‘ดีอีเอส’ แนะ 5 วิธี แนวทางป้องกัน ภัย e-Payment ป้องกันเงินหายจากบัญชีแบบไม่รู้ตัว

สังคม

‘ดีอีเอส’ แนะ 5 วิธี แนวทางป้องกัน ภัย e-Payment ป้องกันเงินหายจากบัญชีแบบไม่รู้ตัว

โดย thichaphat_d

19 ต.ค. 2564

108 views

ETDA แนะวิธีรับมือ ภัย e-Payment หากพบปัญหา ร้องเรียนได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC


จากกรณีผู้บริโภคถูกตัดเงินและเงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจากการตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย พบว่า เป็นการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ ที่จดทะเบียนในต่างประเทศนั้น ล่าสุด สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Transactions Development Agency (ETDA) (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม


โดย ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC (Online Complaint Center) ได้เผยแพร่บทความและอินโฟกราฟิกผ่านเว็บไซต์ ETDA (https://www.etda.or.th/th/Useful-Resource/Secure-e-Payment.aspx) เตือนภัยผู้บริโภคออนไลน์ เมื่อเกิดปัญหาจากภัยที่ถูกตัดเงินหรือเงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว มีสิ่งสำคัญที่ต้องพึงระวังเพิ่มเติม ดังนี้


1. ระวังการกรอกกรอกข้อมูลส่วนตัวหรือให้ข้อมูลสำคัญทางธุรกรรมผ่านทางโทรศัพท์หรืออีเมล หรือ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น แอปพลิเคชันสินเชื่อให้เงินกู้ เกมออนไลน์

2. ควรกำหนดวงเงินการใช้จ่ายของบัตรเดบิต หรือ บัตรเครดิตให้เหมาะสมเพื่อจำกัดมูลค่าความเสียหาย บางกรณีอาจเลือกตั้งค่าวงเงินให้ต่ำสุดที่ระบบรองรับได้ และปรับแต่งอีกครั้งเมื่อมีการเรียกใช้งาน

3. เลือกใช้ช่องทางการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหวของบัญชีหรือบัตรเครดิต เช่น แจ้งยอดการเคลื่อนไหวของบัญชีออมทรัพย์ หรือ ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตผ่าน SMS การตั้งค่าเตือนผ่านแอปพลิเคชัน

4. หมั่นสังเกตเงินในบัญชีตนเองว่ามียอดลดลงหรือไม่ หรือหากพบการใช้งานที่ผิดปกติควรรีบติดต่อ call center หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตรโดยด่วนเพื่อแจ้งตรวจสอบ หรือ แก้ไขการทำธุรกรรมในทันที

5. หากได้รับการประสานจากธนาคารถึงความผิดปกติทั้งจากทางอีเมล หรือโทรศัพท์ เช่น การล็อกอินเข้าสู่ระบบที่ผิดปกติ การเปลี่ยนข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีบัตร ให้รับทราบ และประสานกลับตามช่องทาง call center ปกติ ของธนาคาร เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นช่องทางจากธนาคารจริง หากเป็นการแจ้งจากธนาคารจริง ให้เฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้ เช่น การนำรหัสผ่านไปใช้งานต่อ การเปลี่ยนอาจมีการฝังมัลแวร์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ใช้งานเพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมตลอดเวลา


นอกจากนี้ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC ยังแนะนำแนวทางวิธีการรับมือ สำหรับผู้บริโภคออนไลน์ที่ประสบปัญหาเงินหายโดยไม่รู้ตัว โดยระบุว่า เมื่อทราบว่าตนเองได้ตกเป็นเหยื่อแล้ว จะต้องรีบแจ้งอายัดบัตร เดบิต หรือ บัตรเครดิตทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเลขหน้าบัตร รวมถึงรหัส cvv ไปใช้


จากนั้น ติดต่อ call center ของธนาคารต้นเรื่อง และดำเนินการตามขั้นตอนของธนาคาร เพื่อปฏิเสธการจ่ายรายการหรือธุรกรรมต่าง ๆ ที่ผิดปกติ และต้องไม่ลืมที่จะเก็บหลักฐานทั้งหมดที่ได้รับ เช่น SMS หน้าจอ วงเงิน statement ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้บริโภคออนไลน์ หรือประชาชนท่านใด ประสบปัญหาภัยคุกคามออนไลน์ ทั้งในกรณีเงินถูกหักโดยไม่รู้ตัว ถูกหลอกลวง ซื้อของแล้วไม่ได้ของ หรือได้ของไม่ตรงปก อย่านิ่งนอนใจ สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือปัญหา หรือขอคำปรึกษาเข้ามาได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ 1212 occ ของ ETDA ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ตามช่องทางติดต่อต่างๆ ถึง 4 ช่องทาง คือ

1) สายด่วนโทร.1212

2) อีเมล 1212@mdes.go.th

3) เว็บไซต์ https://www.1212occ.com

4) เฟซบุ๊ก "ข้อมูลข่าวสาร 1212 OCC https://www.facebook.com/1212OCC (คุยที่แช็ตบอต m.me/1212OCC) จากนั้นศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ จะทำการประสานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ท่านเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและได้รับ การเยียวยาอย่างทันท่วงทีมากที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News