ปีแห่งความสูญเสียของ ‘รัศมีแข’ หลังคนในครอบครัวจากไป 3 คน ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งตนเองไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานศพได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด

เรื่องราวของรัศมีแข ซึ่งต้องบอกว่า ปีนี้ถือเป็นปีแห่งความสูญเสียเลยทีเดียว เพราะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปถึง 3 คน

ไม่ว่าจะเป็นคุณน้า ที่จากไปเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม จากนั้นเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ต้องสูญเสียคุณพ่อผู้ให้กำเนิดชาวเซเนกัล ทั้งที่เพิ่งตามหากันเจอ และ รัศมีแขตั้งใจไว้ว่า หลังหมดโควิดจะบินไปหาคุณพ่อ แต่สุดท้ายยังไม่ทันได้เจอกัน คุณพ่อก็จากไปก่อนด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ และเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็ยังต้องมาสูญเสียคุณย่าที่รัศมีแขรักมากๆ ซึ่งท่านอยู่ที่สวีเดนไปอีกคน

เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสเจอรัศมีแข เจ้าตัวก็เผยถึงสภาพจิตใจตอนนี้ว่า ก็ยังงงๆ มึนๆ อยู่ ไม่คิดว่าจะต้องพบกับความสูญเสียติดๆ กันขนาดนี้ ก็พยายามตั้งสติให้ได้เร็วๆ เพราะตัวเองอยู่เมืองไทยคนเดียว ครอบครัวอยู่ที่สวีเดนหมดเลยรวมถึงสามีด้วย โดยรัศมีแข บอกว่า งานศพทั้ง 3 งาน ทั้งงานคุณน้าที่เชียงราย , งานศพคุณพ่อที่เซเนกัล และงานศพคุณย่าที่สวีเดน ตนเองไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้เลย เพราะด้วยสถานการณ์โควิด ซึ่งถ้าเดินทางไป แล้วขากลับมาก็ต้องกักตัว ก็จะมีผลกระทบกับงานไปด้วย

ซึ่งจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้รัศมีแขเข้าใจชีวิตได้เลยว่า เงินทองที่ตัวเองหามาได้จากการทำงาน มันไม่มีค่าเลยกับครอบครัวที่ตัวเองต้องเสียไป ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถซื้อครอบครัวได้ หลังจากนี้เจ้าตัวก็เลยตั้งใจว่า จะนำเงินที่หามาได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน บินไปหาครอบครัวให้ได้มากที่สุด หรือถ้าตัวเองบินไปไม่ได้ ก็จะซื้อตั๋วให้ครอบครัวที่สวีเดนบินมาหาตนเองแทน แต่ยังไม่คิดถึงขั้นจะย้ายกลับไปอยู่ที่สวีเดนเป็นการถาวร เพราะยังรักงานในวงการบันเทิงอยู่ แต่ถ้าวันไหนไม่มีใครจ้าง หรือตัวเองหมดอายุในวงการบันเทิงแล้ว ก็คงกลับไปใช้ชีวิตที่สวีเดน

ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดีกับไฮโซแชมป์ ตอนนี้ก็ยังเดินทางไปขึ้นศาลไม่ได้ เพราะด้วยสถานการณ์โควิด ส่วนกับน้ำหวาน เดอะเฟซ ซึ่งมีซีรีส์ที่ต้องกลับมาร่วมงานกัน รัศมีแขบอกว่า ตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไรกับน้ำหวานเลย เพราะน้ำหวานไม่ได้เป็นคนทำร้ายตนเอง ก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำหวาน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/oihx_97PRsw