ผบช.สอท.เปิด 3 ช่องโหว่ ทำถูกดูดเงินจากบัญชี เหยื่อพุ่ง 4 หมื่นราย รวมกว่า 10 ล้าน

สังคม

ผบช.สอท.เปิด 3 ช่องโหว่ ทำถูกดูดเงินจากบัญชี เหยื่อพุ่ง 4 หมื่นราย รวมกว่า 10 ล้าน

โดย pattraporn_a

18 ต.ค. 2564

180 views

ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์ ได้ประชุมร่วมกับ สมาคมธนาคารไทย และ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหาความร่วมมือแก้ปัญหา



พลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายประมาณ 4 หมื่นคน ยอดสูงสุดของผู้เสียหายอยู่ที่ 2 แสนบาท มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายถูกถอนเงินครั้งละจำนวนไม่มาก แต่รวมแล้วหลายบาท หลายครั้ง เชื่อว่าคนร้ายไม่น่าจะก่อเหตุคนเดียว และมาจากหลายกลุ่ม ใช้วิธีหลายรูปแบบ


ขณะที่ พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผบก.ตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า สำหรับการได้มาซึ่งข้อมูลของผู้เสียหาย เกิดจาก 3 ลักษณะ  คือ


1. การผูกบัญชีบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธนาคารเข้ากับแอพลิเคชั่นต่างๆ และข้อมูลหลุดไปถึงแก๊งมิจฉาชีพ


2. รูปแบบ ฟิชชิ่ง ก็คือ การเข้าไปกรอกในลิงก์ต่างๆ ที่ส่งข้อความมาในมือถือผู้เสียหาย หรืออีเมล และให้กรอกข้อมูลต่าง ๆ อย่างเช่นเว็บไซต์ ไปรษณีย์ไทยที่ถูกปลอมขึ้นมา


3. การใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตในชีวิตประจำวัน เช่น การให้บัตรพนักงานไปชำระค่าสินค้าและบริการ ซึ่งอาจถูกเก็บข้อมูลเลขหน้าบัตร 16 หลัก และเลข CVC หลังบัตร 3 ตัว ซึ่งคนร้ายอาจมีการรวบรวมข้อมูล และขายต่อในตลาดมืด



อย่างไรจากการตรวจสอบพฤติกรรมการดูดเงินมักจะเป็นการดูดเงินจำนวนไม่กี่บาท แต่หลายๆ ยอด เพราะหากเป็นบัตรเดบิต มักจะไม่มีการส่ง sms แจ้งเตือนให้ผู้เสียหายรู้


จากการสอบสวนผู้เสียหาย พบว่า ปลายทางของการใช้จ่าย ส่วนใหญ่เกิดจากการชำระเงินซื้อไอเทมในเกม และอีกรูปแบบคือ ซื้อโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ


โดยหลังจากนี้ ตำรวจประสานกับธนาคาร เพื่อตรวจสอบร้านปลายทางที่รับชำระ อยู่ระหว่างการรอข้อมูล และส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างประเทศ และมีการประสานงานกับธนาคารอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งานของประชาชนปลอดภัยมากขึ้น จากวงเงินที่น้อย แต่หลายครั้งตัวเลขรวมเกินกว่าวงเงินจะต้องมีการทำมาตรการพาสเวิร์ดออกมาให้รัดกุมอีกครั้ง


ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนอย่าผูกบัตรกับเครดิต บัตรเดบิตกับแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นหรือไม่น่าเชื้อถือ ไม่คลิกลิงก์ใน sms หรืออีเมล์แปลกที่ไม่รู้จัก และควรลบหรือปิดเลข CVC เลข 3 ตัวหลังบัตร เพื่อความปลอดภัย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/9zWrVNZNZM4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