ยังไม่ดับสนิท! เปลวเพลิงปะทุในโกดังหลัง 3 บ.วิน โพรเสส จนท.อยู่ระหว่างเร่งควบคุม

ความคืบหน้าการ พยายามดับไฟลุก ที่ไหม้ในโกดังเก็บกากสารเคมี บริษัทวิน โพรเสส จังหวัดระยอง ซึ่งเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ล่าสุดเมื่อราว 21.00 น. ที่ผ่านมา ยังมีเปลวเพลิงปะทุอยู่ในโกดังหลังที่ 3 ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งควบคุมให้ดับสนิท


จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างพยายามเข้าไปดับเปลวเพลิงที่ยังปะทุอยู่ในบางจุดของโรงงาบริษัท วิน โพรเสส โดยเฉพาะโกดังหลังที่ 3 ซึ่งยังมีประกายไฟปะทุขึ้นเป็นระยะ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามนำดิน /ทราย/ และโฟมดับสารเคมีเข้าไปสกัดอยู่ต่อเนื่อง แต่ยังมีประกายไฟและควัน ที่เกิดจากการเผาไหม้ถังสารเคมีเกิดขึ้นเป็นระยะ


เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำ แต่ทำให้ลดความร้อนได้ด้วย ทรายหรือดินที่นำไปกลบซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพยายามลำเลียง เข้าไปกลบไว้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกโกดังที่ยังมีไฟปะทุอยู่ คือโกดังหลังที่ 5 ซึ่งเก็บสารเคมีปนเปื้อนน้ำมัน


อย่างไรก็ตาม นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ระบุว่ายังเหลือโกดังหลังที่ 3 และโกดังหลังที่ 5 รวม 2 หลัง ที่ยังดับไม่สนิท แต่เจ้าหน้าที่ก็จะเร่งดำเนินการ โดยตั้งเป้าว่าจะให้ดับสนิทได้ภายใน 5 ชั่วโมง นับจากเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา


ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ชี้แจงกับชาวบ้านว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งดับไฟให้เร็วที่สุด ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาหลังจากนี้ จะเร่งดำเนินการตามเกณฑ์ราชการ เบื้องต้นขอให้ผู้ได้รับผลกระทบแจ้งลงชื่อที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือ อบต. เพื่อรับการเยียวยา


ระหว่างนี้ชาวบ้านได้ตั้งคำถามถึงแผนการย้ายกากสารเคมีในโกดังออกไปทั้งหมด และมาตรการรับมือกรณีฝนตกหนัก ซึ่งรองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมชี้แจงว่า หลังจากไฟดับจนปลอดภัย และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บหลักฐานได้ครบ กรมโรงงานอุตสาหกรรมก็จะเร่งย้ายออก ซึ่งก่อนหน้านี้ดำเนินการแล้วตามคำสั่งศาล แต่หลังจากนี้หากงบประมาณไม่เพียงพอจะขออนุมัตงบประมาณเพิ่ม และหากระหว่างนี้มีฝนตกหนัก ก็จะใช้บ่อน้ำหน้าโรงงานเป็นที่ดักน้ำที่จะไหลออกจากโรงงานไว้ก่อน


เมื่อเช้านี้ชาวบ้านกว่า100 คน จากตำบลบางบุตร ร่วมกันลงชื่อให้ดำเนินคดีกับอธิบดีกรมโรงงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง โดยกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลย ให้โรงงานเก็บกากสารเคมีนี้ไว้จนได้รับผลกระทบมากว่า 10 ปี กระทั่งครั้งนี้ ที่เกิดเพลิงไหม้ถือว่า เดือดร้อนเป็นวงกว้าง และขอให้ภาครัฐเร่ง แก้ปัญหาด้วย


ขณะที่ร้อยตำรวจเอกวิทยา กุลบุญ รองสารวัตรสอบสน สภ.บ้านค่าย แนะนำให้ชาวบ้านตรวจสุขภาพตามที่มีหน่วยบริการมารับตรวจ แล้วนำผลการตรวจสุขภาพมา ประกอบ การแจ้งความด้วย ส่วนการดำเนินคดีกรณีเพลิงไหม้นั้น ยังเข้าไปเก็บหลักฐานไม่ได้ จนกว่าพื้นที่ จะปลอดภัยแต่ได้สอบปากคำพยาน ที่เป็นชาวบ้านและพนักงานของโรงงานไปแล้ว เพื่อประกอบสำนวนคดี


ส่วนนายโกเมน ผิวพุ่ม ผู้ช่วยอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ระบุว่าได้ทำหนังสือแจ้งไปที่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน และตัวอาคารโรงงานตามกฎหมายจดจำนอง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกากสารเคมี และได้แจ้งไปยังนายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทวิน โพรเสส ให้ขนย้ายกากเคมี ออกให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน // ส่วนกรณีที่ บริษัทวิน โพรเสส ต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดระยองอยู่นั้น เจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯจะนำเสนต่ออัยการจังหวัดระยอง เพื่อรายงานต่อศาลจังหวัดระยอง สำหรับหามาตรการทางกฎหมายทุกทางที่จะทำได้ เพื่อย้ายสารเคมีออกไปโดยเร็ว