กรณีเพจเฟซบุ๊ก 'จือปาก' โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพว่า เคสนี้น่ากลัวมาก ฝากแชร์กันหน่อยนะคะ "หนูมีเรื่องขอความช่วยเหลือคะ คือหลานสาวหนู อายุ 3 ขวบ เป็นลูกของน้องสาวคนละแม่กับหนู ส่วนตัวไม่ได้สนิทกัน แฟนเขาเพิ่งออกมาจากคุก ทำร้ายร่างกายลูกตัวเองสาหัส เยื่อหุ้มในสมอง อักเสบ ตามร่างกายมีแต่รอบแผล ถูกบุหรี่จี้ตามตัว เอาน้องไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตอนเค้าอาการ แย่แล้ว หมดสติ ตอนนี้คดียังไม่คืบหน้าเลยคะ มี หลานชายอีกคนที่ยังอยู่กับเค้า ไม่รู้จะเป็น อย่างไรบ้าง

ด้านนางมานิตย์ ยายเด็กหญิง 3 ขวบ บอกว่า เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดูแลเด็กที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีได้โทรศัพท์เข้ามาหาตนและแจ้งว่า ตอนนี้หลานสาวอายุ 3 ขวบ อยู่ที่โรงพยาบาล แม่ของเด็กเป็นคนพามารักษาตัว สภาพสาหัสหมดสติตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2564

และแจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าตากับยายเป็นคนทำร้ายหลาน ให้คุณหมอช่วยรักษาตัวเด็กหน่อย หลังจากนั้นแม่เด็กได้หายไปและทิ้งเบอร์ติดต่อของยายไว้ ทางโรงพยาบาลจึงโทรมาแจ้งอาการของน้อง

หลังจากที่ตนทราบเรื่องก็ตกใจและร้องไห้ รีบออกไปดูหลานที่โรงพยาบาล ตอนที่พบหลาน สงสารหลานมาก เพราะคุณหมอเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แม่เด็กนำตัวมาส่งเด็กหมดสติ เหยื่อหุ้มสมองอักเสบ ร่างกายมีรอยบุหรี่จี้ น่าตาปูดบวมเขียวช้ำ เห็นสภาพของหลานตนเสียใจมากในสิ่งที่พ่อแม่ของเด็กทำ ซึ่งตนเชื่อว่า พ่อของเด็ก เป็นคนทำร้ายหลานจนได้บาดเจ็บ อย่างแน่นอน เนื่องจากพ่อของเด็กเพิ่งออกมาจากคุกและทั้งเสพยาเสพติด

จนตอนนี้หลานสาว เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เมื่อวันพุธ 20 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา แต่คดียังไม่คืบ และสภาพจิตใจของหลานยังไม่ดีหวาดระแวงและบ่นกลัวคนเป็นพ่อทำไมต้องทำหนูตลอดเวลา ส่วนทางด้านคดียังไม่คืบอย่างน้อยควรส่งนักสังคมสงเคราะห์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือและติดตามพ่อแม่ของเด็กมารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ

ทีมข่าวสัมภาษณ์นางสาว อธิชา สิงหนาม ลูกพี่ลูกน้องกับน้องอายุ 3 ขวบ เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตากับยายของน้องอายุ 3 ขวบ ได้โทรมาปรึกษา กรณีที่หลานสาววัย 3 ขวบถูกพ่อแม่ทำร้ายร่างกายอาการบาดเจ็บสาหัส และนำตัวไปปล่อยไว้ที่โรงพยาบาลพร้อมกล่าวหาว่าตากับยาย เป็นคนทุบตีหลานให้ได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส หลังจากตากับยายได้เข้าแจ้งความไว้แต่คดียังไม่คืบคาดว่าพ่อแม่เด็กเป็นคนกระทำในครั้งนี้ ตนจึงฝากเรื่องราวร้องทุกข์มายัง เพจโหนกระแส

ส่วนก่อนหน้านี้พ่อแม่และเด็กได้ย้ายออกจากบ้านตายายไปอาศัยอยู่เป็นครอบครัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว และพ่อแม่เด็กมีนิสัยติดยาเสพติด ส่วนสาเหตุที่ทำตนไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไรแต่มันร้ายแรงมากและอยากให้พ่อแม่ของเด็กออกมามอบตัวพูดความจริง

ต่อมาทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้ติดต่อไปยังเบอร์พ่อของเด็กมีผู้รับสายแต่อ้างว่าติดประชุม อ้างว่าไม่รู้เรื่อง อ้างว่าไม่ใช่พ่อของเด็ก และตัดสายทีมข่าวทิ้ง หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้อีกเลย ก็ถามไปที่ตากับยายยืนยันว่าเป็นเสียงพ่อของเด็ก