คดีการเสียชีวิตของน้องเหนือ วัยแปดขวบที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนเสียชีวิต ตำรวจ สภ.หนองแค ได้คุมตัวทำแผน และสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนนำตัวส่งเรือนจำ เจ้าตัวไม่ปริปากขอโทษ หรือพูดอะไร พบพฤติกรรมโหดบังคับกินฉี่ กินอ้วก และกินอุจจาระ

(21 ต.ค.) ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ตำรวจ สภ.หนองแค คุมตัวนายวิรัช แซ่เอ้ง พ่อเลี้ยงที่ทำร้ายลูกชายวัย 8 ขวบจนเสียชีวิต มาชี้จุดเกิดเหตุที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยทันทีที่มาถึง มีชาวบ้านที่รออยู่กันเป็นจำนวนมาก

จากนั้นจึงคุมตัวลงจากรถตู้ โดยนายวิรัช สวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อก ก่อนถูกคุมมาชี้จุดที่บริเวณด้านหน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ ทีมข่าวพยามยามสอบถามแต่นายวิรัช ไม่ตอบคำใดๆ ท่ามกลางเสียงชาวบ้านตะโกนด่า และพยามเข้ามาเจ้าหน้าที่จึงรีบพาตัวเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ

ซึ่งระหว่างนั้น ยายของน้องเหนือ น้าชาย ป้า และญาติพี่น้องที่ทราบข่าวก็เดินทางมาถึง ก่อนที่ยายของน้องเหนือ จะปล่อยโหร้องไห้ และทรุดลงไปกับพื้นที่ปริ่มขาดใจ ก่อนตะโกนขอดูหน้าผู้ต้องหา และไม่เข้าใจว่ามาทำกับหลานทำไม ตัวเองเลี้ยงมายังไม่เคยตี

โดยการทำแผนภายในบ้าน มีทั้งหมด 6 จุด จุดแรก จุดที่ก่อเหตุนำเด็กแขวนโยงกับกำแพงห้องนอนเด็ก โดยใช้สายเคเบิ้ลไทร์  จุดที่ 2 ก่อเหตุใช้เท้าเตะเด็กกลางห้องนอนเด็ก จุดที่ 3 จุดที่เด็กปัสสาวะ แล้วนายวิรัช บังคับให้เด็กกินปัสสาวะหน้าห้องนอน

จุดที่ 4 จุดที่ก่อเหตุแขวนเด็กไว้กับราวตากผ้าในห้องน้ำ โดยใช้สายเคเบิ้ล จุดที่ 5 ทางเข้าห้องครัวที่มีการใช้สายเคเบิ้ลมัดเด็กไว้กับเหล็กดัดห้องครัว จุดที่ 6 ห้องนอนพ่อ-แม่ ซึ่งนายวิรัช บังคับให้เด็กกินพริกป่น แล้วเด็กอาเจียน จึงบังคับให้กินอาเจียนตัวเอง

ซึ่งการทำแผนใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที จึงเตรียมนำตัวผู้ต้องหากลับมาขึ้นรถตู้ตำรวจ แต่ปรากฎว่า ระหว่างคุมตัวออกมานายแก้ว น้าชาย ญาติๆ และชาวบ้าน ที่ต่างโกรธแค้น จึงปรี่เข้าไปพยามรุมประชาทัณฑ์นายวิรัช ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ สาบแช่งผู้ต้องหา เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบเอาตัวกลับเข้าไปในบ้าน

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้หลอดไฟหน้าบ้านแตก ขณะที่ยายของน้องเหนือ ก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตำรวจจึงต้องนำรถตำรวจมาจอดหน้าบ้าน และพาขึ้นรถออกไปทันที ซึ่งขณะนั้น ชาวบ้านยังคงรุมด่า สาบแช่งผู้ต้องหา รวมถึงต่อว่าแม่ของเด็ก ที่ไม่ให้การช่วยเหลือลูกตัวเองจนเลยเถิด เสียชีวิต

ขณะที่แม่ของน้องเหนือ ได้เดินออกจากบ้านมา เพื่อเลี่ยงการเจอนายวิรัช เนื่องจากทำใจไม่ได้ และยังยืนยันว่ารักลูกมาก ซึ่งเวลาพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายรู้สึกสงสารลูก แต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะกลัวว่าสามีจะลงมือทำร้ายร่างกายลูกชายหนักขึ้นไปอีก ส่วนสาเหตุเกิดจาก เวลาที่สั่งสอนแล้วเด็กไม่เชื่อฟัง และโกหก

หลังจากนี้ก็จะพาลูกสาวย้ายไปอยู่ที่อื่น ไม่อยากกลับไปให้แม่หนลำบากใจ และทราบดีว่าชาวบ้านไม่ชอบตนเอง เนื่องจากไม่เข้าไปช่วยห้ามปราม ทั้งนี้ไม่ขอโทษใคร ขอโทษตัวเอง ที่ปกป้องลูกไม่ได้

ขณะที่ญาติๆ ได้พาทีมข่าวเข้าไปดูภายในบ้านเกิดเหตุ พร้อมกับสอบถามพี่สาววัย 16 ปี เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ

โดยพี่สาวน้องเหนือ เล่าว่า พ่อเลี้ยงเคยได้นำน้องชายมาผูกที่เหล็กดัดหลังบ้าน ก่อนที่เด็กจะดิ้นหลุดได้ และอีกจุดคือบริเวณกำแพงหน้าห้องนอน ที่มีตะปูตอกอยู่ พ่อเลี้ยงก็เอาเคเบิล มาแขวนน้องชายตรงนี้

ขณะเดียวกันก็มีญาติ สอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดปกติของพ่อเลี้ยงว่ามีบ้างหรือไม่ ก่อนจะมาทราบว่า พ่อเลี้ยง เคยกอด และหอมแก้ม ก่อนบอกว่าพ่อรักหนูนะ ซึ่งจะทำเฉพาะช่วงที่แม่ของเด็กไม่อยู่บ้าน แต่ยืนยันไม่มีพฤติกรรมไปมากกว่านี้

ในเรื่องนี้ น้าชายของน้องเหนือ ยืนยันว่าจากการสอบถามหลานสาว ก็เพิ่งทราบว่าถึงพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งก็มองว่าควรรักลูกทั้ง 2 ให้เท่ากัน เพราะจากพฤติกรรมของผู้ต้องหา พบว่าเคยบังคับให้หลานกินปัสสาวะ กินอาเจียน และกินอุจจาระด้วย

ขณะที่ยายของน้องเหนือ กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกโกรธที่ผู้ต้องหาก่อเหตุกับหลานตนเอง พร้อมขอบคุณตำรวจที่ติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้น คงจะหนีไปไหนต่อไหน พร้อมขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุดโทษประหารชีวิต และขอให้มาขอขมาศพหลาน

ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่าย พลตำรวจตรี สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และ พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผู้กำกับการ สภ.หนองแค ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวิรัช แซ่เอ้ง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี หลังก่อเหตุหลบหนีขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อเดินทางไปทางภาคใต้ ก่อนจะถูกจับกุมได้ ที่ ริมถนนเพชรเกษม ช่วง กม.281 อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง และทำไปโดยอ้างว่าลูกเลี้ยงไม่เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ยอมอ่านหนังสือและทำการบ้าน โดยลงโทษมาแล้วหลายครั้ง ส่วนในวันเกิดเหตุยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้ดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นการลงมือก่อเหตุขณะมีสติสัมปชัญญะ แต่ก่อนหน้านี้ที่เคยก่อเหตุ ดื่มสุราแล้วลงมือ

สำหรับกรณีแม่ของเด็กชายวัยแปดขวบนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าหากพบบุคคลใดเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย

