แก๊งโจ๋กร่าง! รุมกระทืบเด็กวัย 15 หวิดเบ้าตาแตก ในรั้วโรงเรียน พี่สาวร้องขอความเป็นธรรม

กลุ่มวัยรุ่นนับ10 คน สุดกร่าง รุมกระทืบเด็ก อายุ 15 ปี หวิดเบ้าตาแตก โชคดีโดนขอบตา อีกนิดเดียวเข้าเบ้าตา จุดเกิดเหตุอยู่ในเขตรั้วของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง

ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากผู้ใช้รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม "ชาวตะพง รักตะพง" ข้อมูลระบุว่า

ขออนุญาต แอดมินค่ะเมื่อวานวันพฤหัสบดีเมื่อเวลาช่วง 4 โมงครึ่งได้มีทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายบริเวณในโรงเรียนวัดตะพงนอกซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นน้องชายของเราที่โดนทำร้ายร่างกาย กลุ่มที่ทำร้ายร่างกายมีประมาณ 10 คนซึ่งสาเหตุเราก็ไม่รู้หรอกว่าเกิดจากอะไรถ้า 10 คนในนั้นเป็นลูกหลานของท่านทางเราจะดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจะไม่มียกเว้นกรณีใดทั้งนั้น ณ.ตอนนี้ทางเราได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามพวกคุณใน 10 คนนี้ไม่สมควรที่จะมาทำร้ายร่างกาย ซึ่งบริเวณร่างกายนั้นที่หนักที่สุดคือดวงตาถ้าเกิดน้องชายของเราได้เสียลูกตาดวงนั้นไปพวกคุณจะมีปัญญารับผิดชอบไหมมีพยานหลายคนนะคะที่เห็นเหตุการณ์และสามารถชี้ตัวบุคคลนั้นได้ขอความผู้ปกครองลูกหลานของท่านออกมารับผิดชอบด้วยค่ะวันจันทร์จะไปพบ ผอ.ที่โรงเรียนน่ะค่ะ (ไม่ยกโทษให้ค่ะขอบคุณค่ะ)

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับผู้โพสต์ ชื่อ น.ส.วรรธิดา ศรีโชติ อายุ 24 ปี เมื่อไปถึง น.ส.วรรธิดา ได้ชี้บาดแผลที่น้องชายโดนรุมทำร้าย ที่เบ้าตามีบาดแผลบวมแดง

น.ส.วรรธิดา ยังได้โชว์ใบตรวจร่างกายและใบลงบันทึกประจำวันให้ดูด้วย โดยเธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 4/8/65 เวลา 16.30 น. น้องชายได้ไปหาซื้อของกินและเลยไปนั่งเล่นอยู่ริมสนามฟุตบอลของโรงเรียน วัดตะพงนอก ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง โดยระหว่างนั่งเล่นอยู่นั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คนเข้ามาหาและเรียกน้องชายเข้าไปหาและกล่าวหาว่า น้องชายตนไปเบิ้ลเครื่องรถ จยย.ใส่

แต่ยังไม่ทันได้ถามจนได้คำตอบ 3 คนในกลุ่มวัยรุ่นได้รุมชกต่อยน้องชายตนทันทีจนได้รับบาดเจ็บที่เบ้าตา หากเลยไปอีกนิดเดียวตงโดนตาแตก หลักจากเกิดเรื่องกลุ่มวัยรุ่นจึงพากันหนีไป ระหว่างนั้นมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์และจำได้ด้วยว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายน้องชายตน คือวัยรุ่นในตะพง นี่เอง

ต่อมาตนจึงพาน้องชายไปตรวจร่างกายและพาน้องชายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองระยอง เพื่อจะให้ตำรวจติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป



น.ส.วรรธิดา ยังบอกอีกว่าสิ่งที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว มันรุนแรงเกินไป หากน้องชายตนผิดจริง ก็แค่ว่ากล่าวตักเตือนก็พอหากทำรุนแรงแล้วเบ้าตาแตก ตาบอดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุดไม่ยอมความใดๆทั้งสิ้น

ด.ช.ต่อ นามสมมุติ อายุ 15 ปี เล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุตนไปหาซื้อของกินและไปนั่งเล่นที่ริมสนามฟุตบอลของโรงเรียนวัดตะพงนอกจริง ก่อนเกิดเรื่องมีกลุ่มวัยรุ่นมาหาว่าตนขับรถเบิ้ลเครื่องเสียงดัง ซึ่งตนขอยืนยันว่า ไม่ได้เบิ้ลเครื่องเลยและกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ไม่เคยมีเรื่องหรือบาดหมางกันมาก่อน

ด.ช.ต่อ ยังพาผู้สื่อข่าวดูรถคันที่กลุ่มวัยรุ่นกล่าวหาว่าเบิ้ลเครื่องใส่อีกและพาไปชี้จุดที่ถูกรุมทำร้ายที่บริเวณริมสนามฟุตบอล สำหรับ ด.ช.ต่อ ปัจจุบันพักการเรียนอยู่เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพเลยขาดเรียนบ่อยจึงทำให้ต้องพักการเรียนไว้ก่อน

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจุดเกิดเหตุอยู่ภายในเขตโรงเรียน แต่กลุ่มวัยรุ่นยังกล้าที่จะก่อเหตุโดยไม่ได้สนใจหรือมีความเคารพครูบาอาจารย์และยังกล้าก่อเหตุในเขตโรงเรียน

เบื้องต้นทาง ผอ.โรงเรียนวัดตะพงนอก ทราบเรื่องแล้วและจะดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มวัยรุ่นที่กล้ามาก่อเหตุต่อไปในตอนนี้รอรวบรวมหลักฐานและจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองระยองเพิ่มเติมด้วย