หญิงร้องสื่อ ถูกตร.เรียกเงินหลักแสน ค่าทำคดีสามีถูกรถชนดับ

เมื่อปีที่แล้ว หญิงวัย 50 ปี ชาวอำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา สูญเสียสามีจากอุบัติเหตุที่รถจักรยายนต์ ถูกรถกระบะชนจนเสียชีวิต เธอได้ดำเนินคดีและเรียกร้อง ค่าเยียวยาจากคู่กรณีจนได้มา 1 ล้านบาท วันนี้เธอร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า เธอถูกพนักงานสอบสวนที่ทำคดีในขณะนั้น เรียกเงินค่าทำคดี 500,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าทำคดี และเธอไป ปรึกษาทนายความ ก็ยังถูกเรียกเงิน 100,000 และอีก 5,000 บาท ที่อ้างว่าเป็นค่าน้ำมัน หญิงคนนี้บอกว่าเก็บความทุกข์ใจมานานที่ไม่ได้รับ ความเป็นธรรมจึงตัดสินใจเปิดโปงเรื่องนี้

หญิงวัย 50 ปี คนนี้ เป็นลูกจ้างร้านวัสดุก่อสร้างในอำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา เธอพาผู้สื่อข่าวขึ้นไปที่สถานีตำรวจภูธรขามทะเลสอ และชี้ไปที่โต๊ะทำงาน ของพนักงานสอบสวนคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ย้ายไปที่อื่นแล้ว และตำรวจที่เหลืออยู่ขณะนี้ไม่เกี่ยวข้อง แต่เหตุการณ์นั้นเธอบอกว่า พนักงานสอบสวนคนดังกล่าว ขอเงินค่าทำคดี 500,000 บาท จากเงินที่เธอต้องได้เป็นค่าสินไหม จากคู่กรณีที่ทำให้สามีของเธอต้องตาย เป็นเงิน 1 ล้านบาท


เธอย้ำว่าพนักงานสอบสวน ยศพันตำรวจโทคนนี้ เรียกเธอมาสอบปากคำ 3 รอบ ทุกครั้งจะต่อรองเรียกเงินค่าทำคดี 5 แสนบาท เธอได้รับคำแนะนำให้รู้จักทนายความคนหนึ่ง เพื่อหวังว่าจะทำให้ตำรวจเกรงใจ โดยทนายกฎหมายทนายความว่าจะได้ร้อย 10 จากวงเงินเยียายา ก็คือ 100,000 บาท เธอจึงตกลงจะจ่ายทนายความ 1แสน เพื่อให้เป็นที่ ปรึกษากฎหมาย และทนายความไปต่อรองกับพนักงานสอบสวน จาก 500,000 เหลือ 200,000 บาท โดยอ้างว่าลดลงกว่านี้ไม่ได้แล้ว


ผู้เสียหายอธิบายต่อว่า เมื่อคู่กรณีที่ขับรถชน ตกลงยินยอมจ่ายค่าสินไหมเยียวยา เป็นเงิน 1 ล้านบาท โดยนำเช็กมาส่งให้ที่สถานีตำรวจ ปรากฎว่าพนักงานสอบสวนให้เธอ นั่งรถไปด้วยกันที่ธนาคาร โดยมีตำรวจที่เป็นลูกน้อง 2 คน ไปประสานกับธนาคารไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้นำเช็กแลกเป็นเงินสดได้ทันก่อนเวลาจะปิด ส่วนทนายความก็ไปด้วยที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาในเมืองโคราช


เธออ้างว่าเหตุการณ์นั้น ทั้งพนักงานสอบสวนและทนายความยืนประกบข้างเธอ ระหว่างเบิกเงินสดออกมา รวมเป็นเงิน 3 แสนกว่าบาท เธอต้องแบ่งให้พนักงานสอบสวน 200,000 และทนายความ 100,000 กับ 5,000 บาท ที่ทนายความบอกว่าเป็นค่าน้ำมัน


เธอระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ เธอได้ยกมือไหว้ขอความเห็นใจ จากพนักงานสอบสวนว่า อย่าเอาเงินก้อนนี้ไปเลย ขอให้ตนเองไปเอาเงินก้อนนี้ไปรักษาอาการป่วยเรื้อรัง และดูแลลูกๆ อีก 2 คน เพราะครอบครัวได้สูญเสียสามี ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว แต่เธออ้างว่าตำรวจนายดังกล่าวไม่ยอม ยืนยันว่าจะต้องได้เงินเธอจึงยอมให้เงินไป


ส่วนเหตุผลที่เธอเพิ่งมาเปิดโปงร้องเรียนเรื่องนี้ ทั้งที่เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ปีที่แล้ว เธอยืนยันว่าเป็นเพราะรู้จึกมาตลอดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และการที่เธอเป็นเพียงชาวบ้าน แล้วไม่รู้กฎหมาย ก็ไม่ควรถูกเรียกเงินจากการตายของสามี และเธอต้องการได้เงินก้อนนี้คืน


สำหรับพันตำรวจโทนายนี้ ขณะถูกร้องเรียนเป็นพนักงานสอบสวน สภ.ขามทะเลสอ แต่ได้โยกย้ายตามวงรอบปกติ ไปอยู่ที่สภ.โนนไทย จังหวัดนครราชสีมา และกรณีนี้ข่าว 3 มิติ อยู่ระหว่างพยายามติดตามสอบถาม จากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ว่า มีข้อเท็จจริงเพียงใด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับตำรวจ ที่ถูกกล่าวหาในการชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย