ประเทศญี่ปุ่น ออกมายืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ "โอไมครอน" รายแรก เดินทางมาจากประเทศนามิเบีย เพิ่งเดินทางถึงญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่คำสั่งปิดประเทศจะมีผลบังคับใช้วันนี้ ส่วนออสเตรเลียต้องเฝ้าระวังหนัก เพราะพบเชื่อในนักเดินทางที่เข้าประเทศแล้ว 5 ราย

หัวหน้าคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อเป็นชายวัย 30 ปี ตรวจพบติดเชื้อโควิด ขณะเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะใกล้กรุงโตเกียวเมื่อวันอาทิตย์ และได้ถูกกักตัวในศูนย์การแพทย์ และหลังจากถอดรหัสพันธุกรรม ซึ่งผลออกมาวันนี้ก็พบว่า ติดเชื้อ"โอไมครอน" ทางญี่ปุ่นไม่ได้ระบุสัญชาติผู้ติดเชื้อ ขณะที่สำนักข่าวซินหัว ระบุว่า นักการทูตชาวนามิเบีย ทั้งนี้ญี่ปุ่นเริ่มปิดประเทศไม่ให้นักเดินทางต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน

ขณะที่สิงคโปร์ หน่วยงานที่รับผิดชอบรับมือสถานการณ์โควิด นายน์ทีน ออกมายืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ"โอไมครอน"ในสิงคโปร์ ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สาธารณสุขสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผู้โดยสาร 2 คน บนเที่ยวบินจากนครโจฮันเนสเบิร์ก ของแอฟริกาใต้ ที่พบว่า ติดเชื้อ "โอไมครอน" ได้แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางงี ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังนครซิดนีย์ ซึ่งจากการตรวจเชื้อที่สนามบินชางงี ทั้งคู่ มีผลตรวจเป็นลบ

ขณะที่ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ต้องเฝ้าระวังอย่างหนัก และเตรียมรับมือกับโควิดกลายพันธุ์"โอไมครอน" เนื่องจากตอนนี้พบนักเดินทางที่เข้ามาออสเตรเลียติดเชื้อนี้แล้ว 5 คน และตอนนี้ต้องรอผลตรวจ นักเดินทางต้องสงสัยรายล่าสุดว่า ติดเชื้อโอไมครอนหรือไม่ ซึ่งนักเดินทางรายนี้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับชุมชนในซิดนีย์ด้วย

เจ้าหน้าที่รอผลตรวจผู้ติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งเข้ามายังออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะปิดพรมแดน หากตรวจพบว่า เชื้อโควิดที่ติดคือ "โอไมครอน" ก็จะเป็นนักเดินทางรายที่ 6 ที่พบในออสเตรเลีย และที่น่าวิตกไปกว่านั้นคือ ผู้ติดเชื้อต้องสงสัยรายนี้เข้าไปเดินในย่านจับจ่ายซื้อของในซิดนีย์ ตอนนี้กำลังตรวจสอบไทม์ไลน์อย่างละเอียดว่า เขาเดินทางไปที่ใดบ้าง และอยู่ใกล้ชิดกับใครบ้าง-สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโอไมครอนในออสเตรเลีย 5 คนแรก ฉีดวัคซีนแล้วและส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ผู้ที่แสดงอาการก็จะไม่รุนแรง และนักเดินทางต้องสงสัยรายที่ 6 ก็ฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน (เอพี Australia Virus Morrison)

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสัน บอกว่า ออสเตรเลียจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ มาตรการที่ใช้ขณะนี้เป็นเพียงชั่วคราว ซึ่งรัฐบาลจะรอนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษาโควิดโอไมครอน อย่างละเอียดว่า มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และวัคซีนที่มีอยู่สามารถรับมือได้หรือไม่ ก่อนที่รัฐบาลจะดำเนินมาตรการอะไรต่อไป แต่ก็มั่นใจว่า จะมีการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสในปีนี้อย่างแน่นอน-เมื่อวานนี้ออสเตรเลียได้เลื่อนการเปิดประเทศที่จะให้นักศึกษาต่างชาติและผู้อพยพที่มีทักษะเข้าประเทศออกไปอีก 2 สัปดาห์ รวมไปถึงมาตรการทราเวล บับเบิ้ล (Travel Bubble) กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ออกไปอีก 2 สัปดาห์เช่นกัน

ขณะที่หลายประเทศกำลังเฝ้ารอผลการศึกษาโอไมครอนอย่างละเอียด โดยเฉพาะกรณีเรื่องวัคซีน ล่าสุดวันนี้ซีอีโอของบริษัทโมเดอร์น่า ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชี่ยล ไทมส์ (Financial Times) ว่า มีแนวโน้มว่า บรรดาวัคซีนที่มีอยู่จะต้านทาน"โอไมครอน" ได้น้อยกว่า"เดลต้า"