พ่อเลี้ยงโฉด ทารุณเด็ก 6 ขวบ สารพัดวิธี อาการสาหัส ผู้เป็นแม่ยันรักลูก ปรามสามีเท่าที่ทำได้

สังคม

พ่อเลี้ยงโฉด ทารุณเด็ก 6 ขวบ สารพัดวิธี อาการสาหัส ผู้เป็นแม่ยันรักลูก ปรามสามีเท่าที่ทำได้

โดย pattraporn_a

26 พ.ย. 2564

309 views

สุดสะเทือนใจ เด็กชายวัย 6 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายชกตาเขียว ซี่โครงหัก กะโหลกร้าวต้องนอนโรงพยาบาลเป็นสัปดาห์ ตายายไปแจ้งความตั้งแต่กลางเดือนกันยายนแต่คดีไม่คืบ ล่าสุดทีมข่าวได้คุยกับแม่ของเด็ก ยอมรับว่าทำจริง แต่เคลียร์กับตายายแล้วไม่เอาความ



มีภาพเด็กชายวัย 6 ขวบที่เพื่อนข้างห้องบันทึกไว้ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่ดวงตาข้างขวาช้ำจนตาปิด ตามร่างกายมีบาดแผลถูกทำร้ายหลายแห่ง


นอกจากภาพนี้แล้ว ยังมีภาพที่หนูน้อยคนนี้อาบน้ำ จะเห็นร่องรอยบาดแผลทั่วทั้งตัว ทั้งจากการตี และเอาไฟแช็คลน ไม่เว้นแม้แต่อวัยวะเพศ ซึ่งน้องบอกว่าเคยถูกหนังยางรัดจนเป็นแผล



แต่ที่น่าสะเทือนใจที่สุดคือ เด็กชาย 6 ขวบคนนี้เคยถูกเตะ กระทืบ  บังคับกินพริกแห้ง พริกสด จัดกดน้ำ กินข้าวบนพื้น  บังคับดื่มปัสสาวะ  ลุกนั่ง 1,000 ครั้ง  และที่เด็กเล่าให้ตายายฟัง คือ บังคับให้กินอุจจาระของพ่อเลี้ยง


พลเมืองดีที่ไปช่วยน้องออกมาบอกว่า น้องมาอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงที่คอนโดมิเนียม ในซอยอินทรามระ 41 ประมาณเดือนพฤษภาคม ด้วยความที่สนิทกับแม่เด็ก จึงนำลูกคนเล็กที่เพิ่งคลอด และเด็กชายคนนี้มาฝากเลี้ยง ช่วง 2 เดือนแรกก็ลงมาวิ่งเล่นปกติ แล้วก็ไม่ลงมาอีก พอเธอซื้อขนมไปฝาก แม่เด็กก็พยายามไม่ให้เจอ อ้างว่าหลับบ้าง แต่เพื่อนข้างห้องบอกว่า ได้ยินเสียงเด็กร้องตลอด แม้แต่ตอนที่เธอไปเลี้ยงลูกคนเล็กให้ ยังเคยเห็นทั้งคู่ทำร้ายน้องต่อหน้า หนักสุดคือช่วงเดือนสิงหาคม มีเสียงน้องร้องเกือบทุกวัน มีบาดแผลทั่วตัว จึงตัดสินใจว่าต้องช่วยน้องออกมาให้ได้


4 กันยายน เธอมีนัดฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงวางแผนกับเพื่อนอีก 2 คน ว่าจะหลอกพ่อแม่น้อง ว่าจะพาน้องมาเที่ยวที่จังหวัดอ่างทองด้วย พอได้ตัวน้องมาก็พากลับอ่างทองทันที และพาเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในวันที่ 5 กันยายน



พบว่า มีรอยช้ำที่หน้าท้อง 10-15 เซนติเมตร ที่ด้านขวาบน ซ้ายบน และซ้ายล่าง รอยฟกช้ำตามแขนขามากกว่า 10 ตำแหน่ง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 5-10 เซนติเมตร


