29 ราย



โดยพบว่ามีเอกสารวุฒิปริญญาตรีปลอมทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนชื่อดังมากมาย

นอกจากนี้ ยังมีวุฒิปลอมทั้งระดับ ปวส. และ ปวช. ด้วย



ในส่วนของใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน หรือ (แบบ ป.4) ปลอม พบจำนวน 4 ใบ ได้แก่ ขนาดอาวุธปืน .38 จำนวน 3 ใบ และขนาด .22 จำนวน 1 ใบ และของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมทั้งสิ้น 12 รายการ



เบื้องต้น น.ส.วันดี รับว่าตนเองนั้นเป็นคนทำวุฒิการศึกษาปลอมจริง โดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปในกลุ่มสมัครงานต่างๆ หรือ กลุ่มผู้สนใจทำวุฒิการศึกษา ซึ่งมีผู้สนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก  จากนั้น น.ส.วันดีฯ ก็จะให้ผู้ติดต่อแอดบัญชี Line ซึ่งตนเองนั้นเป็นแอดมิน โดยตนนั้นรับทำวุฒิการศึกษาระดับ ม.ต้น ในราคา 2,500 บาท, ม.ปลาย ในราคา 3,700 บาท, ปวช. ในราคา 4,000 บาท, ปวส. ในราคา ราคา 4,800 บาท และปริญญาตรีในราคา 9,000 บาท โดยตนสามารถทำรายได้กว่า 40,000 บาท ต่อเดือน  



ส่วนอีกปฏิบัติการล้างบางเครือข่าย “นักศึกษา-นักล่าปริญญา” ปลอมวุฒิการศึกษาส่งขายออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 ได้รับเบาะแสว่ามีผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กเพจ ชื่อ “นักศึกษา-นักล่าปริญญา” มีพฤติการณ์โฆษณารับทำเอกสารวุฒิการศึกษาปลอมผ่านโซเชียล โดยประกาศรับทำเอกสารวุฒิการศึกษาในระดับต่างๆ หากมีผู้สนใจก็จะให้แอดไลน์ตามไอดีที่ให้ไว้ในหน้าเพจ  โดยใช้บัญชีไลน์ในการติดต่อ มีอัตราค่าจัดทำเอกสารวุฒิการศึกษาปลอม ดังนี้ ระดับ ม.3 (กศน.) ราคา 1,200 บาท, ม.6 (กศน.) ราคา 1,800 บาท, ม.3 (สามัญ) ราคา 2,000 บาท, ม.6 (สามัญ) ราคา 2,500 บาท, ปวช. ราคา 2,500 บาท, ปวส. ราคา 3,500 บาท, ปริญญาตรี ราคา 6,000 บาท และ ปริญญาโท ราคา 7,000 บาท



โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนจนทราบว่า เจ้าของบัญชีเพจและไลน์ดังกล่าว คือ นายศุภณัฐ ซึ่งเป็นผู้รับออเดอร์การผลิต แล้วส่งออเดอร์ต่อให้นายณัฐชัชวิทย์ เป็นผู้ผลิตเอกสารปลอม โดยให้ลูกค้าโอนเงินผ่านบัญชีม้าจำนวน 2 บัญชี



กรณีนี้ พบว่าผู้ก่อเหตุได้ศึกษาใบวุฒิของแต่ละสถาบันไว้อย่างละเอียด หากไม่ใช่เจ้าของสถาบันหรือผู้เชี่ยวชาญ จะไม่สามารถแยกความแตกต่างของวุฒิการศึกษานั้นได้ ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุยังมีการคำนวณปีที่จบการศึกษากับอายุของผู้ที่ต้องการวุฒิการศึกษาปลอม เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิรุธที่ขัดแย้งกับอายุของผู้สำเร็จการศึกษาอีกด้วย



ต่อมา พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายค้น และหมายจับผู้เกี่ยวข้อง โดยเข้าตรวจพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2 จุดและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง จำนวน 4 ราย คือ แอดมินเพจ เจ้าของบัญชีไลน์ และเจ้าของบัญชีม้า อีก 2 ราย



ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเผยว่า การผลิตเอกสารปลอมดังกล่าว สามารถสร้างรายได้สูงถึงประมาณ 300,000 – 400,000 บาทต่อเดือน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 4,000,000 บาท ต่อปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