ศบค.ขอความร่วมมือปชช.ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีน เน้นย้ำผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตรวจ RT-PCR ด่วน

สังคม

ศบค.ขอความร่วมมือปชช.ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีน เน้นย้ำผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตรวจ RT-PCR ด่วน

โดย panisa_p

1 ธ.ค. 2564

134 views

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า สัปดาห์นี้ยังให้เป็นสัปดาห์ที่ฉีดวัคซีนโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 64 ซึ่งเป็นวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขจนถึงวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันพ่อ โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ฉีดไปแล้ว 93,536,449 โดส ซึ่งจำนวนประชากร 67 ล้านคน ฉีดเข็มที่ 1 ได้ 72.22%


แต่หากเป็น 72 ล้านคนที่มีประชากรแฝงด้วยนั้น ฉีดได้ 67.24% โดยความพยายามของกระทรวงสาธารณสุขและภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงอยากเพิ่มยอดให้ได้ โดยมีจำนวน 1 จังหวัดที่ฉีดได้ 40% ถึง 49.99% คือ แม่ฮ่องสอน ฉีดได้ 45.92%


จำนวนจังหวัดที่ฉีดได้ 50% ถึง 59.99% มี 26 จังหวัด อาทิ ขอนแก่น แพร่ อุบลราชธานี ชัยภูมิ สิงห์บุรี สระแก้ว สตูล สิงห์บุรี และนครนายก เป็นต้น จังหวัดที่ฉีด 60% ถึง 69.99% มี 27 จังหวัด และจังหวัดที่ฉีดได้ 70% ขึ้นไปมีทั้งหมด 23 จังหวัด


จึงขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ เหล่านี้เดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งคนใดคนหนึ่งฉีดวัคซีนไม่ได้ช่วยทำให้สังคมปลอดภัย ประเทศต้องได้ 70% ขึ้นไป รวมถึงเข็มสองด้วย จึงจะทำให้มีภูมิ ซึ่งขณะนี้มีเชื้อโอไมครอนเข้ามา การฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงของโรคได้บ้าง ซึ่งเรื่องนี้พูดตามหลักทั่วไป


ด้านการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พ.ย. จำนวน 133,061 ราย พบการติดเชื้อ 171 ราย ทาง Test and go ซึ่งระบบนี้เข้ามา 106,211 ราย พบการติดเชื้อ 83 ราย คิดเป็น 0.08% โดยโครงการทั้งหมดพบผู้ติดเชื้อ คิดเป็น 0.13% ซึ่งถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่าที่เราจะให้มาตรการเหล่านี้คงต่อ และให้มีผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ เพื่อนำเม็ดเงินต่าง ๆ เข้ามาในประเทศไทยช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงของปลายปีนี้


แต่อย่างไรก็ตามมีเรื่องของโอไมครอนขึ้นมาก็ต้องมีมาตรการที่เน้นย้ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเห็นชอบด้วยกันว่าต้องเข้มเหมือนเดิม จากเดิมที่มีการผ่อนคลายให้ใช้ ATK ต้องกลับไประดับเท่าเดิม โดยการใช้ RT-PCR ต้องใช้มาตรฐานการตรวจสูงที่สุดเท่าที่เราจะควบคุมโรคได้


ด้าน 10 ประเทศอันดับแรกที่เดินทางเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ จำแนกตามประเทศต้นทาง อาทิ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ UAE และอิสราเอล ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญกับแต่ละประเทศ เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนมาจากทางประเทศแอฟริกาใต้ แต่เห็นว่าประเทศที่รายงานเหล่านี้ยังไม่มีการรายงานจากคนที่เดินทางเข้ามา ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญกับมาตรการที่เราจะต้องจัดการ


โดยที่ประชุมสาธารณสุขเมื่อเช้านี้ให้กรมควบคุมโรครายงานถึงลักษณะของตัวเชื้อและความรุนแรงของโรค เบื้องต้นไม่พบว่าแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น แต่เรื่องของไม่สูญเสียการรับกลิ่นรส ซึ่งยังเจอน้อย อาการป่วยไม่มี แต่มีการรายงานเสียชีวิตแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า วัคซีนยังสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้ จึงต้องเน้นย้ำผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน คนทางภาคอีสานชวนกันเข้ามาฉีดวัคซีน


ซึ่งข้อมูลผู้เดินทางจากทวีปอเมริกาตั้งแต่วันที่ 15 - 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ยังคงค้างอยู่ในประเทศไทย 252 ราย ซึ่งที่ประชุมสาธารณสุขและที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก เน้นย้ำและประชาสัมพันธ์บอกกับประชาชนคนไทยและคนต่างชาติที่มาพำนักในประเทศไทยจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 8 ประเทศ ขอให้มารายงานตัวเพื่อเข้ารับการตรวจ RT-PCR ฟรี โดย 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยงทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปว่า ไม่อนุญาตให้มีการเข้าราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป


โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาสมช.ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. ฝากมาว่า เราอยากเปิดประเทศอยากให้กิจการ กิจกรรมทำได้ในทุกที่ โดยให้มีมาตรฐาน Sha หรือ Sha+ และ Thai stop covid ฝากทุกคนช่วยดูแลและปรับร้านตัวเองให้ขึ้นมาในระดับดังกล่าว เพราะหากเปิดการขาย ลูกค้ารวมถึงตัวเราเองจะปลอดภัย ซึ่งกทม.มีผลการตรวจร้านอาหาร ทั้งหมด 15,840 แห่ง ตรวจไป 10,161 ครั้ง มีการตักเตือน 619 ราย ดำเนินคดี 6 ราย และสั่งปิด 1 ราย รวมถึงมีการตักเตือนการดื่มสุราร้านที่ไม่มี SHA จำนวน 172 แห่ง

คุณอาจสนใจ

Related News