ผลการเอ็กซเรย์ พบซี่โครงหัก 4 ซี่  กระดูกเชิงกรานหัก มีเลือดออกในสมองส่วนหน้า  มีรอยฟกช้ำบริเวณผิวหนังกะโหลกส่วนนั้น ตับฉีกและมีเลือดออกในช่องท้อง ท้ายใบชันสูตรแพทย์ระบุว่า ใช้เวลารักษาไม่น้อยกว่า 4 เดือน



ระหว่างที่น้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เธอพยายามค้นหาเฟซบุ๊กของแม่เด็ก และติดต่อหาญาติของหนูน้อยคนนี้ เพื่อให้มารับตัวเด็กไป ไม่ให้อยู่ในความดูแลของแม่อีก จนกระทั่งติดต่อ ตากับยายที่จังหวัดภูเก็ตได้ ก็เดินทางมาดูแลน้องวันที่ 7 กันยายน


11 กันยายน ตาและยายของเด็ก ไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร พื้นที่เกิดเหตุ ที่น้องโดนทำร้าย โดยระบุว่า ผู้ตองหาที่ลงมือ เป็นพ่อเลี้ยง โดยลงมือทำร้ายเด็ก เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 กันยายน


แต่เหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 2 เดือน กลับยังไม่มีการแจ้งข้อหา ทำให้ยายของเด็กชายที่โดนทำร้าย ร้องเรียนมายังช่อง 3 ผ่านทางคุณหนุ่ม กรรชัย ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ให้ช่วยติดตามความคืบหน้า ขณะที่แม่เด็กและสามีใหม่ได้ย้ายออกจากหอไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม


นักข่าวช่อง 3 ได้เข้าพูดคุยกับแม่ของเด็กชายคนนี้ทางโทรศัพท์ เธอยอมรับว่า มีการทำร้ายร่างกายลูกชายจริง แต่บางเหตุการณ์ที่พลเมืองดีให้ข้อมูลก็เกินจริง และที่ย้ายออกจากหอพักก็ไม่ได้หลบหนี แต่ได้งานที่ใหม่


ส่วนที่สามีใหม่ทำร้ายลูก ก็ยอมรับว่ามีบ้าง เธอพยายามห้ามแล้ว และที่ลูกได้ไปโรงพยาบาล เพราะเธอเป็นคนร้องขอไปเอง เธอก็รักลูก และไม่ได้รักสามีใหม่มากกว่าลูกด้วย


ด้านคดีความที่ตาของเด็กไปแจ้งความ สามีใหม่ได้เจรจากับตาจนเข้าใจแล้ว โดยตาจะไม่เอาเรื่อง แต่เด็กต้องอยู่กับตายาย ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยติดต่อลูก เพราะถูกตายายของเด็กบล็อกทุกช่องทาง


เมื่อสอบถามไปยัง รองผู้กำกับการสอบสวน สน.สุทธิสาร ยืนยันว่า ไม่ได้ละเลยคดี เพราะตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน ที่คุณตาของเด็กได้พาเด็กมาแจ้งความ พนักงานสอบสวนทำหนังสือเชิญคุณตามาให้ปากคำเพิ่มเติม และเตรียมประสานสหวิชาชีพมาสอบปากคำเด็ก แต่เด็กย้ายไปอยู่จังหวัดภูเก็ต


ประกอบกับช่วงที่มีการระบาดของ โควิด-19 ทำให้ทางฝ่ายคุณตายังไม่สามารถเดินทางมาให้ข้อมูลได้ ล่าสุดได้ส่งคำถาม ไปยังสถานีตำรวจภูธรกระทู้ จังหวัดภูเก็ต เพื่อเชิญคุณตาของเด็กมาให้ข้อมูลแล้ว และประสานไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดอ่างทอง และภูเก็ตเพื่อขอผลตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดของเด็กมาประกอบสำนวนคดี จากนั้นจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อหาต่อไป


ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/XRrPAPQjAt8

คุณอาจสนใจ

Related News