จากนั้นช่วงบ่าย หลังทำการฝากขังต่อศาลจังหวัดสระบุรีผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ จึงคุมตัวลงมาจากห้องควบคุมตัวมาขึ้นรถตำรวจ ไปยังเรือนจำจังหวัดสระบุรี ซึ่งทีมข่าวพยามสอบถามนายวิรัช แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามใดๆ และไม่ได้กล่าวขอโทษกับพฤติกรรมของตนเองต่อครอบครัวผู้สูญเสีย

หากย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ คืนวันที่ 19 ตุลาคม ตอนประมาณ 2 ทุ่ม ผู้ต้องหาตีเด็ก กระทืบ ใช้เท้าเตะ และใช้สายไฟตี ก่อนรัดโยงคอกับข้างฝา และปล่อยให้ทิ้งร่วงลงมา จากนั้น เด็กอยากเข้าห้องน้ำ จึงบังคับให้ปัสสาวะใส่ขวด และให้ดื่มปัสสาวะตัวเอง ก่อนจะสั่งให้ยืนห้ามนอนหลับอยู่กลางห้อง

ต่อมาในเวลา 5 ทุ่ม นายวิรัช ตื่นออกมา เห็นเด็กหลับ จึงไม่พอใจ ใช้เท้าเตะที่ลำตัวจนล้มลง และบังคับให้ยืนต่อ ไม่ให้หลับ ก่อนที่ในเวลาตี 4 ของวันที่ 20 ตุลาคม พ่อเลี้ยงเห็นเด็กหลับ จึงใช้เท้าเตะ ใช้สายไฟตีซ้ำ จนเด็กปัสสาวะไหล ก่อนอุ้มเด็กไปห้องน้ำ เอาน้ำราดให้ฟื้น แต่เด็กไม่ฟื้น จึงเรียกแม่เด็ก นำส่งโรงพยาบาลหนองแค

ทั้งนี้ จากการสอบสวนของตำรวจพบว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่มาอยู่ เคยทำร้ายเด็กหลายครั้ง อย่างการใช้สายเคเบิลมัดแขนเด็ก กับเหล็กดัดในบ้าน เคยบังคับเด็กพริกป่น เด็กอาเจียน บังคับให้เด็กกินอาเจียนตัวเองเข้าไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายพัด กู้ภัยสว่างรัตนตรัย จังหวัดสระบุรี จุดหนองแค ซึ่งเป็นคนไปช่วยปฐมพยาบาลเด็กว่า ตนเองได้รับแจ้งว่ามีเด็กถูกทำร้าย จึงไปที่โรงพยาบาลกับอาสาคนอื่น และมีแพทย์ ตอนนั้นเด็กลืมตากว้าง คล้ายกับลักษณะตาตั้ง มีร่องรอยบาดแผลที่แขนซ้ายเต็มไปหมด และที่ข้อมือขวา ตอนนั้นเด็กไม่รู้สึกตัวแล้ว แพทย์พยามปั้มหัวใจ และฉีดยากระตุ้น จนในที่สุดแพทย์ก็ไปแจ้งญาติว่าเด็กเสียแล้ว ในฐานะที่ตนทำงานอาสาสมัครมานานกว่า 9 ปี ไม่เคยเจอกรณีไหนที่โหดร้ายแบบนี้มาก่อน

ทั้งนี้ จากข้อมูลจากญาติทราบว่า นายวิรัช เป็นสามีคนที่4 ของแม่น้องเหนือ โดยลูกสาวคนโต อายุ 16 ปี เป็นลูกที่เกิดจากสามีคนแรก ส่วนน้องเหนือ เป็นลูกที่เกิดจากสามีคนที่ 2  และสามีคนที่ 3 เป็นคนที่รักลูกทั้ง 2 คนมาก ก่อนที่จะมาพบกับสามีคนที่ 4

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา นายวิรัช 3 ข้อหา คือ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย, คมคืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น ให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Xn4gq21knTg