สธ.แถลงพบ 'โอไมครอน' รายแรกในไทย ขออย่าตระหนก ยันทั่วโลกยังไม่พบผู้เสียชีวิต

สังคม

สธ.แถลงพบ 'โอไมครอน' รายแรกในไทย ขออย่าตระหนก ยันทั่วโลกยังไม่พบผู้เสียชีวิต

โดย panwilai_c

6 ธ.ค. 2564

49 views

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงรับ ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนคนแรก และรายที่ 47 ของโลก เป็นชาวอเมริกัน ที่เดินทางมาจากประเทศสเปน ล่าสุดรอผลถอดรหัสพันธุกรรมในวันพุธนี้ (8 ธ.ค. 64) ว่าตำแหน่งกลายพันธุ์มาจากแอฟริกาหรือจากที่อื่น


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" รายแรกในไทยแล้ว เป็นชายชาวอเมริกัน เดินทางมาจากสเปน ซึ่งตรวจพบจากระบบ Test and Go โดยผลตรวจ พบว่า มีโอกาสเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสูงมาก 99.92% เพราะผลตรวจตำแหน่งกลายพันธุ์เฉพาะจุดบ่งบอกชัดเจน ทั้งนี้จะตรวจซ้ำให้ได้ 100% โดยได้ส่งตรวจห้องแล็บภาคีเครือข่าย เบื้องต้นจึงสรุปได้ว่า น่าจะเป็นผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกที่ตรวจพบในประเทศไทย


ทีมข่าวสอบถามไปยังศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี หนึ่งในห้องแล็บภาคีเครือข่าย บอกว่า ได้รับตัวอย่างเชื้อชาวอเมริกันมาตรวจเมื่อเช้านี้ โดยจะถอดรหัสพันธุกรรม 30,000 ตำแหน่ง เพื่อหาจุดกลายพันธุ์ ว่ามาจากแอฟริกาหรือจากที่อื่น ซึ่งจะทราบผลในวันพุธนี้


นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับเคสยืนยันรายแรก สายพันธุ์โอมิครอน ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ หรือน้อยมาก แทบไม่มีอาการ และ ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ตอนแรกรับผลเลือด ผลเอกซเรย์ปกติ แต่ตรวจเจอเชื้อ และเมื่อได้ตรวจสอบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือไม่ พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เนื่องจากผู้ป่วยค่อนข้างระมัดระวังตัว ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และบนเครื่องบินนั่งคนเดียว ไม่มีคนนั่งข้างๆ มาถึงอยู่โรงแรม ทำระบบไม่กักตัว(Test and Go) ซึ่งเขาสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา


สำหรับผู้ป่วยคนแรกนี้ เป็นผู้ชาย อายุ 35 ปี ชาวอเมริกัน ฉีดวัคซีน J&J 1 เข็ม จาก USA วันที่ 28 มิ.ย.64 /อาศัยอยู่ที่สเปน 1 ปี อาชีพ นักธุรกิจ ไม่มีโรคประจำตัว มีผู้สัมผัส ทั้งหมด 19 คน แบ่งเป็น ที่โรงแรม 17 คน และพนักงานในสนามบิน 2 คน


ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกนี้ วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา / ตรวจ PCR ที่สเปน ผลไม่พบเชื้อ /ไปทานข้าวกับเพื่อน (เพื่อนไม่มีอาการจนถึงปัจจุบัน)


วันที่ 29 พ.ย.64 เดินทางมากรุงเทพฯ โดยบินจากสเปน ไปดูไบ (สายการบิน EK142) / พักที่ดูไบ 9 ชม. ไม่ได้พูดคุยกับใคร สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา


วันที่ 30 พ.ย.64 บินจากดูไบ มาถึงกรุงเทพฯ (สายการบิน EK372) หลังจากลงเครื่อง เวลาเที่ยงคืน ได้ตรวจเชื้อแบบ Drive thru ที่รพ.คู่สัญญา (รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง) และกลับเข้าโรงแรม (ผู้ป่วยเข้าโครงการ Test&GO)


