เลือกตั้งและการเมือง
ฝ่ายต้าน ดาหน้าอัดรัฐบาล แจกเงินดิจิทัล ไหนบอกไม่กู้ สุดท้ายกลืนน้ำลายตัวเอง
โดย thichaphat_d
12 พ.ย. 2566
172 views
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการออก พรบ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปแจกตามโครงการ ดิจิตอล วอลเล็ต ว่า นอกจากจะแจกไม่ตรงปกแล้ว ที่นายกยืนยันแข็งขันมาตลอดว่าจะไม่กู้ สุดท้ายก็กลับลำมากู้ ถึงขั้นเตรียมออก พรบ.เงินกู้ กลายเป็นกลืนน้ำลายตัวเอง และยังจะเป็นภาระหนี้ให้กับประเทศและประชาชนต่อไปในอนาคตอีกถึง 5 แสนล้านบาท เพียงเพื่อสนองนโยบายหาเสียง ซึ่งก็เหมือนกันกับ
เรื่องที่ออกมาตอกย้ำหลายรอบว่าจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง ถ้าไม่กลืนน้ำลายตัวเองก็คงไม่เกิดนักโทษ 2 มาตรฐาน ซึ่งตนขอเตือนให้ระวัง เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินไปสู่การล้มละลายทางความน่าเชื่อถือของรัฐบาล พูดอะไรออกไปต่อไปก็จะไม่มีใครเชื่อ
สำหรับเรื่อง พรบ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทจะผิดกฎหมายหรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ถ้าเกิดผิดกฎหมายขึ้นมา ก็จะมาอ้างเป็นเหตุโทษคนอื่นไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องหาช่องทางอื่นที่ถูกต้องและถูกกฎหมาย มาถึงวันนี้ ดิจิตอล วอลเล็ตจึงกำลังกลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับพรรคการเมืองที่มุ่งแต่จะหาเสียงแบบประชานิยม ซึ่งหาก พรบ.นี้เข้าสภาได้ตนก็จะให้ความเห็นต่อไป
-------------------------------------------
สุดารัตน์ เย้ยนายกฯ ไม่ใช้ฝีมือ กู้มาแจกใครๆ ก็ทำได้
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ (x) ว่า
“ดิฉันเห็นด้วยกับการช่วยเหลือประชาชนและการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การกู้มาแจก ทั้งที่นายกฯ ยืนยันมาตลอดมาว่าไม่กู้ จะเป็นความเสี่ยง และภาระที่คนไทยต้องใช้หนี้มหาศาล
กู้มาแจก ใครก็ทำได้ ไม่ต้องใช้ฝีมือในการบริหาร
เหมือนลดค่าไฟ ค่ารถไฟฟ้า ที่ไม่ได้ปรับโครงสร้างที่แท้จริงค่ะ
ดังนั้นจึงเรียกร้องให้นายกฯทำตามคำพูดของตนเอง ว่าจะ ไม่กู้เงินมาแจก
จะใช้การตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็น และรายได้จากการเก็บภาษีที่ได้เพิ่ม ซึ่งเป็นหลักการถูกต้อง
ไม่ใช่กู้มาแจกค่ะ”
--------------------------------------
'ฐากร' ชี้เงินดิจิทัล ข้อดีไม่เท่าที่รัฐบาลคิด แต่ต้องเดินหน้า เหตุเดิมพันถึงเลือกตั้งครั้งหน้า
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ประเด็นเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยว่า
“วันนี้มาตามประเด็นร้อนเรื่อง ‘เรื่องเงินดิจิทัล’ กันครับ
ผมในฐานะพรรคฝ่ายค้านและได้แสดง จุดยืนชัดเจนว่า ‘เราจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่จะไม่ค้านทุกเรื่อง และจะเป็นฝ่ายค้านที่ค้านแบบสร้างสรรค์ เว้นแต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินนโยบายทุจริตคอร์รัปชั่นและทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้นและดำเนินการให้ถึงที่สุด’
วันนี้มาวิเคราะห์ประเด็นร้อน ‘เรื่องเงินดิจิทัล’ ผมมีความเห็นดังนี้
1) รัฐบาลก็จินตนาการมากเกินไป ถ้าแจกเงินดิจิทัลแล้ว เงินจะหมุนเวียนในระบบไม่น้อยกว่า 5-6 รอบ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้มากมายนั้น ผมยืนยันว่า ‘คงไม่ถึงขนาดนั้นแน่’
2) สำหรับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ก็สร้างภาพความน่ากลัวของการแจกเงินดิจิทัลมากจนเกินไป มากจนเงินดิจิทัลเป็นตัวร้ายและจะสร้างปัญหาให้กับประเทศอย่างมากในอนาคตข้างหน้า
3) เมื่อเปรียบเทียบระหว่างข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ผมวิเคราะห์ดังนี้
‘ข้อดีก็คงไม่ได้ดีถึงขนาดที่รัฐบาลเอ่ยอ้าง แต่สำหรับข้อเสีย ก็คงไม่ได้เสียร้ายแรงขนาดที่อีกฝ่ายพูดถึง’
บทสรุป ‘ถ้าผมเป็นรัฐบาล หากไม่ได้ประกาศนโยบายในช่วงหาเสียงไว้’ ผมคงตัดสินใจ ‘ไม่แจกเงินดิจิทัล’
มองในมุมกลับกัน หากผมเป็นพรรคเพื่อไทยเอง ในเมื่อโครงการนี้ได้ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงในช่วงเลือกตั้งไว้แล้ว ถึงแม้ประโยชน์จะน้อย แต่ข้อเสียไม่มี เลือกเดินหน้าโครงการดีกว่า เพราะถ้าเพื่อไทยจะเลือกไม่เดินหน้าโครงการในครั้งนี้แล้ว
‘เลือกตั้งครั้งหน้าจะเหลืออะไรครับ'”
-----------------------------------------
'วิโรจน์' เทียบคำพูดนายกฯ ก่อน-หลัง หาเสียง ไหนบอกไม่ต้องกู้ แต่จริงๆ แล้วกู้เต็มกราฟ
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล แชร์คลิปเปรียบเทียบคำพูดของนายกเศรษฐา ก่อนและหลังหาเสียง ถึงประเด็นแจกเงินดิจิทัล โดยระบุว่า
“ผมเข้าใจนะว่า การขับเคลื่อนนโยบายจริง มันต้องปรับเปลี่ยนจากนโยบายที่หาเสียงอยู่บ้าง แต่ต้องไม่ขัดกับหลักการสำคัญของโครงการ
แต่การกู้แบบเต็มกราฟ มหึมาขนาด 5 แสนล้านบาท เรื่องที่มาของเงิน มันขัดต่อหลักการสำคัญของโครงการนี้ ที่ย้ำมาโดยตลอดว่า "ไม่ต้องกู้" เชียวนะ
----------------------------------------------------
'ธีรรัตน์' โต้กลับ บางคนทำงานด้วยการวิจารณ์เท่านั้น
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.เพื่อไทย หนึ่งเดียวของกรุงเทพมหานคร ได้ตอบโต้เสียงวิจารณ์ ระบุว่า
“นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เป็นอีกหนึ่งวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ออกแบบสิ่งที่ยากให้นำสู่การปฏิบัติได้จริง ความสามารถ ประสบการณ์ของนักบริหารแต่ละท่านแตกต่างกัน หลายท่านพิสูจน์ความสามารถผ่านช่วงวิกฤตจนธุรกิจประสบความสำเร็จ บางท่านทำงานด้วยการวิจารณ์เท่านั้น”
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VFiFRO9KmEQ