ตำรวจไม่เชื่อ หัวหน้าคลังสินค้าอ้างแค้นนายจ้าง วางเพลิงโกดังน้ำมัน พุ่งปมทำลายหลักฐาน

สังคม

ตำรวจไม่เชื่อ หัวหน้าคลังสินค้าอ้างแค้นนายจ้าง วางเพลิงโกดังน้ำมัน พุ่งปมทำลายหลักฐาน

โดย nicharee_m

1 ธ.ค. 2564

289 views

ตำรวจยังเร่งสอบขยายผล หัวหน้าคลังสินค้าบริษัทประภากรออยล์ หลังไม่เชื่อวางเพลิงเพราะโกรธแค้นนายจ้าง โดยพุ่งปมอาจต้องการเผาทำลายหลักฐาน เตรียมนำตัวฝากขังศาลพร้อมคัดค้านประกันตัว เพราะโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต


จากกรณีเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำมันเครื่อง ของบริษัท ประภากรออยล์ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาท และต่อมาตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบหลักฐานสำคัญ คือ พบภาพนางสาวสิราสินี ซึ่งเป็นหัวหน้าคลังสินค้า อยู่ในจุดเกิดเหตุเพียงลำพัง และเมื่อเดินออกมาก็เกิดเพลิงไหม้


โดยตอนแรกนางสาวสิราสินี อ้างว่าเจอกับคนร้าย 2 คน ที่เข้าไปวางเพลิง จนเกิดการต่อสู้กันและได้รับบาดเจ็บที่แขน แต่หลังจากถูกตำรวจสอบเค้นอย่างหนัก จึงรับสารภาพว่า เป็นคนวางเพลิงเอง โดยใช้กระดาษเอสี่ จุดไฟแล้วนำไปวางไว้ภายในโกดัง จนเกิดเพลิงลุกไหม้ และขณะหนีเกิดล้มและถูกแก้วบาด


ส่วนสาเหตุเพราะคับแค้นใจที่ถูกนายจ้างดุด่า แต่ตำรวจไม่ปักใจ เชื่อ โดยกำลังสืบสวนเพิ่มว่า นางสาวสิราสินี ก่อเหตุเพราะต้องการทำลายเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในบริษัทหรือไม่นั้น


เมื่อช่วงสายวันนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวนางสาวสิราสินี ผู้ต้องหาในคดีนี้ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยที่ผู้ต้องหา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ


จากนั้น พลตำรวจโทธนายุฒม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวภายหลังการสอบปากคำผู้ต้องหา โดยบอกว่าพนักงานสอบสวน จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมในอีกหลายประเด็น โดยเฉพาะสาเหตุที่วางเพลิงครั้งนี้ ว่ามาจากสาเหตุอะไร แต่ในรายละเอียดคงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะกระทบสำนวนการสอบสวน


นอกจากนี้จะต้องไปตรวจสอบเรื่องการทำประกันของบริษัทประภากรออยล์ ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรและเอกสารเป็นอย่างไรบ้าง ยืนยันคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน แลนอกจากหลักฐาน คือภาพจากกล้องวงจรปิด และ ชุดที่ผู้ต้องหาสวมใส่วันเกิดเหตุแล้ว ยังมีหลักฐานอีกหลายอย่าง ที่จะเอาผิดผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน


เบื้องต้นดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ซึ่งข้อหานี้มีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ข้อหาให้การเท็จกับเจ้าพนักงาน และ แจ้งความเท็จกับเจ้าพนักงาน หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และหากได้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี


มีรายงานว่า ตำรวจอยู่ระหว่างเรียกพนักงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเอกสารการเงิน ที่ผู้ต้องหารับผิดชอบ หลังยังไม่ปักใจเชื่อว่า เป็นการวางเพลิงเพราะโกรธแค้นที่ถูกนายแจ้งต่อว่า แต่อาจเป็นประเด็นเรื่องของการเผาทำลายเอกสารบางอย่างเพื่อปกปิดความผิด


นอกจากนี้บริษัทประภากรออยล์ ยังเคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้ว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยขณะนั้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับครั้งแรกหรือไม่


ส่วนบริษัทประภากรออยล์ เบื้องต้นพบว่า ทางจังหวัดนครปฐม สั่งระงับใบอนุญาตให้มีการเก็บน้ำมันเครื่องตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2564 ซึ่งหลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบว่าทางบริษัทยังดำเนินการได้อย่างไร และมีการเก็บน้ำมัน รวมถึงมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่

คุณอาจสนใจ

Related News