วันที่ 1 ธันวาคม 64 ได้รับแจ้งจาก รพ.ว่า ตรวจพบเชื้อโควิด-19 แต่มีจุดต้องสัย 2 จุดที่มีโอกาสสูงมาพบเชื้อกลายพันธุ์


วันที่ 3 ธ.ค.64 เก็บตัวอย่างเชื้อใหม่ เพื่อตรวจยืนยัน ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์


ล่าสุด วันนี้ (6 ธ.ค.64) สธ.แถลงยืนยัน ผล 99.92% มีเชื้อสายพันธุ์ "โอมิครอน"


แต่ก็มีประเด็นดราม่าที่เกิดจากการแถลงข่าว ของกระทรวงสาธารณสุข และข้อมูลของ ศบค.ด้วย เพราะไม่ตรงกัน คือ ในเพลทไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโอมิครอน ประกอบการแถลงข่าวของกรมควบคุมโรค จะระบุว่า "ชายไทย" อายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน ขณะที่ต่อมา ทาง ศบค. ได้เผยแพร่ข้อมูลไทม์ไลน์ชายรายนี้ กลับระบุเพียงว่า "ชาย อายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน" ไม่มีคำว่า "ไทย"


ทำให้เกิดข้อสังสัยว่าตกลงเป็นชายไทยหรือไม่ ซึ่งทีมข่าวก็พยายามสอบถามไปทั้งทางกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ


ความไม่ชัดเจน หรืออาจจะเรียกได้ว่า ข้อมูลสับสน นี้ ยังมีในตอนที่ นพ.โอภาส แถลงอัพเดทข้อมูลเรื่องโอมิครอนด้วย โดยตอนแถลงบอกว่า "คล้ายไข้หวัดใหญ่" แต่ชาร์ทประกอบที่ขึ้นมา ระบุว่า "ไข้หวัด" เฉยๆ ไม่มีคำว่า "ใหญ่"


โดย นพ.โอภาส ได้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอน ที่สำคัญคือ

- แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2.5 เท่า

- ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย คล้ายไข้หวัดใหญ่ (หมอโอภาสพูดว่า ไข้หวัดใหญ่ แต่ในชาร์ทขึ้นแค่ "ไข้หวัด" ไม่มีใหญ่)

- ส่วนใหญ่ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล

- ทั่วโลก ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเชื้อโอมิครอน


สายพันธุ์โอมิครอน เป็นที่จับตาจากทุกฝ่าย วันนี้ (6 ธ.ค. 64) เฟซบุ๊คส่วนตัวของนายแพทย์จิรารุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์ข้อความสั้นๆ ไว้ก่อนที่จะมีการแถลงของกระทรวงสาธารณสุข ว่า "ข้อมูลเบื้องต้น "โอมิครอน" มีแนวโน้มติดเด็กมากขึ้น แต่ความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ยังไม่ชัดเจน


ด้านเพจ Drama-addict แชร์ข้อมูล เตือนคนไทยอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ข้อมูลของโอมิครอน กำลังเข้ามาเรื่อยๆ แต่แนวโน้มตอนนี้ ที่ตรงกันคือ อาการค่อนข้างเบา ยังไม่มีใครเสียชีวิตจากโอมิครอน อัตราการแอทมิทในกลุ่มประชากรทั่วไปน้อย และหายไว 2 วันหาย ส่วนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ #โอไมครอน ก็ขึ้นอันดับ 1 ไปอยู่ที่กว่า 108K ไปแล้ว ล่าสุด


สำหรับมาตรการของไทยในการควบคุมสถานการณ์เชื้อโควิดกลายพันธุ์ "โอมิครอน" โฆษกรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี จะมีการหารือต่อที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค. 64) แต่ขณะนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนนโยบายใดๆ


โฆษกรัฐบาล ยืนยันว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย รวมถึงกระบวนการการเฝ้าระวัง คัดกรอง ที่มีประสิทธิภาพและเข้มข้นอยู่แล้ว และความสามารถในการวินิจฉัยโรค ได้อย่างรวดเร็ว


จึงขอให้ประชาชนตระหนักแต่อย่าตระหนก และให้เคร่งครัดกับมาตการการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือให้สะอาด จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ รวมทั้งขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนที่รัฐจัดหาให้โดยเร็วด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News